ตลาดสร้างบ้านหรูแข่งขันรุนแรงคาดเติบโตแค่ 5%
“มาสเตอร์แปลน 101” รับสร้างบ้านหรูระดับบน ประเมินปี 63 ตลาดแข่งขันรุนแรง แต่ยังเติบโตได้ระดับ 5% ลดลงจากปีที่ผ่านมา แต่บริษัทมั่นใจยอดขายปีนี้ทะยานสู่ระดับ 620 ล้านบาท พร้อมโชว์แบบบ้านหรูราคา 300 ล้านบาท
นายอนันต์กร อมรวาที กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์แปลน 101 จำกัด ผู้ให้บริการรับสร้างบ้านหรู กล่าวถึงแนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านหรูระดับบนในปี 2563 ว่า ยังอยู่ในภาวะทรงตัวต่อเนื่องมาจากปีที่ผ่านมา ซึ่งบ้านหรูจะยังสามารถขยายตัวได้ประมาณ 5% ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากในปีที่ผ่านมา ตลาดมีการขยายตัวค่อนข้างสูง ทำให้คาดว่าในปี63 ตลาดจะไม่เติบโตได้มากเท่าปีที่ผ่านมา ในส่วนของบริษัทมาสเตอร์แปลนฯ วางเป้าจะมียอดขายประมาณ 620 ล้านบาท เติบโตระดับ 10% โดยบริษัทจะเน้นการทำตลาดผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัด โดยในปี 2562 บริษัทฯมียอดขายรวม 600 ล้านบาท หรือมีสัญญาก่อสร้างบ้านรวม 10 หลัง ปี 2561 มียอดขายรวมอยู่ที่ 480 ล้านบาท มีการเซ็นสัญญาก่อสร้างบ้านรวม 8 หลัง
นอกจากนี้ จะมีการออกแบบบ้านใหม่เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าบ้านหรู มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมา และมีมูลค่ามากที่สุด คือ ราคา 300ล้านบาท โดยแบบบ้านใหม่จะเป็นสไตล์คลาสสิค ยูโรเปี้ยน ที่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มบ้านหรูมากที่สุด โดยจะมีการออกบูทในงาน Home Builder & Materials Expo จัดโดยสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน
ในส่วนของภาพตลาดรับสร้างบ้านในปี 2562 ที่ผ่านมานั้น ยังทรงตัวต่อจากปี 2561 ซึ่งเป็นผลมาจากกลุ่มตลาดรับสร้างบ้านระดับกลาง-ล่าง ราคา 3-5 ล้านบาทซึ่งเป็นตลาดใหญ่ ค่อนข้างชะลอตัว ขณะที่กลุ่มราคา 7 ล้านบาทขึ้นไป มีอัตราการขยายตัวที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มรับสร้างบ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป และกลุ่มบ้านราคา 20-30 ล้านบาท เติบโตได้ดีมาก เนื่องจากลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว เพราะส่วนใหญ่เป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งเกือบ100% ใช้เงินสดในการปลูกสร้างบ้าน ไม่จำเป็นต้องขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินในการก่อสร้าง
“จากการเติบโตบ้านระดับบน ทำให้ยอดขายเข้ามาชดเชยในตลาดล่างที่หดตัวลง โดยในปีที่ผ่านมา ตลาดบ้านหรูขยายตัว10 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้แชร์ตลาดรวมเพิ่มได้อีก 1-2 เปอร์เซ็นต์ จากปกติที่มีแชร์อยู่ที่ 10-15 เปอร์เซ็นต์”
ทั้งนี้ ในส่วนของ มาสเตอร์แปลนฯ ในปี 2562 มียอดขายที่ดีมาก เนื่องจากจับตลาดในกลุ่มบ้านหรูระดับบน ลูกค้ามีการตัดสินใจก่อสร้างที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มบ้านดับราคา 40-50 ล้านบาท ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล นอกจากนี้ ยอดขายในปี 62 ยังได้รับอานิสงส์จากตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น
“ ความนิยมในการก่อสร้างบ้านหรูระดับ 40-50 ล้านบาท ทำให้ค่าเฉลี่ยราคาที่ลูกค้าตัดสินใจสร้างบ้านของบริษัทฯ ขยับสูงขึ้นจากปกติอยู่ที่ 20-30ล้านบาท นอกจากนี้ ลูกค้าบ้านสร้างเองมีการเซ็นสัญญาก่อสร้างระดับราคา 100-200 ล้านบาทที่ได้มาใหม่ ทำให้ค่าเฉลี่ยนราคาบ้านเพิ่มมาอยู่ที่ 40-60 ล้านบาท จากเดิมอยู่ที่ 30-40 ล้านบาท”.