คลังนัดอสังหาฯ คุยจัดแคมเปญขายบ้านแสนล.
คนไทยได้เฮ! ลุ้นรับของขวัญ “บ้านใหม่รับปีใหม่” หลังมหาดไทย ออกประกาศ 2 ฉบับลด “ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอน-ค่าจดทะเบียนจดจำนองอสังหาริมทรัพย์” เริ่มมีผล 2 พ.ย.62 – 24 ธ.ค.63 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านอสังหาริมทรัพย์รวมกัน 7 หมื่น – 1 แสนล้านบาทในปีหน้า เผย กระทรวงการคลัง เตรียมส่งหมายเชิญกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หารือถึงแคมเปญใหญ่ “ลดแลกแจกแถม” ขายบ้าน 3.5 หมื่นยูนิตสัปดาห์หน้า
ที่สุด! สิ่งที่คนในภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และคนไทยที่อยากมีบ้าน ทั้งบ้านหลังแรกและหลังต่อๆ ไป ต่างก็สมหวังเล็กๆ กับประกาศของกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง หลังจาก พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ลงนามในประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ์และนิติกรรม ตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นที่ดินพร้อมอาคาร และประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมายหมายว่าด้วยอาคารชุด กรณีห้องชุด ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยประกาศดังกล่าวเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 พ.ย.62 และจะมีต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 24 ธ.ค.63
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผช.รมต.ประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวถึงประกาศกระทรวงมหาดไทยทั้ง 2 ฉบับ ว่า หลังจาก คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ เพื่อลดภาระให้แก่ประชาชน ด้วยการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนจากเดิมร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01 และลดค่าจดทะเบียนจดจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิมร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัยที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหน่วย โดยการจดทะเบียนการโอนและการจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ ต้องเป็นที่อยู่อาศัยทำนิติกรรมในคราวเดียวกัน
โดยหลังจากนี้ กระทรวงการคลังจะนัดประชุมหารือกับ 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสรุปรายละเอียดการจัดแคมเปญ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาฯ พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย “ลดแลกแจกแถม” ให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัย ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ช่วงโค้งสุดท้ายของปี ในสัปดาห์หน้าต่อไปนั้น ถือเป็นการมอบของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทยที่ต้องการมีบ้านเป็นของตนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แนวคิดที่กระทรวงการคลังได้หารือกับตัวแทนกลุ่มอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา คือ ความต้องการร่วมในการจัดบิ๊กอีเว้นท์ “ขายบ้าน” ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่ว่ะเป็น…โครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ หรือคอนโดมีเนียม โดยตั้งเป้าจัดโครงการ “ลดแลกแจกแถม” กับบ้านราคาตั้งแต่ 1–3 ล้านบาท คู่ขนาดไปกับมาตรการของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่ได้ออกแคมเปญ “ดอกเบี้ยต่ำและคงที่” เพียง 2.5% ใน 3 ปีแรก และ 4.625% ในปีที่ 4 และ 5 ไปก่อนหน้านี้ ด้วยความคาดหวังจะเห็นการซื้อขาย “บ้าน” ในกลุ่มรวมกัน 3.5 หมื่นยูนิต ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 62 ซึ่งหลังจากกระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศฯทั้ง 2 ฉบับมาแล้วนั้น
จากนี้…ไม่เพียงกระทรวงการคลังจะเชิญตัวแทนกลุ่มอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาหารือถึงแนวทางการจัดกิจกรรมดังกล่าวเท่านั้น หากแต่ยังต้องเร่งเจรจากับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ได้วางเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ค่อนข้างจะเข้มงวด กระทั่ง กลายเป็นตัวปัญหาและอุปสรรคสำคัญที่ทำให้โครงการต่างๆ ของรัฐบาลเดินไปได้ไม่สุด!
ทั้งนี้ หาก ธปท.สามารถจะผ่อนปรนเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน และผ่อนปรนคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อแล้ว โอกาสที่ภาคธุรกิจฯการจะขาย “บ้าน” ในกลุ่มต่างๆ ที่สนนราคา 1-3 ล้านบาทนั้น คาดว่าจะก่อเกิดมูลค่าการซื้อขายในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์รวมกัน ไม่ต่ำ 70,000-100,000 ล้านบาทเลยทีเดียว และนั่น จะเป็นส่วนสำคัญต่อสร้างเงื่อนไขที่ไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีในปี 63.