รัฐบาลอนุมัติผลิตเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากทำเนียบรัฐบาลว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ราคา 10 บาท 5 บาท 2บาท 1บาท 50 สตางค์ 25 สตางค์ 10 ตางค์ 5สตางค์ และ1 สตางค์ พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
โดยกระทรวงการคลัง เสนอว่า กรมธนารักษ์ ได้จัดทำเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่ จำนวน 9 ชนิดราคา ได้แก่ ชนิดราคา10 บาท 5บาท 2บาท 1บาท 50สตางค์ 20ห้าสตางค์ 10สตางค์ 5สตางค์ และ1สตางค์ เพื่อใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่ง กระทรวงการคลัง ได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตรูปแบบเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่ และได้รับพระราชทานพระราชานุญาตแล้ว
สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง กำหนดชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของ 1.เหรียญกษาปณ์โลหะสองสี (สีขาวและสีทอง) ราคา 10 บาท 2.เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) เคลือบไส้ทองแดง ราคา5 บาท 3.เหรียญกษาปณ์โลหะสีทอง (ทองแดงผสมนิกเกิลและอลูมิเนียม) ราคา2 บาท 4.เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ไส้เหล็กชุบนิกเกิล) ราคา1 บาท 5.เหรียญกษาปณ์โลหะสีแดง (ไส้เหล็กชุบทองแดง) ราคา 50 สตางค์ (6) เหรียญกษาปณ์โลหะสีแดง (ไส้เหล็กชุบทองแดง) ราคา 20 ห้าสตางค์ (7) เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (อลูมิเนียม) ราคา 10 สตางค์ (8) เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (อลูมิเนียม) ราคา5สตางค์ และ (9) เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (อลูมิเนียม) ราคา1สตางค์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ กรมธนารักษ์ ระบุว่า การผลิตเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่ ที่ด้านหน้าเหรียญจะเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และด้านหลังของเหรียญจะเป็นตราพระปรมาภิไธยย่อ ว.ป.ร. ใต้พระมหาพิชัยมงกุฎนั้น จะเริ่มทยอยใช้หมุนเวียนในระบบได้ในช่วงต้นปี 2561 เป็นต้นไป เพื่อทดแทนเหรียญหมุนเวียนในระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าเหรียญกษาปณ์ชุดเดิมจะทยอยหมดไปจากระบบภายใน 5-10 ปี.