รัฐผุดบอนด์ใหม่ 2 หมื่นล.-ชี้เงินคนแก่หาย 35%
ภาวะดอกเบี้ยขาลง ทำ “คนสูงอายุ” ลูกค้าพันธบัตรรัฐบาล “รายได้หด” สูงถึง 35% เมื่อเทียบอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรฯก่อนหน้านี้ ด้าน สบน.เปิดตัวแอปฯ BOND DIRECT และ Line@bonddirect รองรับการให้บริการจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ เผย “รมว.คลัง” จัดของขวัญปีใหม่ ผุดพันธบัตร “ทยอยชำระคืนเงินต้น” ครั้งแรก วงเงิน 5,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี ดอกเบี้ย 2% และพันธบัตรทั่วไป อายุ 3 ปีและ 7 ปี ดอกเบี้ย 1.7% และ 1.95% ตามลำดับ วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท เปิดให้ลูกค้าเก่าจองก่อน 13 ธ.ค.นี้
สบน. เปิดตัว Bond Direct Application และเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นใหม่
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผอ.สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) แถลงข่าวเปิดตัวแอปฯ BOND DIRECT และ Line@bonddirect รองรับการให้บริการจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ 63 ครั้งที่ 1 รุ่นอายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 1.7% และรุ่นอายุ 7 ปี ดอกเบี้ย 1.95% วงเงินรวมกัน 15,000 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นพิเศษ แบบ “ทยอยชำระคืนเงินต้น” ซึ่งเป็นครั้งแรกของรัฐบาลไทยที่ออกพันธบัตรประเภทนี้ วงเงิน 5,000 ล้านบาท ตลอดอายุ 5 ปี ดอกเบี้ย 2% ซึ่งทั้งพันธบัตรทั้งสองชนิดนี้ จะเปิดจำหน่ายในเดือน ธ.ค.62 โดยจำนวนขั้นต่ำที่ 1,000 บาท และไม่มีกำหนดเพดานขั้นสูง
“แอปฯ BOND DIRECT และ Line@bonddirect ถือเป็นช่องทางการลงทุนพันธบัตรออมทรัพย์ล่าสุด ที่ทำให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงพันธบัตรออมทรัพย์ได้อย่างสะดวกสบายผ่านโทรศัพท์มือถือ สอดคล้องกับวิถีชีวิตและนวัตกรรมทางการเงินในปัจจุบัน และทำให้ผู้ลงทุนแน่ใจว่าได้สิทธิการซื้อพันธบัตรอย่างแน่นอนเมื่อเดินทางไปซื้อที่สาขาธนาคาร โดย BOND DIRECT Application รองรับฟังก์ชั่นการจองและซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ รวมถึงการดูข้อมูลการลงทุนพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นต่างๆ ของท่านอีกด้วย” ผอ.สบน. ย้ำและว่า
โดยในส่วนของพันธบัตรออมทรัพย์ฯ ครั้งที่ 1 จะเปิดให้ผู้ถือกรรมสิทธิ์พันธบัตรออมทรัพย์ที่ครบกำหนด (SB19DA) ในวันที่ 13 ธ.ค.62 สามารถจองซื้อวงเงินพันธบัตรออมทรัพย์ได้ก่อน ระหว่างวันที่ 9 – 11 ธ.ค.นี้ ผ่านแอปฯ BOND DIRECT และ Line@bonddirect ส่วนการเปิดจำหน่ายเป็นการทั่วไปจะเริ่มจำหน่ายในวันที่ 13 ธ.ค.62 จนกว่าจะหมด หรืออย่างช้าไม่เกินวันที่ 24 เม.ย.63 ผ่านช่องทางของธนาคารตัวแทน คือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ รวมถึง แอปฯ BOND DIRECT Application
สำหรับพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นพิเศษ รุ่นอายุ 5 ปีนั้น นางแพตริเซีย ระบุว่า ถือเป็นของขวัญปีใหม่ ที่นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ต้องการจะมอบให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เนื่องจากพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นพิเศษ มีการชำระคืนเงินต้นที่ผู้ถือพันธบัตรออมทรัพย์จะได้รับคืนเงินต้น พร้อมดอกเบี้ย (Amortized Bond) โดยปีที่ 1 จะได้รับดอกเบี้ยทุก 6 เดือน จากนั้นในปีที่ 2 – 5 จะได้รับดอกเบี้ยและเงินต้นตามวงเงินคงค้าง เพื่อให้ผู้สูงอายุที่ต้องการออมเงินระยะสั้นและได้รับเงินต้นคืนเพื่อการใช้จ่ายปัจจุบัน โดยให้สิทธิผู้ลงทุนที่ซื้อผ่าน แอปฯ BOND DIRECT สามารถซื้อได้ก่อนการเปิดจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายทั้ง 4 แห่ง ล่วงหน้า 1 วัน
“พันธบัตรออมทรัพย์รุ่นพิเศษนี้ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ หรือบุตรหลานที่ต้องการซื้อมอบให้เป็นของขวัญในเทศกาลปีใหม่ให้กับญาติผู้ใหญ่ เพราะสามารถวางแผนการรับคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย เพื่อนำไปใช้ในยามจำเป็น ที่ผู้ถือพันธบัตริสามารถวางแผนหรือรู้ล่วงหน้ามาก่อนว่าจะต้องใช้เงินเมื่อไหร่และวงเงินเท่าใด ต่างจากกลุ่มที่ต้องการถือระยะยาว 3 ปี หรือ 7 ปี ที่จะได้รับดอกเบี้ยครบอายุสัญญาที่สูง แต่ระหว่างทางไม่สามารถจะถอนเงินต้นออกมาได้” ผอ.สบน. ระบุ
สำหรับอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรทั้ง 2 ประเภทในครั้งนี้ นายแพตริเซีย ยอมรับว่า ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรที่ออกเมื่อปลายปี 61 (ต้นปีงบประมาณ 62) ซึ่งพันธบัตร รุ่นอายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 2.64% และรุ่น 7 ปี ดอกเบี้ย 3.0% ทั้งนี้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกอยู่ในภาวะขาลง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ก็มีการปรับลดมาแล้ว 2 ครั้ง จากเดิม 1.75% เหลือเพียง 1.25% อย่างไรก็ตาม หากเทียบอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรในรอบนี้ ยังถือว่าสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของตลาดในประเทศ และสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แม้อัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรรัฐบาลในครั้งนี้จะสูงกว่าราคาตลาด แต่การที่ภาพรวมอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกและในประเทศไทยปรับตัวลดลง ทำให้รายได้ของผู้สูงอายุที่คาดหวังจะได้จากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร ก็ลดลงเป็นจำนวนมาก เมื่อเทียบกับพันธบัตรรุ่นก่อนหน้านี้ โดยมีอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงเฉลี่ยในรุ่น 3 ปีที่ 35.6% และในรุ่น 7 ปีที่ 35% ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนของอัตราดอกเบี้ยที่เคยได้รับ หากไปสูงมากทีเดียว ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในปี 62 อยู่ที่ประมาณ 0.8%.