นายกฯ ยันเลือกตั้งไม่เกินก.พ.ปีหน้า
รัฐบาลพร้อมให้มีการเลือกตั้งไม่เกินเดือนก.พ.ปีหน้า หลังกฎหมายลูก 2 ฉบับผ่านความเห็นชอบจากสนช. ด้าน”บิ๊กตู่” ขอบคุณ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ตั้งพรรคการเมืองหนุนตนเป็นนายกฯ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 ก.พ.2561 ว่า หลังกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทั้ง 2 ฉบับผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ โดยมีระยะเวลาประมาณ 3 เดือน จากนั้นจะมีการจัดประชุมแม่น้ำ 5 สายร่วมกับพรรคการเมืองเพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งจะอยู่ในกรอบเวลาไม่เกินเดือนก.พ.2562
“พอเดือนมิ.ย.ต้องมีการหารือกันในส่วนของแม่น้ำ 5 สายและพรรคการเมืองด้วย ว่าตามกติกาควรกำหนดวันเลือกตั้งเมื่อ ไหร่ อย่างไร ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ในกรอบที่กำหนดเดือนก.พ.2562 ตอนนี้ผมก็ตอบชัดเจนแล้วนะ การเลือกตั้งไม่เกินก.พ.2562 จะเอาอะไรกันอีก”
สำหรับการพิจารณาปลดล็อคพรรคการเมืองนั้น จะพิจารณาในเรื่องของกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับมีผลบังคับใช้ และความพร้อมของทุกฝ่าย ซึ่งอยากให้จับตาดูว่าหากปลดล็อคแล้วสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ซึ่งขอให้รอดู แต่ยังหวังให้บ้านเมืองสงบ นำไปสู่การเลือกตั้งได้ จึงขอความร่วมมือจากฝ่ายการเมืองที่ต้องช่วยกันรักษาบรรยากาศและความสงบ เพราะส่วนตัวไม่ได้อยากให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปเรื่อยๆ เนื่องจากไม่ได้อยากอยู่ต่อ
ในวันที่ 1 มี.ค.พรรคการเมืองจะสามารถดำเนินการจดทะเบียนตั้งพรรคใหม่และสามารถจัดประชุมสมาชิก 250 คน เพื่อเตรียมการเกี่ยวกับกฎระเบียบของพรรคการเมือง เนื่องจากพรรคใหม่ยังไม่เคยดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ ดังนั้นต้องให้ความเป็นธรรมกับพรรคการเมืองใหม่ ส่วนการจะประชุมอื่นๆต้องขออนุญาตจาก คสช.เป็นรายกรณีไป ซึ่ง คสช.ก็จะพิจารณาตามความเหมาะสม
ส่วนพรรคการเมืองเก่าจะเริ่มดำเนินการได้ในวันที่ 1 เม.ย.โดยเป็นสำรวจรายชื่อสมาชิกพรรค แต่ยังไม่อนุญาตให้ประชุมพรรค ต้องรอให้กฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว.ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาก่อน จากนั้นจะเรียกประชุมแม่น้ำ 5 สายและพรรคการเมือง ประมาณเดือนมิถุนายน เพื่อร่วมกันกำหนดวัน เวลาในการเลือกตั้งที่เหมาะสม โดยยึดกรอบไม่เกินเดือนก.พ.62
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่มีการล้มกฎหมายลูก 2 ฉบับเพราะไม่มีความจำเป็น เช่นเดียวกับกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะไม่เกิดสุญญากาศในช่วงสรรหา กกต.ใหม่ เพราะ กกต.ชุดเดิมยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
ส่วนกรณีกระแสข่าวนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการมูลนิธิมวลมหาประชาชน เตรียมตั้งพรรคเพื่อสนับสนุนให้ตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การตั้งพรรคการเมืองถือเป็นเรื่องส่วนตัวของนายสุเทพ และขณะนี้ก็มีผู้ยื่นตั้งพรรคการเมืองใหม่เป็นจำนวนมาก ซึ่งหากนายสุเทพสนับสนุนตนเองจริงก็ต้องขอบคุณ และขอบคุณทุกคนที่จะให้การสนับสนุน แต่การกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ต้องดูว่าสามารถเป็นได้อย่างไร เพราะทุกอย่างอยู่ที่กฎหมายและรัฐ ธรรมนูญกำหนด ไม่ใช่มีผู้สนับสนุนแล้วจะสามารถเป็นได้ จึงขออย่าขยายให้เป็นประเด็นทางการเมืองเพิ่มเติม ไม่เช่นนั้นจะขัดแย้งไม่จบ
ด้านพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้ แจงมาตรการผ่อนคลายให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมตามกำหนดในวันที่ 1 มี.ค.แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการในวันมาฆบูชา ดังนั้นในวันที่ 2 มี.ค.พรรคการเมืองใหม่ที่จะจดทะเบียนจัดตั้งพรรค จะสามารถจองชื่อและเตรียมจดทะเบียน พร้อมหาสมาชิกให้ได้ 250 คนเพื่อจัดการประชุมจัดตั้งพรรค ส่วนการหาสมาชิกเพิ่มเติมต้องขออนุญาตจาก คสช.ก่อน
ส่วนพรรคการเมืองเดิม ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินกิจกรรมใด ๆ ได้ เพราะจะเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกัน โดยจะสามารถไปเริ่มทำกิจกรรมได้ในวันที่ 1 เม.ย.2561 เช่น การติดต่อสมาชิก
“ใกล้ถึงกำหนดที่จะคลายล็อค ไม่ถึงขั้นปลดล็อคในวันที่ 1 มีนาคมนี้ตามที่ คสช.เคยมีคำสั่งไว้เมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว พรรคการเมืองเก่ายังไม่สามารถทำอะไรได้ในช่วงนี้ เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เพรียบพร้อมอยู่แล้ว”
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนการจัดทำกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.คาดว่า สนช.จะสามารถดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือน มี.ค.2561 หลังจากนั้นก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงมีพระราชวินิจฉัย 3 เดือน หรือราวเดือน มิ.ย.2561 หลังจากโปรดเกล้าฯ แล้วจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้หลังจากนั้น 90 วัน โดย คสช., ครม., กกต., ประธาน สนช. จะได้เชิญหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ มาร่วมประชุมเพื่อกำหนดโรดแมพทางการเมือง
“จะประชุมมาหารือกันเพื่อกำหนดโรดแมพทางการเมืองว่า เราจะพร้อมเลือกตั้งกันเมื่อไหร่ จะปลดล็อคทางการเมืองกันเมื่อไหร่ จะหารือกันในช่วงเดือนมิถุนายนให้ได้ข้อยุติ จะรู้ว่าเลือกตั้งได้เมื่อไหร่ก็ต้องรอเดือนมิ.ย.”
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้า คสช.ได้ประกาศไว้ว่าไม่มีนโยบายที่จะล้มกฎ หมายเลือกตั้ง ดังนั้น หากประกาศกฎหมายในราชกิจจานุเบกษาได้ในเดือน มิ.ย.ก็จะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ในช่วงเดือน ก.ย.2561-ก.พ.2562
“เพราะตามกฎหมายบอกว่าหลังจากกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งประกาศใช้แล้วต้องจัดการเลือกตั้งให้ได้ภายใน 150 วัน เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เดือนกันยาฯเป็นต้นไปจนถึงกุมภาฯ จะเกิดเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละส่วน และสถานการณ์ด้วย” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว.