เปิด “นิคมฯสงขลา” ดึงเงินลงทุนได้ 13,800 ลบ.
นิคมฯ สงขลา พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบตุลาคมนี้ คาดหากใช้พื้นที่เต็มจำนวนจะดึงเม็ดเงินลงทุนได้ 13,800 ล้านบาท และเปิดด่านสะเดาแห่งที่ 2 – มอเตอร์เวย์สายใหม่ เชื่อมหาดใหญ่-สะเดา
นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมสงขลา ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน จังหวัดสงขลา (SEZ) ประมาณ 35 % คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2563 ตามแผน โดยจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนประมาณ 13,800 ล้านบาท และอัตราการจ้างงานในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 3,400 อัตรา
ทั้งนี้ได้มีนักลงทุนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก อาทิ นักลงทุนจากประเทศมาเลเซีย ประเทศสิงคโปร์ และกลุ่มนักลงทุนในไทย โดยล่าสุดมีการทำสัญญาจองเช่าที่ดินแล้ว 1 ราย พื้นที่ 15 ไร่ เพื่อประกอบธุรกิจคอมมิวนิตี้มอลล์ และสถานีบริการน้ำมัน สำหรับการก่อสร้างระยะที่ 2 พื้นที่ประมาณ 298 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งมอบที่ดินจากกรมธนารักษ์ คาดว่าจะส่งมอบที่ดินให้ กนอ.ได้ภายในเดือนเมษายน 2563
นอกจากนี้ จังหวัดสงขลา ยังเตรียมเปิดด่านศุลกากรสะเดาแห่งที่ 2 รองรับการค้าชายแดน และตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทยได้จัดสร้างทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) บริเวณจุดตัดกับทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) อำเภอบางกลํ่า จังหวัดสงขลา มีจุดสิ้นสุดที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ใกล้กับด่านศุลกากรสะเดา แห่งที่ 2 รวมระยะทาง 70.43 กิโลเมตร ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงระบบการคมนาคมขนส่งอย่างครบวงจรระหว่างอำเภอหาดใหญ่ และอำเภอสะเดา และเพิ่มประสิทธิภาพระบบการขนส่งสินค้าสำหรับการค้าชายแดนในภูมิภาคได้เป็นอย่างดี
นางสาวสมจิณณ์ กล่าวว่า กนอ.มุ่งหวังให้เกิดการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ อุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมบริการ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานพาหนะ หรือเครื่องจักร อุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และสายเคเบิ้ล รวมถึงอุตสาหกรรมเบา ซึ่งจากการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ โดยเฉพาะการเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมขนส่งระหว่างอำเภอหาดใหญ่ และอำเภอสะเดา การมีด่านศุลกากรสะเดา แห่งที่ 2 เชื่อว่าจะเพิ่มศักยภาพให้ทั้งนิคมอุตสาหกรรมยางพารา (Rubber City) และนิคมอุตสาหกรรมสงขลา ที่มีความโดดเด่นอยู่แล้วได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้น.