หนักใจ! ปมเสียบบัตร หวั่นกระทบงบฯ 63
“สมคิด- อุตตม” กังวลใจ ปม “ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน” หวั่นกระทบงบประมาณฯปี 63 เผยที่ผ่านมาก็ล่าช้าอยู่แล้ว หากต้องยื้อเวลาออกไป เกรงกระทบแผนลงทุนและความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล ระบุ การออก “พรก.กู้เงิน” เป็นอีกทางออก ย้ำไม่กระทบเงินเดือนขรก.แน่!
ปมเสียบบัตรแทนของ 2 ส.ส.พรรคภูมิใจไทย กลายเป็นประเด็นร้อน ไม่เพียงกระทบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่อาจเกิดความล่าช้า กระทั่ง ส่งผลกระทบต่อการใช้งบประมาณแผ่นดิน โดยเฉพาะงบลงทุน ที่รัฐบาลและกระทรวงการคลัง คาดหวังจะใช้เม็ดเงินเกือบ 7 แสนล้านบาท เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลก รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนเท่านั้น
หากเรื่องถูกขยายผลถึงขั้นมีการส่งไปวินิจฉัยต่อยังศาลรัฐธรรมนูญ และตีความไปในทิศทางเดียวกับ ร่างพรก.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทของ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” โดยเฉพาะประเด็น “กระบวนการโหวตรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2563 ขัดรัฐธรรมนูญ” อันเป็นผลมาจากการ “เสียบบัตรแทนกัน” ล่ะก็
หมายความว่า…การโหวตรับ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2563 เป็นอันต้องตกไป
แม้กฎหมายจะไม่ระบุชัด! แต่เมื่อกฎหมายสำคัญของชาติ อย่าง…ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีทางเลือก 2 ทาง คือ “ลาออก” หรือไม่ก็ “ยุบสภาฯ”
มิน่า สีหน้าและแววตาของทั้ง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ในวันที่เดินทางไปตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย เมื่อช่วงสายวันนี้ (22 ม.ค.2563) จึงดูแปลกไป..
และเป็นนายสมคิด ที่ให้สัมภาษณ์นักข่าวที่ธนาคารกรุงไทยว่า ไม่อยากให้ขยายผลในเรื่องนี้มากนัก ที่ผ่านมางบประมาณปี 2563 ก็ล่าช้าอยู่แล้ว เมื่อมาเจอเรื่องนี้ (ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน) ก็ยิ่งจะล่าช้าออกไปอีก เกรงว่าจะกระทบต่อแผนการลงทุนของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเองก็เตรียมการรองรับหากเกิดเหตุการณ์ที่เรื่องถูกนำเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ทั้งนี้ ตนได้หารือกับนายอุตตมถึงการดำเนินงานหากเกิดปัญหาขึ้นมา ว่า หากเรื่องเป็นอย่างนี้ เราจะดำเนินอย่างไร? ไปบ้างแล้ว
ขณะที่ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ย้ำว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น รัฐบาลก็ต้องหาทางดึงงบประมาณมาใช้เพื่อการบริหารราชการแผ่นดิน พร้อมกับยืนยันว่า กรณีนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อรายจ่ายในส่วนที่เป็นเงินเดือนประจำของข้าราชการอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ รัฐบาลและกระทรวงการคลัง พร้อมจะหาแนวทางที่ดีและเหมาะที่สุด หากเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นมา ก็ออก พรก.กู้เงิน ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่จะได้ใช้หรือไม่? ตนยังตอบไม่ได้ในขณะนี้ ต้องรอให้เกิดความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวเสียก่อน
น่าสนใจว่า ปม “ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน” ที่ว่าไปแล้ว มันออกมาจาก “พรรคร่วมรัฐบาล” อย่าง…พรรคประชาธิปัตย์ ด้วยซ้ำไป! จะส่งร้ายต่องบประมาณฯ ปี 2563 กระทั่ง กระทบเสถียรภาพของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จนถึงขั้น “ลาออก-ยุบสภาฯ” หรือไม่?
เป็นอะไรที่สร้างความเจ็บปวดต่อ “คู่หู : สมคิด – อุตตม” ไม่น้อยทีเดียว!.