สรุปข่าวประจำวันที่ 4 ตุลาคม 2568

สรุปข่าวประจำวัน ผุดเกษียณ 65 ปี : นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงแนวคิดการเกษียณอายุราชการอายุ 65 ปี เพราะคนอายุยืนขึ้น ว่า เป็นแนวคิดเพราะสังคมเปลี่ยนไป สุขภาพเปลี่ยนไป คุณภาพชีวิตดีขึ้น เราก็คงต้องมีการปรับเพื่อไม่ให้เกิดการว่างงานของคนมากขึ้น ตรงนี้เป็นเพียงแนวคิด ส่วนวิธีการจะออกมาในรูปแบบใดจะต้องมีการหารือกัน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะในวงการศาลอัยการ ก็เกษียณอายุราชการ 65-70 ปี ทำได้เท่าที่จะทำได้เราก็จะพยายามทำเท่าที่เราทำได้ ส่วนเรื่องงบประมาณถ้าเกษียณที่อายุ 60 ปี เขาก็ยังได้บำเหน็จบำนาญ และรัฐยังต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพิ่มมากขึ้น ก็พยายามที่จะจัดสรรปรับปรุงงบประมาณให้สอดคล้องกัน
สรุปข่าวประจำวัน

เปิดตัว“พรรคไทยก้าวใหม่” :
ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ “ดร.เอ้” พร้อมด้วย นางกัลยา โสภณพนิช อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดตัว “พรรคไทยก้าวใหม่” ประกาศวิสัยทัศน์สร้างการเมืองยุคใหม่ ขับเคลื่อนด้วย อุดมการณ์ ความกล้าหาญ และพลังของความรู้ พร้อมนโยบายหลัก “ธนู 4 ดอก” เพื่อปฏิรูปประเทศ ก้าวข้ามความยากจน และสร้างอนาคตที่มั่นคง ธนูดอกที่ 1 สร้างคนใหม่ พลิกโฉมการศึกษาไทย 1. การศึกษาฟรีจริงถึงระดับปริญญา เงินอุดหนุนถึงมือพ่อแม่ เด็กจบมาไม่เป็นหนี้ 2. ปลดล็อกโรงเรียนให้มีอิสระ ลดงานธุรการครู เพิ่มคุณภาพและรายได้ 3. ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง เด็กไทยเรียน AI และ Coding เป็นภาษาที่สาม 4. ขจัดปัญหายาเสพติดในโรงเรียนและชุมชน

เพื่อไทย ประกาศจะกลับมาอีกครั้ง :
พรรคเพื่อไทย โชว์ 2 ปี กับผลงานใหญ่ เพื่อคนไทย บอกว่า ในระยะเวลา 2 ปี พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งมีอายุเพียงครึ่งเทอมนั้น พรรคเพื่อไทยขอยืนยันในการรักษาคำมั่นของพรรคเพื่อไทยที่มีต่อพี่น้องประชาชน ในการเข้าผลักดันและดำเนินนโยบายภายใต้เวลาที่จำกัด และท่ามกลางอุปสรรคและวิกฤตการณ์ทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งได้ดำเนินนโยบายและแก้ไขอย่างเต็มความสามารถ
หัวใจของพรรคเพื่อไทย ยังคงมีปณิธานคือมีประชาชนเป็นหัวใจของการคิด และการลงมือทำเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เพื่อร่วมแก้ไขปัญหานานับประการจากปัญหาทางเศรษฐกิจระดับมหภาค เช่นการเจรจาทั้งเพื่อรับมือความเปลี่ยนแปลงในระดับโลก และเพื่อเปิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ไปจนถึงการร่วมแก้ปัญหาโครงสร้างในระดับปัจเจกชนและครัวเรือน
จากการแก้ปัญหาหนี้สินของพี่น้องประชาชนอันเป็นรากฐานสำคัญ เมื่อประชาชนเข้มแข็ง เศรษฐกิจและประเทศชาติก็จะแข็งแรง สิ่งที่พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นสานต่อคือการเสริมกำลังให้กับพี่น้องประชาชน เพิ่มเติมทุนในด้านต่างๆ รวมถึงมุ่งมั่นเปิดพรมแดนและพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ๆ สร้างความฝันอันเป็นการมองไปข้างหน้าอยู่เสมอ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และที่สุดแล้ว พรรคเพื่อไทย จะกลับมาอีกครั้งแน่นอน
หุ้น ตปท.-ไทย :
ปิดตลาด (3 ต.ค. ) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 46,758.28 จุด เพิ่มขึ้น 238.56 จุด (0.51%) แนสแดก ปิดที่ 24,785.52 จุด ลดลง 107.24 จุด (0.43%) แอสแอนด์พี ปิดที่ 6,715.79 จุด เพิ่มขึ้น 0.44 จุด (0.0066%) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาดที่ 1,293.61 จุด เพิ่มขึ้น จุด 5.32 (0.41%) มูลค่า 35,659.08 ล้านบาท

