ติดสิทธิ์ “ชิมช้อปใช้”แล้วเฉียด 2 แสนคน
เผยยอด “ตัด-เรียกคืนสิทธิ์” ชิมช้อปใช้รอบแรกเฉียด 2 แสนคน เหตุไม่เปิดใช้สิทธิ์ภายใน 14 วันตามกำหนด “อธิบดีกรมบัญชีกลาง” เตือนผู้มีสิทธิ์ที่เหลือ รีบเปิดใช้สิทธิ์ภายในวันที่กำหนด เพื่อรักษาสิทธิ์และสามารถใช้จ่ายต่อไปได้จนจบมาตรการ
นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง (บชก.) กล่าวว่า ได้ตัดสิทธิ์ผู้ไม่ไปใช้สิทธิ์ตามวันที่กำหนด พร้อมเรียกสิทธิ์คืน 199,660 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มคนผู้ที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ตามมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ในวันแรก (23 ก.ย.62) โดยเริ่มใช้สิทธิ์วันที่ 27 ก.ย. – 11 ต.ค. 62 แต่ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์ โดยคนกลุ่มนี้ จะไม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการได้อีก ดังนั้น จึงอยากย้ำให้ผู้มีสิทธิ์ที่เหลือ รีบเปิดใช้สิทธิ์กระเป๋า G-Wallet 1 ภายในวันที่กำหนด เพื่อรักษาสิทธิ์ให้สามารถใช้จ่ายต่อไปได้จนจบมาตรการในวันที่ 30 พ.ย.62 กรณีที่ใช้สิทธิ์กระเป๋า G-Wallet 2 ภายใน 14 วัน อย่างไรก็ตาม แม้คนกลุ่มนี้ จะไม่ได้ใช้สิทธิ์กระเป๋า G-Wallet 1 เพราะถูกระงับสิทธิ์ แต่สิทธิ์ในกระเป๋า G-Wallet 2 ยังสามารถเติมเงินเพิ่ม และใช้ได้ต่อจนถึง 30 พ.ย. 62
“สำหรับการโอนเงินค่าสินค้าและบริการให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” กรมบัญชีกลางได้โอนเงินให้กับร้านค้าแล้ว เป็นเงินทั้งสิ้น 6,229.2 ล้านบาท แบ่งเป็น ร้านค้าที่ได้สิทธิ์จากกระเป๋า G-Wallet 1 (ใช้จ่าย 1,000 บาท ในจังหวัดที่เลือกลงทะเบียน) เป็นเงิน 6,163.4 ล้านบาท และร้านค้าที่ได้สิทธิ์จากกระเป๋า G-Wallet 2 (เติมเงินเพื่อใช้จ่ายในจังหวัดที่ไม่ใช่จังหวัดในทะเบียนบ้าน เพื่อรับเงินคืน 15%) เป็นเงิน 65.8 ล้านบาท หากจำแนกเป็นประเภท จะแบ่งเป็นประเภท “ชิม” เป็นเงิน 819.2 ล้านบาท ประเภท “ช้อป” เป็นเงิน 3,576.5 ล้านบาท ประเภท “ใช้” เป็นเงิน 80.4 ล้านบาท และร้านค้าทั่วไป เป็นเงิน 1,752.9 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ต.ค. 62)” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว และย้ำว่า
ขณะนี้มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการแล้ว 95,200 ร้านค้า โดยเป็นร้านค้าที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ 13,915 ร้านค้า และร้านค้าที่กระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆ อีก 1,285 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ต.ค. 62) และสำหรับร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ยังสามารถสมัครได้จนถึงวันที่ 15 ต.ค. 62 โดยร้านค้าในเขตกรุงเทพมหานครสมัครได้ที่กรมบัญชีกลาง และในต่างจังหวัด สมัครได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิ์จากการลงทะเบียน ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ร้านค้าเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคมากขึ้นอีกด้วย.