กรมศุลฯ น้อมรับผิดประมูลขายนาฬิกาปลอม

กรมศุลกากร ยอมรับขายนาฬิกาปลอมทอดตลาด เหตุเพราะไม่มีความชำนาญ

พร้อมขอโทษผู้ประมูลทุกราย และตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตรวจสอบแล้วเสร็จภายใน 30 วัน
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า จากที่มีการเสนอข่าวเกี่ยวกับการประมูลนาฬิกาจากกรมศุลกากร ภายหลังพบว่าเป็นนาฬิกาปลอมเครื่องหมายการค้ากรมศุลกากรได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว มีข้อเท็จจริงดังนี้ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2565 เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรได้เข้าตรวจค้นร้านขายนาฬิกาบริเวณศูนย์การค้า Siam Square One พบนาฬิกามีเครื่องหมายการค้า จำนวน 14 รายการ ทั้งนี้ ได้เชิญเจ้าของสิทธิ์มาตรวจสอบ พบว่า มีจำนวน 1 เรือน เป็นสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า และอีก 13 เรือน เป็นของที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์

“กรมศุลกากรได้นำนาฬิกาทั้ง 13 เรือน และได้ประกาศขายทอดตลาด ในวันที่ 28 มิ.ย.2566 โดยเปิดให้เข้าชมของกลาง วันที่ 5 ก.ค.2566 และเปิดซองการประมูล วันที่ 6 ก.ค.2566 มีผู้เข้าร่วมการประมูลทั้งสิ้น 18 ราย”
ทั้งนี้ หลังจากที่กรมฯ ได้รับข้อมูลจากผู้ประมูลว่านาฬิกาที่มีการประมูลจากกรมศุลกากรเป็นสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า กรมศุลกากรจึงได้ดำเนินการตรวจสอบทันที ซึ่งในวันนี้ (10 ก.ค. 2566) ได้เชิญเจ้าของสิทธิ์มาหารืออีกครั้ง เจ้าของสิทธิ์แจ้งว่า นาฬิกาทั้งหมดที่ได้ประมูล วันที่ 6 ก.ค. 2566 เป็นสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า
กรมศุลกากรจึงออกคำสั่งยกเลิกการประมูลนาฬิกาและให้คืนเงินให้กับผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด โดยในส่วนของกรมศุลกากรจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วนต่อไป
ทั้งนี้ กรมศุลกากรจึงขออภัยสำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและจะดำเนินการอย่างรอบคอบในการประมูลสินค้า ครั้งต่อไป สำหรับขั้นตอนต่อไป จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงต่อไป โดยกำหนดระยะเวลา 30 วัน

“กรมของอภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยอมรับว่า กรมไม่มีความชำนาญในเรื่องนี้ จึงได้ส่งภาพถ่ายนาฬิกาไปตรวจสอบ ซึ่งบริษัทตัวแทนยืนยันว่า นาฬิกาเป็นของจริง กรมจึงนำมาออกมาประมูล”
นายพันธ์ทอง กล่าวว่า จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ถือเป็นควาผิดพลาดและต้องขอโทษ (ยกมือไหว้) ผู้ชนะการประมูล โดยเงินทุกบาท ทางกรมฯ จะคืนให้ทั้งหมด ส่วนการประมูลของมีค่าในรอบต่อไป จะมีการปรับปรุงกฎระเบียบและขั้นตอนให้ดีขึ้น ไม่มีสินค้าปลอมปะปนอย่างแน่นอน