น้ำมัน :
PTT Station ปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ทุกชนิด และพรีเมี่ยม GSH95 รวมทั้งกลุ่มดีเซล และ พรีเมี่ยมดีเซล ลดลง 0.50 บาทต่อลิตร มีผล 4 ต.ค. 2568 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็น ULG = 40.44 บาท, GSH95 = 32.15 บาท, E20 = 29.94 บาท, E85 = 27.89 บาท, GSH91 = 31.78 บาท, พรีเมี่ยม GSH95 = 40.34 บาท, HSD = 31.44 บาท, พรีเมียมดีเซล = 43.44 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้น ยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
4 ตุลาคม 2568 เวลา 05.00 น. บางจากฯ ลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์และกลุ่มดีเซลทุกชนิด -50 สต. ยกเว้น Hi Premium 97 ราคาคงเดิม BCP Retail Price: GSH95S EVO 32.15/ GSH91S EVO 31.78/ GSH E20S EVO 29.94/ GSH E85S EVO 27.89 Hi Premium 97 (GSH95++) 49.84 / Hi Diesel S 31.44/ Hi Premium Diesel S 45.64 (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่กทม.)
ทองคำลง 200 บาท :
ราคาทองคำเมื่อวันที่ (3 ต.ค.) มีประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 59,100.00 บาท ขายออกบาทละ 59,200 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 57,911.20 บาท ขายออกบาทละ 60,000.00 บาท ราคาทองคำลง 200 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 2 ต.ค.
เงินบาทแข็งค่า :
สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (3 ต.ค.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 32.6137 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 43.9789 บาทต่อ 1 ปอนด์, 38.2997 บาทต่อ 1 ยูโร, 22.3009 บาท ต่อ 100 เยน, 4.2084 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 25.4344 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.8122 ต่อ 1 ริกิต

กองทัพแจงสร้างรั้ว :
พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงกรณีการปรากฏเป็นข่าวเกี่ยวกับการดำเนินการจัดทำรั้วตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสับสนแก่ประชาชน กองทัพไทย ขอชี้แจงเพื่อให้เกิดความชัดเจนของข้อมูลข่าวสาร ดังนี้ 1. จากการประชุมของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้มีมติให้ดำเนินการสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงและป้องกันปัญหาตามแนวชายแดน 2. พื้นที่การก่อสร้าง จะพิจารณาดำเนินการเฉพาะในจุดที่เหมาะสม 3. ลักษณะของรั้วจะออกแบบแตกต่างกันไปตามสภาพภูมิประเทศและเงื่อนไขในแต่ละพื้นที่ 4. สภาความมั่นคงแห่งชาติได้มอบหมายให้กระทรวงกลาโหม โดยกองบัญชาการกองทัพไทย ทำหน้าที่บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บิ๊กซี แถลงขอโทษ :
บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก กรณีทะเลาะวิวาท ระหว่างพนักงานและลูกค้า โดยระบุว่า ขออภัยและขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจและกระทบต่อความไว้วางใจของลูกค้า ทันทีที่ทราบเรื่อง บริษัทได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และมีคำสั่งให้พนักงานที่เกี่ยวข้องพ้นสภาพพนักงานแล้ว
จับตา “พาวเวล” กล่าวสุนทรพจน์สัปดาห์หน้า :
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมว่าด้วยธนาคารชุมชนที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ นายพาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันที่ 9 ต.ค. เวลา 08.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 19.30 น.ตามเวลาไทย ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์
นักท่องเที่ยวเข้ากัมพูชา 8 เดือนแรกลดลง :
กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาเปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ากัมพูชาในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 4.05 ล้านคน ลดลง 5.6% จาก 4.29 ล้านคนในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว รายงานระบุว่า ไทยครองอันดับหนึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเยือนกัมพูชาในช่วงเดือนม.ค.-ส.ค. ด้วยจำนวน 962,462 คน แต่ตัวเลขดังกล่าวร่วงลง 28.2% เวียดนามตามมาอันดับสองที่จำนวน 808,471 คน ลดลง 6.9% ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนอยู่ที่ 784,965 คน เพิ่มขึ้น 45.7% ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็น 1 ใน 4 เสาหลักที่สนับสนุนเศรษฐกิจของกัมพูชา นอกเหนือไปจากการส่งออกเสื้อผ้า รองเท้าและสินค้าสำหรับการเดินทาง เกษตรกรรม การก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์
EU จ่อปลดอายัดทรัพย์สินมหาเศรษฐีรัสเซีย :
สหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณาปลดอายัดทรัพย์สินของโอเล็ก เดริปาสกา มหาเศรษฐีรัสเซีย เพื่อโอนหุ้นในบริษัทก่อสร้างสตราแบ็ก มูลค่า 2 พันล้านยูโร ให้ธนาคารไรฟ์ไฟเซนของออสเตรียตามคำสั่งศาลรัสเซียที่สั่งชดใช้ค่าเสียหายจากคดีที่บริษัทเดริปาสกาเคยยื่นฟ้อง อย่างไรก็ตาม ชาติสมาชิกหลายประเทศกังวลว่าอาจเป็นการยอมรับอำนาจศาลรัสเซีย และเปิดช่องให้มหาเศรษฐีรัสเซียรายอื่นใช้ช่องทางเดียวกันฟ้องร้องตะวันตกได้

