ครม.เทงบเฉียดหมื่นล.อุ้มมันสำปะหลัง
ครม.ไฟเขียวประกันรายได้เกษตรกปลูกมันสำปะหลัง 5.4 แสนราย วงเงิน 9,600 ล้านบาท ตั้งราคารับประกัน 2.50 บาท/กก. เชื้อแป้ง 25% ขีดเส้น 100 กก./ครัวเรือน จี้ ธ.ก.ส.โอนเงินส่วนต่างเข้ากระเป๋าเกษตรกรงวดแรกวันที่ 1 ธ.ค.62 เผยโครงการ ปชป. ครอบคลุม “ข้าว-ปาล์ม-น้ำมัน-ยางพารา-มันสำปะหลัง” วงเงิน 6.8 หมื่นล้านบาทแล้ว
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังปี 62/63 วงเงิน 9,671 ล้านบาท ตามที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์เสนอ คาดมีเกษตรกรลงทะเบียนรับสิทธิ์ประกันรายได้ราว 540,000 ราย โดยหัวมันสำปะหลังสด เชื้อแป้ง 25% กำหนดราคาและปริมาณประกันรายได้ 2.50 บาท/กก. ครัวเรือนละไม่เกิน 100 ตัน โดยผู้มีสิทธิได้รับเงินส่วนต่าง คือ เกษตรกรทุกรายที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูก และแจ้งระยะเวลาเก็บเกี่ยวกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรฯ ภายใต้เงื่อนไข “เกษตรกรหนึ่งครัวเรือน ใช้สิทธิได้ 1 ครั้ง”
โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะเข้ามาชดเชยและโอนเงินชดเชยส่วนต่าง ระหว่างราคาเป้าหมายกับราคาเกณฑ์อ้างอิง เข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ทั้งนี้ รัฐบาลจ่ายเงินส่วนต่างครั้งแรกวันที่ 1 ธ.ค.62 และจ่ายต่อไปทุกวันที่ 1 ของเดือน รวม 12 เดือน โดยเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 1 ธ.ค.62 ให้มีสิทธิรับเงินชดเชยในวันที่ 1 ธ.ค.62 รวมระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.62 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.63
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า กระทรวงพาณิชย์ยังออกมาตรการคู่ขนานเพื่อรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลัง ประกอบด้วย
1.การดูแลความเป็นธรรมในการซื้อขายมันสำปะหลัง กำหนดให้มีการตรวจสอบคุณภาพ การหักน้ำหนักสิ่งเจือปน เป็นต้น
2.การบริหารจัดการนำเข้าส่งออก โดยกรมการค้าต่างประเทศต้องกำกับดูแลอย่างจริงจัง และต้องตรวจสอบคุณภาพให้เป็นไปตามาตรฐาน พร้อมลงโทษผู้กระทำผิดตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
3.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลัง โดยให้ ธ.ก.ส.จัดสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนในการพัฒนาการผลิตและลดต้นทุนของเกษตรกรโดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม จัดสินเชื่อเป้าหมาย 5,000 ราย รายละไม่เกิน 230,000 บาท รวมวงเงินกู้รวม 1,150 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3%
4.โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร โดยให้ ธ.ก.ส.จัดสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับมันสำปะหลัง หรือสถาบันเกษตรกรที่มีสมาชิกประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์เป็นหลัก นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรวบรวมหรือซื้อมันสำปะหลังสด มันเส้น เพื่อไปจำหน่ายต่อ หรือแปรรูป โดยวงเงินจัดสรรสำหรับโครงการนี้ 1,500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อไป
5.ส่งเสริมการใช้มันสำปะหลังในประเทศเพิ่มขึ้น โดยพัฒนาการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพและอุตสาหกรรมอาหาร
และ 6.เพิ่มช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง โดยเฉพาะแอลกอฮอล์ที่ผลิตจากมันสำปะหลังและกากน้ำตาล ซึ่งปัจจุบันมีตลาดรองรับที่จำกัดแค่การผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง และสามารถดูดซับหัวมันสดได้เพียง 2.5 ล้านตันเท่านั้น
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการใช้มันสำปะหลังและพืชเกษตรในการผลิตแอลกอฮอล์ จะต้องมีการแก้ไขข้อจำกัดใน พ.ร.บ.สุรา พ.ศ.2493 เพื่อเปิดช่องให้โรงงานเอทานอลที่ใช้สินค้าเกษตรเป็นวัตถุดิบ สามารถผลิตและจำหน่ายเอทานอลให้แก่อุตสาหกรรมอื่นได้ นอกเหนือจากการใช้เป็นเชื้อเพลิง
นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติเงินชดเชยให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิและไม่จำกัดช่วงเวลาการปลูกมันสำปะหลัง เพื่อป้องกันและกำจัดโรคใบด่างมันสำปะหลัง จากเดิมที่ชดเชยแก่เกษตรกรที่มีเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ทำให้การกำจัดท่อนพันธุ์และการจัดการการระบาดของโรคใบด่างไม่สามารถทำได้อย่างทั่วถึง โดยตั้งวงเงินทั้งหมด 248 ล้านบาท
สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรกับพืชรวม 4 ชนิด ประกอบด้วย ประกันรายได้ผู้ปลูกข้าว 21,495 ล้านบาท ประกันรายได้ผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน 13,378 ล้านบาท ประกันรายได้ผู้ปลูกยางพารา 24,278 ล้านบาท และล่าสุดประกันรายได้ผู้ปลูกมันสำปะหลังอีก 9,671 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่ใช้ในโครงการประกันรายได้ 68,822 ล้านบาท.