จับตาเงินบาทนิ่งหลัง กนง.ขึ้นดอกเบี้ยสัปดาห์นี้
นักวิเคราะห์คาดว่า กนง.ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาลอีก 0.25% ดันเงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยจากการเดินหน้าคุมเข้มนโยบายการเงินของ ธปท.
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เงินบาทมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวเพิ่มเติม เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังมีแนวโน้มที่จะยึดมั่นต่อนโยบายการเงินที่เข้มงวดในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะช่วยหนุนให้เงินบาทหลุดพ้นจากภาวะซบเซาอันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนทางการเมือง
รายงานระบุว่า สกุลเงินบาทมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกือบ 3% ในเดือนก.ค. หลังจากอ่อนค่า 3 เดือนติดต่อกัน โดยค่าเงินบาทที่แข็งค่าส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้แรงหนุนจากการคาดเดาว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้วและการยึดมั่นต่อนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธปท.อาจทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นเพิ่มเติม
ธนาคารกลางส่วนใหญ่ในเอเชียระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ธปท. อาจเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในสัปดาห์นี้ โดยเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธปท. กล่าวว่า เขาไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องรีบปรับเปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงิน เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
นายเอ็ดเวิร์ด ลี หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจอาเซียนและเอเชียใต้จากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดระบุว่า “การประชุมที่กำลังจะมีขึ้นสัปดาห์นี้ เราคาดว่า ธปท.จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เมื่อพิจารณาจากความเห็นเชิงรุก เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างช้า ๆ และความจำเป็นในการสร้างขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน” กรณีดังกล่าวจะเพิ่มแรงส่งให้กับการแข็งค่าของเงินบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากธปท.ส่งสัญญาณเดินหน้านโยบายการเงินเชิงรุก โดยนักเศรษฐศาสตร์จากโนมูระ โฮลดิงส์ คาดการณ์ว่า ธปท.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในสัปดาห์นี้ และอาจจะปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนก.ย ขณะเดียวกันโนมูระ โฮลดิงส์คาดการณ์ว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นแตะ 32.9 ต่อดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่ 4/2566
ด้านธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ (31 ก.ค.-4 ส.ค.) ที่ระดับ 33.50-34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมกนง. (2 ส.ค.) สถานการณ์การเมืองไทย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ
ทั้งนี้ ในวันที่ 27 ก.ค. 2566 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 34.07 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 34.45 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (21 ก.ค.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 24-27 ก.ค.2566 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 4,285 ล้านบาท แต่มีสถานะ Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 193 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 214 ล้านบาท หักด้วยตราสารหนี้ที่หมดอายุ 21 ล้านบาท)