กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%
กนง.ทานกระแสโลกไม่ไหว มติ 5 : 2 สั่งลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% หลังพบเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้และยังต่ำกว่าศักยภาพเพิ่มขึ้นจนน่าเป็นห่วง
เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ สุดท้าย คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ไม่อาจจะต้านแรงโน้มถ่วงทางด้านดอกเบี้ยของโลกได้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศปรับลดดอกเบี้ยกันไปหลายครั้งในรอบปีนี้ และล่าสุด เพิ่งประกาศปรับลดดอกเบี้ยเป็นรอบที่ 3 ของปีนี้ เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยปรับลดดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ระดับ 1.5-1.75%
สำหรับมติ กนง. ในการประชุมวันนี้ (6 พ.ย.62) นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผช.ผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท. ในฐานะเลขานุการ กนง. ระบุว่า ประชุม กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% จาก 1.50% เหลือเพียง 1.25% ต่อปี โดยการตัดสินใจครั้งนี้ กนง. ประเมินแล้วเห็นว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้และต่ำกว่าศักยภาพมากขึ้น จากการส่งออกที่ลดลง ส่งผลกระทบต่อภาวะการจ้างงานและอุปสงค์ภายในประเทศ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ และภาวะการเงินโดยรวมยังผ่อนคลาย เนื่องจากเสถียรภาพระบบการเงินได้รับการดูแลไปแล้วบางส่วน อย่างไรก็ตาม กนง.เชื่อว่ายังคงมีปัจจัยเสี่ยงให้ต้องติดตามต่อไป
นายทิตนันทิ์ กล่าวว่า กรรมการส่วนใหญ่เชื่อว่า หาก กนง.ดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น น่าจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ และเอื้อให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับสู่กรอบเป้าหมาย ดังนั้น เสียงส่วนใหญ่จึงเห็นควรให้ลดอัดดอกเบี้ยนโยบายลงระหว่างการประชุมครั้งนี้ สำหรับกรรมการ 2 ท่านที่มีความเห็นต่างออกไป เนื่องจากเชื่อว่า ในภาวะปัจจุบันที่นโยบายการเงินอยู่ในระดับผ่อนคลายอยู่แล้ว การลดอัตราดอกเบี้ยอาจไม่ช่วยสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มได้มากนัก เมื่อเทียบกับความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงินที่อาจเพิ่มสูงขึ้น
อีกทั้ง กนง.ยังจำเป็นต้องรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินที่มีจำกัดเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต ดังนั้น จึงต้องการให้ กนง.คงอัตราดอกเบี้ยในระดับเดิมที่ 1.75% อย่างไรก็ตาม เสียงส่วนใหญ่ทำให้ กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือเพียง 1.50% ดังรายละเอียดข้างต้น.