สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 15 ต.ค. 68

1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.เพชรบูรณ์ (95 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.ชัยภูมิ (84 มม.) จ.สมุทรสงคราม (108 มม.) ภาคกลาง : กรุงเทพมหานคร (74 มม.) ภาคตะวันออก : จ.ชลบุรี (95 มม.) ภาคใต้ : จ.นราธิวาส (81 มม.)
สภาพอากาศวันนี้ :.คลื่นกระแสลมฝ่ายลมตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลางและภาคเหนือ ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ตอนล่าง และอ่าวไทยพื้นที่ ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบริเวณกรุงเทพมหานครรวมทั้งปริมณฑลและภาคตะวันออก
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 16 – 20 ต.ค. 68.ร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคใต้ และอ่าวไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ตอนล่าง และอ่าวไทยตอนล่าง ในขณะที่มีลมตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 86% ของความจุเก็บกัก (69,162 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 78% (45,041 ล้าน ลบ.ม.)
3. ข่าวประชาสัมพันธ์:
วานนี้ (14 ต.ค. 68) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ เพื่อพิจารณาแนวทางบริหารจัดการน้ำในแต่ละเขื่อน โดยที่ประชุมได้เห็นชอบ ดังนี้
– ปรับลดการระบายน้ำเขื่อนสิริกิตติ์แบบขั้นบันได จากเดิม 30 ล้าน ลบ.ม./วัน เป็น 25 และ 20 ล้าน ลบ.ม./วัน ตามลำดับ เพื่อช่วยลดผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน
– ปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนภูมิพล จากเดิม 5 ล้าน ลบ.ม./วัน เป็น 10 ล้าน ลบ.ม./วัน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ท้ายน้ำมีน้ำใช้ในการเกษตรได้อย่างเพียงพอ
โดยหลังจากสถานการณ์ฝนช่วงนี้ผ่านไป จะต้องปรับแผนการระบายน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งที่จะมาถึงในวันที่ 1 พ.ย. 68 อีกครั้ง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและพื้นที่ประสบอุทกภัย พบว่ายังมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำที่เป็นทุ่งรับน้ำ จึงได้หารือกรมชลประทานให้วางแผนระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขัง โดยต้องไม่ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมเพิ่มขึ้นเป็นวงกว้าง โดยให้พิจารณาปรับแผนการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อลดระดับน้ำในลำน้ำสาขาต่างๆ จนสามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขังได้
สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากร่องมรสุมจะเริ่มเคลื่อนตัวลงทางตอนกลางและตอนใต้ของประเทศ ทำให้ต้องเฝ้าระวังฝนที่จะตกมากขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. 68 ซึ่งที่ประชุมได้มีการเตรียมการรองรับสถานการณ์ไว้ด้วยแล้ว ได้แก่ การเฝ้าติดตามและคาดการณ์สถานการณ์ฝนและปริมาณน้ำในพื้นที่ต่างๆ การเตรียมการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนบางลาง เป็นต้น
4.การให้ความช่วยเหลือ :
กรมทางหลวงชนบท เร่งดำเนินการซ่อมแซมถนนทางหลวงชนบทสาย กส.4001 อ.นาคู เชื่อมกับ อ.เต่างอย จ.สกลนคร หลังจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทำให้ไหล่ทางชำรุดทรุดตัวในช่วงที่ผ่านมา พร้อมทั้งสนับสนุนกำลังคน ยานพาหนะ การบริหารจัดการเส้นทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน รวมไปถึงการส่งมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย การตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ไฟฟ้า การติดตั้งป้ายเตือนเกี่ยวกับอันตรายจากไฟฟ้า และติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยที่จำเป็นบริเวณสายทางที่เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 14 ต.ค. 68