สรุปข่าว 25-10-63
ส่องหุ้นไทย : บล.กสิกรไทยมองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (26-30 ต.ค.) คาดมีแนวรับที่ 1,200 และ 1,185 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,225 และ 1,235 จุด ตามลำดับ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ รวมถึงผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของบจ. ของไทย
ตลอดจนสถานการณ์ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีและความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ประเด็น BREXIT และสถานการณ์โควิด-19 ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 3/63 ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รวมถึงรายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ย. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตลอดจนจีดีพีไตรมาส 3/63 ของยูโรโซน
น้ำมันขยับลงอีก : ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ล่าสุด ปิดตลาดเมื่อ 25 ต.ค. พบว่า ราคาน้ำมับดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ซื้อขายล่วงหน้า งวดส่งมอบเดือน พ.ย. ปิดลดลงเล็กน้อย 0.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-2.19%) มาอยู่ที่ระดับ 39.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดตลาดลดลง 0.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-1.93%) ที่ระดับ 41.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล.
ราคาทองหดตัว : ราคาทองคำ Spot ดอลลาร์สหรัฐ ปิดตลาดเมื่อ 24 ต.ค. (ตรงกับเช้า 25 ของไทย) ยังคงปรับตัวลดลง 2.54 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (-0.13%) ปิดที่ 1,901.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านสมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำเพียงครั้งเดียว ซึ่งเป็นราคาลดจากวันก่อน 50 บาท โดยทองคำแท่งรับซื้อที่ 28,100 บาท ขาย 28,200 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณ รับซื้อที่ 27,591.20
บาท และขายที่ 28,700 บาท.
บาทสัปดาห์หน้า : แบงก์กสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์หน้าที่ 31.00-31.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ และรายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนก.ย. ของธปท. รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและประเด็นทางการเมืองของสหรัฐฯ ในช่วงใกล้เลือกตั้งประธานาธิบดี
ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. รายได้/รายจ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคา Core PCE Price Index ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย. จีดีพีไตรมาส 3/63 (ประกาศครั้งที่ 1) และดัชนีราคาบ้านเดือนิส.ค. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน.
ไม่ลาออก : พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุหลังเสร็จสิ้นพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ที่วัดพระเชตุพนฯ ว่า ช่วงนี้เรามีวิกฤติเศรษฐกิจ ตนไม่สบายใจ ต้องการทำให้ทุกอย่างดีขึ้น วันนี้ต้องเอาศาสนามาด้วย รัฐบาลมีคำว่าประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะฝ่ายไหน เพราะไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลคนไทยทุกกลุ่มทุกฝ่าย ขอให้ทุกคนหันหน้ากลับมาปรองดองหารือร่วมกันแก้ปัญหา ทุกปัญหามันแก้ได้ถ้าตั้งใจจริง รัฐบาลยืนยันว่าตั้งใจจริงแก้ปัญหา ขอให้อยู่ในกรอบกฎหมาย โดยก่อนหน้านี้ ได้เดินทักทายและถ่ายรูปกับประชาชนที่มาร่วมพิธีและให้กำลังใจ ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองและอย่าออก ซึ่งนายกฯชู 2 นิ้วตอบกลับว่า “ไม่ออกๆ”.
ยกระดับ : นายธัชพงศ์ แกดำ แนวร่วมคณะราษฎร ระบุ ตั้งแต่นักเรียน นักศึกษา ทั่วประเทศเคลื่อนไหวมาเกือบ 200 วัน มีคนเห็นด้วยถึง 80% การชุมนุมหลายพื้นที่ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนเกือบล้านเข้าร่วมกิจกรรม โดยไม่บุกรุกสถานที่ราชการ แต่จะถอยไม่ได้แล้ว หากพล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ลาออก จะเจอยกระดับการชุมนุม จากคนทั่วประเทศไม่เอาด้วยอย่างแน่นอน ทั้งนี้ น่าจับตามองท่าทีของผู้ชุมนุมฯ หลังจาก นายกฯประกาศไม่ลาออกตามข้อเรียกร้องข้างต้น ที่สุดผู้ชุมนุมฯจะยกระดับการชุมนุมฯอย่างไร ท่ามกลางเสียงตะโกนขับไล่ “ประยุทธ์ออกไปๆ”.
หนุนยูเอ็น : พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชี้ ไทยพร้อมสนับสนุนสหประชาชาติในโอกาสครบรอบ 75 ปี แห่งการก่อตั้งฯ ย้ำว่าไทยยึดมั่นในระบบพหุภาคีนิยม พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแบ่งปันแนวปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และหลักประกันสุขภาพทั่วหน้าที่ ทั้งนี้ ไทยมุ่งมั่นที่จะต่อยอดความร่วมมือ โดยส่งเสริมให้ไทยมีบทบาทที่เข้มแข็งและสร้างสรรค์ ใน 3 เสาหลัก 1. การรักษาสันติภาพและความมั่นคง 2.การพัฒนาอย่างยั่งยืน และ 3. การส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน.
