‘ปิติพงศ์’ ค้าน เก็บภาษีทำนา ซ้ำเติมกระดูกสันหลังประเทศ
‘ปิติพงศ์’ แห่งพรรคเป็นธรรม ค้าน เก็บภาษีทำนา ซ้ำเติมกระดูกสันหลังประเทศ
วันที่ 15 ม.ค. นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าวถึงรัฐบาลจะเก็บภาษีน้ำจากการทำนาไร่ละ 25 บาทว่า ชาวนาขายข้าวได้ถูกกว่ามาม่า ปุ๋ยแพงขึ้น ต้นทุนสูง รัฐยังจะเก็บค่าน้ำทำนาอีก จะซ้ำเติมชาวนาไปถึงไหน จากกรณีที่มีข่าวว่า กรมชลประทานได้จัดรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง พ.ศ. … โดยมีประเด็นเรื่องของคิดอัตราค่าธรรมเนียมการเก็บ ค่าน้ำทำนา โดยหากทำนามากกว่าร้อยละ 30 ของพื้นที่ จะต้องจ่ายค่าน้ำทำนาไร่ละ 25 บาทต่อปี หากทำเกษตรกรรมอื่นนอกจากน่าจะต้องจ่ายค่าน้ำลูกบาศก์เมตรละ 5 บาท
นายปิติพงศ์ กล่าวว่า แนวคิดการเก็บค่าน้ำทำนาดังกล่าวได้รับการต่อต้านและคัดค้านเป็นอย่างมากจากชาวนา เนื่องจากในปีที่ผ่านมาชาวนาขายข้าวไม่ได้ราคา โดยราคาข้าวตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ เหลือเพียงกิโลกรัมละ 5 บาทเท่านั้น ซึ่งถูกกว่าราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อีกทั้งราคาปุ๋ยยังปรับตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เหตุผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกมีต้นทุนก๊าซธรรมชาติสูงขึ้น จึงต้องปรับราคาขายปุ๋ยที่มีส่วนผสมของธาตุที่เกิดจากก๊าซธรรมชาติสูงขึ้น และต้นทุนในการทำนาต่อไร่ของชาวนาก็สูงขึ้นเช่นเดียวกัน
นายปิติพงศ์ กล่าวว่า สภาวะที่ชาวนามีต้นทุนในการทำนาสูงขึ้น แต่ขายข้าวไม่ได้ราคาเช่นนี้ หากรัฐยังจะคิดเก็บค่าน้ำทำนาชาวนา ก็จะไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งต่อชาวนา ที่ได้ชื่อว่าเป็น กระดูกสันหลังของชาติ เพราะจะยิ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนในการทำนาให้กับชาวนา เป็นการซ้ำเติมความทุกข์ยากเดือดร้อนของชาวนา และเป็นการเพิ่มคราบน้ำตาให้กับประชาชน
“รัฐบาลต้องหยุดแนวคิดดังกล่าวทันที รัฐต้องไม่เพิ่มต้นทุนให้กับชาวนาในการทำนา แต่จะต้องหาแนวทางในการลดต้นทุนให้กับชาวนา และแสวงหาตลาดให้กับข้าวไทย เพื่อให้ข้าวไทยขายได้ราคาในตลาดโลก รวมไปถึงกลไกในการขจัดอุปสรรคของพ่อค้าคนกลางที่ทำให้ราคาข้าวของชาวนาขายได้ตกต่ำ รัฐบาลต้องทำให้ชาวนาขายข้าวได้ราคา มีต้นทุนต่ำ ไม่ใช่ทำตัวเป็นอุปสรรคขัดขวางการทำมาหากินของประชาชน หยุดแนวคิดการเก็บค่าน้ำทำนา หยุดสร้างภาระให้ประชาชน
