กสิกรไทยเผยดิจิทัล วอเล็ตมีความเสี่ยง
กสิกรไทย ปรับลดจีดีพีไทยลงแตะ 3% จากเดิม 3.7% หลังมาตรการ Quick Win
กสิกรไทย ปรับลดจีดีพีไทยลงแตะ 3% จากเดิม 3.7% หลังมาตรการ Quick Win รัฐออกมาช้าไป ไม่ส่งผลดีปีนี้ แต่ปีหน้าสดใส คาดจีดีพีขยายตัว 4% พร้อมชี้จุดเสี่ยง ดิจิทัล วอลเล็ต ก่อหนี้ 5.6 แสนล้านบาท หากเกาไม่ถูกที่คัน ต่างชาติจ่อปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ
“ถ้ารัฐบาล ออกโครงการดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงๆ เพื่อให้จีดีพีขยายตัวเป็นบวก และยิ่งเป็นบวกมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีต่อวินัยการเงินการคลัง” นายบุรินทร์ อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการและ Chief Economist บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด แถลงข่าวหัวข้อ “ทิศทางเศรษฐกิจไทย…หลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่” เมื่อวันอังคารที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา
นายบุรินทร์ กล่าวว่า รัฐบาลที่เพิ่งเข้ามาบริหารประเทศ แม้จะออกมาตรการที่เรียกว่า “ Quick Win” เช่น การปรับลดค่าไฟฟ้า และน้ำมันดีเซล จะสามารถช่วยค่าครองชีพและอัตราเงินเฟ้อได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่ได้ช่วยกระตุ้นจีดีพีให้ดีขึ้นมากมายนัก ในปีนี้ เราจึงปรับจีดีพีลงจากเดิม 3.7% มาอยู่ที่ 3% แต่ในปีหน้า จะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4% หรือบวกเพิ่มขึ้นจากปี2566 ประมาณ 1% เนื่องจากมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลที่ออกมาในปีนี้ ส่งผลดีในปีหน้า
“เรามองว่า จีดีพีต้องเป็นบวกเท่านั้น และจะถ้าบวกได้ 5% อย่างที่นายกรัฐมนตรีต้องการก็ยิ่งดี เพราะการก่อหนี้จำนวนมากๆ จากโครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต 560,000 ล้านบาทนั้น ส่งผลให้หนี้ของรัฐบาล มีเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนและหากหนี้ที่มีเพิ่มขึ้น ไม่ทำให้เศรษฐกิจขยายตัว โอกาสที่เราถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ก็มีมากขึ้น”
นายบุรินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันหนี้สาธารณะต่อจีดีพี อยู่ที่ 61% และอาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 65% และ 70% ในที่สุด ซึ่งกรณีนี้ หากหนี้…ขยายตัวเพิ่มสูงกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจ สุดท้ายแล้ว ความสามารถในการหารายได้ของรัฐบาลก็จะไม่เพียงในการชำระหนี้
“แม้ว่า หนี้สาธารณะของไทยยังมีไม่มาก และมีช่องว่างในการขยายการก่อหนี้ได้ก็ตาม แต่รัฐบาลต้องพุดถึงแนวทางการหารายได้เพิ่มขึ้นด้วย เพราะบางประเทศมีหนี้เกินกว่า 100% ของจีดีพี แต่ยังอยู่ได้ เพราะรัฐบาลมีแนวทางในการหารายได้ เพื่อนำมาชดใช้หนี้”
ยกตัวอย่าง กรณีนี้ ของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าในช่วงนี้ เกิดจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น เนื่องอัตราดอกเบี้ยของไทยกับสหรัฐฯ แตกต่างกันมาก โดยอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรไทยอายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 2.54% ขณะที่ พันธบัตรอายุ 2 ปีของสหรัฐฯ อยู่ที่ 5.12% แตกต่างถึง 3% แน่นอนว่า ต้องมีเงินทุนไหลออก
ส่วนผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 27 ก.ย.นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.25%