ยกคำร้อง : ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายภาณุพงษ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง ผู้ต้องหาฐานยุยงปลุกปั่นฯ ตามมาตรา 116 และกระทำผิด พ.ร.บ.โบราณสถานฯ รวมถึงมีคำสั่งคำร้องยื่นฝากขังนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง 2 แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก ความผิดฐานยุยงปลุกปั่นฯ ตามมาตรา 116 และข้อหาอื่น ชี้มีพฤติการณ์ร่วมกันกระทำความผิด อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือความวุ่นวาย หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวแล้วอาจก่อให้เกิดเหตุอันตราย หรือความเสียหายประการอื่น และอาจจะหลบหนี ขณะที่ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ผู้ต้องหาคดีชุมนุม “19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร” ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์.
โต้ยูเอ็น : ก.การต่างประเทศของไทยโต้ OHCHR ชี้ว่า ได้เผยแพร่แถลงข่าวร่วม เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรประจำยูเอ็น ได้หารือกับข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนฯ ผ่านการสื่อสารทางไกล เกี่ยวกับสถานการณ์ชุมนุมฯ ย้ำรัฐบาลสั่งยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงฯ และว่าไทยยึดมั่นในพันธกรณีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง รัฐบาลไทยรับมืออย่างสมดุลระหว่างข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมกับความต้องการของคนส่วนใหญ่ที่เป็นพลังเงียบ ชี้กระบวนยุติธรรมและศาลเป็นอิสระ มีคำสั่งยกเลิกคำร้องของกระทรวงดิจิทัลฯเพื่อปิดสื่อบางแห่งแล้ว.
ตู่คือต้นตอ : น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหน.เพื่อไทย ชี้ถึงการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ 26-27 ต.ค. ว่า แม้จะผิดหวังกับญัตติของรัฐบาลที่ตั้งโจทย์ปัญหาของประเทศ เกิดจากการชุมนุมอย่างเดียว ทั้งที่ปัญหาทั้งหมดมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บริหารงานผิดพลาด จึงต้องเข้าร่วมชี้ปัญหาของประเทศให้เข้าใจตรงกัน ต้นตอของปัญหาคือ พล.อ.ประยุทธ์ที่ไร้ความสามารถ ทำงานไม่เป็น รัฐธรรมนูญต้องแก้ไขทันที นายกฯต้องลาออก หยุดคุกคามประชาชนโดยใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม.
สัญญาณไม่ดี : นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ชี้เวทีประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัย เกร่ง รัฐบาล อาจใช้เวทีนี้เพื่อแก้ตัว เติมเชื้อไฟ ปลุกคนอีกกลุ่มขึ้นมา โดยมีพรรคร่วมรัฐบาลและ ส.ว.คอยหนุน ย้ำท่าทีการแสดงออกของนายกฯไม่เห็นว่าจะรับข้อเสนอผู้ชุมนุม ซึ่งเหตุการณ์คืนวันที่ 23 ต.ค.กำลังจะย้อนรอย 6 ตุลาฯ 19 หลังพบสื่อไม่สามารถนำเสนอข่าวรอบด้านได้ รัฐกุมกลไกบางอย่างอยู่ การอภิปรายในรัฐสภาถูกตัดสัญญาณ ทหารเข้าไปในรัฐสภา โดย ปธ.รัฐสภาไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้ จึงกังวลว่าเวทีรัฐสภาอาจจะเป็นแค่ตัวถ่วงเวลา ทำให้ความขัดแย้งในสังคมมากขึ้น.
ชูม็อบไม่ละเมิด : สำนักวิจัยซูเปอร์โพล ระบุความเห็นของประชาชนต่อม็อบเยาวชนว่า 96.7% ควรจะชุมนุมเรียกร้องเฉพาะเรื่องการเมือง อย่าจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบัน ขณะที่ 96.4% ชี้เป็นการชุมนุมด้วยความสงบ ไม่วุ่นวาย เป็นความหวังให้ประเทศได้ชุมนุมได้ดีกว่าม็อบเสื้อสีต่างๆ ที่สร้างความแตกแยกรุนแรงบานปลายในอดีต และ 93.7% บอกม็อบเยาวชน มีความเป็นระเบียบ เรียบร้อย สงบ ไม่รุนแรงบานปลาย เป็นแบบอย่างให้ม็อบเยาวชนทั่วโลกทำตาม ส่วนความเชื่อมั่นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกเป็นคนดี จริงใจแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง ได้ 5.79 คะแนน ถือว่าสอบผ่าน.