พฤกษาฯส่งเดอะไพรเวซี่เจาะ3 ทำเลศักยภาพ
พฤกษาฯ เปิดแผนครึ่งปีหลัง จ่อเปิดตัวคอนโดมิเนียม “เดอะ ไพรเวซี่” อีก 3 โครงการ มูลค่ารวม 5,500 ล้านบาท เชื่อเป็นทำเลศักยภาพ ตั้งอยู่บนเส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน-พระราม 9 ยันตลาดคอนโดฯ ราคา 2-3 ล้านบาท ความต้องการมีสูง
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถครองส่วนแบ่ง(มาร์เก็ตแชร์) อันดับ 1 ในกลุ่มตลาดคอนโดมิเนียมระดับราคา 2-3 ล้านบาท ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาฐานลูกค้าในกลุ่มนี้ ภายในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมีเนียมแบรด์ เดอะ ไพรเวซี่ (The Privacy) อีก 3 โครงการ มูลค่ารวม 5,500 ล้านบาท
โดยในช่วงไตรมาส 3 นี้ จะเปิดตัว 2 โครงการ ได้แก่ เดอะ ไพรเวซี่ จรัญฯ-ราชวิถี สเตชั่น ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสิรินธร ใกล้แยกบางพลัด ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท และ เดอะ ไพรเวซี่ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ เป็นโครงการแรกบนถนนจรัญสนิทวงศ์ ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท ทั้งสองโครงการเป็นทำเลศักยภาพบนเส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน มีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 2562 และในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ จะเปิดอีก 1 โครงการ ได้แก่ เดอะ ไพรเวซี่ พระราม 9
ทั้งนี้ เดอะ ไพรเวซี่ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แนวคิด “Compose Your Moment” สร้างโลกที่น่าหลงใหลในแบบคุณ จับกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ช่วงอายุประมาณ 25-35 ปี ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีสไตล์เฉพาะตัว จึงได้ออกแบบฟังชั่นและดีไซน์ที่เน้นสร้างมูลค่าเพิ่ม อำนวยความสะดวกพร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่ครบครัน และยังมีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อการอยู่อาศัย เช่น ระบบ Smart Access ผ่านประตูเข้าออกทุกจุด ตั้งแต่หน้าโครงการจนถึงประตูห้องชุดด้วย Smart Phone เพียงเครื่องเดียว
โครงการ เดอะ ไพรเวซี่ จรัญฯ-ราชวิถี สเตชั่น เป็นอาคารสูง 24 ชั้น 1 อาคาร มีห้องชุดพักอาศัยจำนวน 281 ยูนิต มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท และเตรียมเปิดพรีเซล ไพรเวท เดย์ ในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ พร้อมรับส่วนลดสูงสุดกว่า 200,000 บาท และ เดอะ ไพรเวซี่ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ เป็นอาคารสูง 22 ชั้น 1 อาคาร มีห้องชุดพักอาศัยรวม 795 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,400 ล้านบาท จะเปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์จองวันที่ 3 สิงหาคมที่เดอะมอลล์ท่าพระ และเปิดให้ชมสำนักงานขายและห้องตัวอย่าง วันที่ 19 สิงหาคม ส่วนการเปิดขายอย่างเป็นทางการจะเริ่มในวันที่ 23 กันยายนนี้
นายปิยะ กล่าวอีกว่า สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมในกลุ่มระดับราคา 2-3 ล้านบาทนั้น ยังเป็นตลาดที่มีความต้องการอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับกลุ่มคอนโดมิเนียมในระดับพรีเมียม ขณะเดียวกัน บริษัทพฤกษาเองได้มีกลยุทธ์เน้นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการซื้อบ้านจริงๆ เท่านั้น และจะปฏิเสธการซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุน หรือเก็งกำไร โดยจะมีวิธีการตรวจสอบในระดับหนึ่ง รวมทั้งการตรวจสอบสถานะและความสามารถในการผ่อนชำระจากสถาบันการเงิน
“เราจะเน้นลูกค้าตัวจริงเท่านั้น และจากมาตรการที่เราใช้มานั้นทำให้ยอดปฏิเสธสินเชื่อบ้านของบริษัทเองต่ำกว่าระบบรวมค่อนข้างมาก โดยเราจะมียอดปฏิเสธสินเชื่อรวมทุกเซ็คเตอร์เฉลี่ยที่ 5-6% เป็นคอนโดมิเนียม 2% ทาวฮ้าส์ 7% และบ้านเดี่ยวเป็นหลัก 10% ซึ่งยังต่ำกว่าระบบที่มีตัวเลขค่อนข้างสูง”นายปิยะ กล่าว
ส่วนผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในครึ่งปีแรก บริษัทสามารถทำยอดขายได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมียอดขายราว 2.6-2.7 หมื่นล้านบาท เซ็คเตอร์ที่สร้างยอดขายให้บริษัทในครึ่งปีแรกคือคอนโดมีเนียมในกลุ่มราคา 2-3 ล้านบาท ขณะที่ทั้งปีตั้งเป้าหมายยอดขายที่ 5.2 หมื่นล้านบาท