‘อุ๊งอิ๊ง’ ลูกสาว ‘ทักษิณ’ ขยับ ชู สร้างนโยบายด้วยนวัตกรรม
‘แพทองธาร’ ขยับ ดันแนวคิดเชิงนวัตกรรม หวังสร้าง ‘นวัตกรรมทางการเมือง’ แก้ปัญหาประชาชน ชี้เป็นทางรอดพรรคการเมืองยุคใหม่ ต้องเข้าใจปัญหาให้ถึงแก่น สร้างนโยบายตอบโจทย์ประเทศ
วันที่ 2 มี.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย จัดกิจกรรมเวิร์คช็อปในหัวข้อ “คิด-เปลี่ยน-โลก สร้างโลกที่ดีกว่าและแก้ปัญหาด้วยความคิดเชิงนวัตกรรม” บรรยายโดยนายชาคริต จันทร์รุ่งสกุล ผู้ก่อตั้งบริษัท Fire One One และที่ปรึกษาด้าน Business Transformation เพื่อแลกเปลี่ยนและระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับ ‘กระบวนการคิดเชิงนวัตกรรม’ (Innovative Thinking) สำหรับนำไปปรับใช้กับการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรค รวมทั้งกรรมการบริหาร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกพรรคเข้าร่วมฟังเป็นจำนวนมาก
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า หัวใจของกระบวนการคิดเชิงนวัตกรรม (Innovative Thinking) เริ่มต้นที่การเข้าใจถึงปัญหาที่แท้จริง เข้าใจมนุษย์ เข้าใจคน เพื่อเรียนรู้ปัญหา ให้ถึงแก่น จนได้มาซึ่งวิธีการแก้ปัญหา (Solution) โดยมองว่าพรรคเพื่อไทย สามารถนำเอากระบวนการคิดเชิงนวัตกรรม มาสร้าง ‘นวัตกรรมทางการเมือง’ (Political Innovation) ผ่าน ส.ส. และสมาชิกในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยซึ่งมีรากจากพรรคไทยรักไทย ได้ใช้วิธีการลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาเพื่อให้เข้าใจปัญหา จนนำมาสู่การแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้สำเร็จผ่านหลากหลายนโยบาย เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค รวมถึงกองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พรรคการเมืองจึงต้องมีการปรับวิธีการเก็บข้อมูล ที่ต้องมาจากประชาชนและการรับฟังเพื่อเข้าใจปัญหาที่แท้จริง นำมาผ่านกระบวนการคิดและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคโนโลยี ผ่านวิธี DIKW รวม 4 ขั้นตอนได้แก่
1.D : Data จัดเก็บข้อมูลดิบ 2. I : Information ประมวลผลออกมาข้อมูลที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ 3. K : Knowledge สร้างองค์ความรู้จากข้อมูล 4. W : Wisdom ใช้ภูมิปัญญาในการแก้ไขปัญหา เมื่อผ่านกระบวนการทั้ง 4 ขั้นตอน จะได้มาซึ่ง ‘สมมติฐาน’ (Hypothesis) แล้วจึงนำมาสร้างวิธีการแก้ปัญหา (Solution) ออกมาเป็นนโยบายใหม่ๆ ต่อไป
“พรรคเพื่อไทยสานต่อแนวคิดการลงพื้นที่รับฟังปัญหาประชาชนทั่วประเทศของพรรคไทยรักไทย ก่อนนำเสนอเป็นนโยบาย ซึ่งในขณะนี้ ในบริบทที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่เรายังไม่เปลี่ยนคือ การรับฟังและการค้นหา รากของปัญหาที่แท้จริง เป็นกระบวนการคิดใหม่ที่พรรคการเมืองควรเพิ่มเสริมเข้าไปเพื่อตอบสนองสนองสิ่งใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศ” น.ส.แพทองธาร กล่าว