ราคาประเมินที่ดินใหม่ทั่วประเทศเฉลี่ยพุ่ง 8.93%
กรมธนารักษ์ประกาศใช้บัญชีราคาประเมินที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ตามพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ. 2562 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2566
กรมธนารักษ์เริ่มใช้บัญชีราคาประเมินที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ตามพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สิน เพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 เป็นต้นไป โดยราคาประเมินที่ดินมีอัตราการเปลี่ยนแปลงราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยทั้งประเทศประมาณ 8.93% และราคาประเมินสิ่งปลูกสร้างเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 6.21%
ณ กรมธนารักษ์ นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ประธานคณะกรรมการประจำจังหวัดแต่ละจังหวัดได้มีการประกาศบัญชีราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ. 2562 แล้ว ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2564 แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในปัจจุบันยังคงส่งผลกระทบโดยรวมต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ จึงให้เริ่มใช้บัญชีดังกล่าวในวันที่ 1 ม.ค. 2566 เพื่อลดภาระกับประชาชนที่จะต้องนำราคาประเมินไปใช้เป็นฐานในการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งภาษีอากรและค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรม
ซึ่งขณะนี้กรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ได้ดำเนินการติดประกาศและเตรียมข้อมูลเผยแพร่แล้ว ดังนั้น ราคาประเมินใหม่จะใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2566 ถึง 31 ธ.ค. 2569 โดยราคาประเมินที่ดินมีอัตราการเปลี่ยนแปลงราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยทั้งประเทศ ประมาณ 8.93% และราคาประเมินสิ่งปลูกสร้างเพิ่มขึ้น เฉลี่ยประมาณ 6.21% เมื่อเทียบกับรอบบัญชีที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งใช้มาเป็นระยะเวลา 7 ปี โดยที่กรุงเทพมหานคร มีอัตราการเปลี่ยนแปลงราคาประเมินที่ดินเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.76% และราคาประเมินสิ่งปลูกสร้างเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4.60%
นายจำเริญกล่าวต่อว่า สำหรับปีภาษี 2566 จะใช้ราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รอบบัญชี พ.ศ. 2566-2569 ไปใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ซึ่งจากข้อมูลที่ผ่านมามีจำนวนการจดทะเบียนซื้อขายเฉลี่ยปีละประมาณ 7 ล้านแปลง คิดเป็น 20% จากจำนวนแปลงที่ดินทั้งหมด และราคาดังกล่าวยังนำไปใช้ในการจัดเก็บภาษีตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งหากประชาชนที่เป็นเจ้าของที่ดินใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นเกษตรกรรมหรือเป็นที่อยู่อาศัย (บ้านหลังหลัก) มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท จะได้รับการยกเว้นภาษี ซึ่งถือว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบแต่จะได้รับผลกระทบกับประชาชนผู้ที่ถือครองที่ดินที่มีจำนวนมาก และมีบ้านมากกว่า 1 หลัง สำหรับผู้เช่าที่ราชพัสดุยังจะต้องจ่ายค่าภาษี ซึ่งไม่ได้รับการยกเว้น
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รอบบัญชี พ.ศ. 2566-2569 ได้ที่เว็บไซต์กรมธนารักษ์ www.treasury.go.th หรือแอปพลิเคชัน TRD Property Valuation และสอบถามราคาประเมินที่ดิน โทร. 0 2270 0360 – 63 และ Call Center กรมธนารักษ์ โทร. 0 2059 4999