“นันทนา” แฉเอง พยานหลักฐานเพียบ ฮั้วเลือกตั้ง ส.ว.

“นันทนา” แฉ พยานหลักฐานท่วมท้น ฮั้วเลือกตั้ง ส.ว. หนุนกวาดล้างถึงผู้บงการ
(23 ก.พ.68) รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. กล่าวกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับคดีการฮั้วเลือกตั้ง ส.ว.ไว้เป็นคดีพิเศษว่า การได้มาซึ่ง สว.ชุดนี้ เป็นที่กังขาของประชาชน ผู้คนตั้งคำถามร้องเรียนไปยัง กกต.มากมาย ในฐานะคนที่เข้าร่วมการเลือก สว.ครั้งนี้ และปัจจุบันเป็น สว.เสียงข้างน้อย ได้เคยตะโกนบอกสังคมถึงความผิดปกติของกระบวนการเลือกสว. ที่มากันเป็นกลุ่มก้อนแบบมหัศจรรย์ ตั้งแต่การเลือกรอบประเทศแล้ว

รศ.ดร.นันทนา ระบุ ผ่านไปกว่า 7 เดือน DSI จึงเข้ามาแสดงตัวที่จะสอบสวนเรื่องนี้ หลังจากที่ทางกกต.ยังเงียบสนิท การที่ DSI เข้ามาดำเนินการเรื่องนี้ ประชาชนทั้งหลายล้วนให้การสนับสนุน เพราะนี่คือแสงสว่างแห่งกระบวนการยุติธรรมที่เริ่มต้นขึ้นแล้ว พยานวัตถุ พยานบุคคล หลักฐานต่างๆท่วมท้น ตั้งแต่กระบวนการเลือก ต่อเนื่องมาจนถึงพฤติกรรมการลงมติในสภา
รศ.ดร.นันทนา เห็นว่า การสืบสวนสอบสวนของ DSI จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ก็ต่อเมื่อ ต้องปฏิบัติการกวาดล้าง “ขบวนการ” hack ระบบทั้งหมด ตั้งแต่ผู้บงการ จนถึงผู้ร่วมปฏิบัติการทั้งหมดทุกคน ไม่ต้องละเว้น ไม่ต้องเกรงใจใคร มาตรา 113 ของรัฐธรรมนูญ บัญญัติไว้ชัดเจนว่า สมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใด ซึ่งก็ชัดเจนว่า ต้องการจะให้วุฒิสภาไม่ถูกพรรคการเมืองใดควบคุม และการที่ให้เลือกมาจาก 20 กลุ่มอาชีพ ก็ด้วยหมายจะให้สะท้อนความหลากหลายในสังคมไทยให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
“การปล่อยให้กลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ที่สัมพันธ์กับพรรคการเมืองอย่างแนบแน่น เข้ามา hack ระบบอย่างอุกอาจ และเข้าไปคุมเสียงข้างมากเด็ดขาดในวุฒิสภา ซึ่งมีอำนาจเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบตัวบุคคลในองค์กรอิสระทั้งหลายเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อระบบนิติรัฐของไทย นี่คือผลพวงจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่ออกแบบการได้มาซึ่ง สว.แบบวิปริต ไม่ให้ประชาชนเลือกตั้ง แต่กลับให้คนกลุ่มหนึ่งจ่ายเงินเพื่อให้ได้สิทธิ์เข้ามาเลือกกันเอง เปิดช่องให้มีการทุจริต นำพรรคพวกเครือข่าย เข้ายึดสถาบันนิติบัญญัติแบบเบ็ดเสร็จ เห็นได้ชัดว่า พรรคใดที่ได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ย่อมทำทุกวิถีทางที่จะยื้อยุดฉุดรั้งการแก้รัฐธรรมนูญ มิใช่เพื่อประชาชนใดๆ แต่เป็นไปเพื่อรักษาอำนาจไว้ ใช้ปกป้องผลประโยชน์ของพรรคพวกตนเพียงเท่านั้น” รศ.ดร.นันทนา กล่าว