โมเมนต์หวาน :
โมเมนต์สุดฟินของคู่รักคนดัง! นางเอกสาว ออม สุชาร์ เพิ่งโพสต์ภาพดินเนอร์สุดหวานฉลองวันเกิดแฟนหนุ่ม แอมป์ พิธาน พร้อมแคปชั่นซึ้ง ๆ ว่า “Happy birthday to the love of my life Life is sweeter with you by my side. ขอให้พี่แอมมีความสุขมากๆ ที่สุดเลยนะคะ ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอด แบ่งปันความทุกข์ และความสุข เป็นกำลังใจที่ดีที่สุดของเค้าเลย วันเกิดปีนี้ขอให้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามานะคะ ทำธุรกิจอะไรก็ขอให้ปังๆๆทุกอย่างเลย รักแฟนๆมากๆค่าาาา” นอกจากจะหวานแล้ว แคปชั่นของออมยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความเข้าใจและซัพพอร์ตกันในทุกเรื่อง เรียกได้ว่าเติมเต็มซึ่งกันและกัน
เปิดใจหลังปมดราม่า :
ดราม่าจุดเล็กแต่ลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อน้องสาวคนเล็กแห่งบ้านฉัตรบริรักษ์อย่าง น้องวันใหม่ เจอคอมเมนต์แรงสนั่นโซเชียล หลังมีคลิปที่ หน่อง ธนา พี่ชายคนกลาง ไปรับน้องที่โรงเรียน แต่หลายคนกลับโฟกัสว่า “ทำไมน้องไม่ไหว้?” และพากันตั้งข้อสังเกตว่าเธอดูเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ในคลิป แต่กลับทำให้โลกโซเชียลลุกเป็นไฟ บางคนถึงขั้นโยงไปถึงการเลี้ยงดู ว่าพี่ชายดูแลไม่ดีพอ จนผิวคล้ำ ไม่เหมือนตอนอยู่กับคุณแม่ ล่าสุด หน่อง ธนา และ น้องวันใหม่ ออกมาเปิดใจถึงทุกดราม่าแบบตรงไปตรงมา “วันใหม่ก็เหมือนเดิม แค่โตขึ้น เรื่องพูด ‘คะ/ขา’ อาจจะมีหลุดบ้างในคลิป แต่ไม่ใช่แบบนั้นทั้งวัน ขอโทษถ้าทำให้ใครไม่สบายใจครับ” โดยทางด้านวันใหม่ ก็ตอบกลับปมดราม่าเช่นกันว่า “รู้เรื่องดราม่าค่ะ แต่ไม่ได้นอยด์เลย เพราะเป็นเรื่องปกติของโซเชียล มองว่านี่เป็นการฝึกซ้อมก่อนเข้าวงการเต็มตัว และจะนำคำวิจารณ์ไปปรับปรุงค่ะ”
ทองที่ 6 :
การแข่งขัน กรีฑาคนพิการชิงแชมป์โลก 2025 (New Delhi World Para Athletics Championships 2025) จัดขึ้น ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย โดย “ฟิวส์” อธิวัฒน์ แพงเหนือ โชว์สปีดเหนือชั้น พุ่งเข้าเส้นชัยคว้าเหรียญทอง 100 เมตร T54 ขณะที่ “พอส” พิพัฒน์พงศ์ เสียงล่ำ ทำอันดับ 8 และถือเป็นเหรียญทองที่ 6 ของทัพนักกีฬาไทย
พัฒนากีฬากระโดดน้ำ :
สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย จับมือ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ลงนาม MOU พัฒนากีฬากระโดดน้ำ ร.อ.ธรรมนัส นายกสมาคมฯ ทุ่มงบ 30 ล้านบาท สร้าง “ยิมบก” พร้อมอุปกรณ์ทันสมัย หวังยกระดับฝีมือเยาวชนไทย ไล่ทัน มาเลเซีย-สิงคโปร์ ในอาเซียน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : รู้ “โต้ง สิริพงศ์” จากยาม ในไทบ้านเดอะซีรี่ส์ สู่ โฆษกรัฐบาล