Skip to content
Sat. Oct 4th, 2025
  • Facebook
  • Twitter
AEC10NEWS

AEC10NEWS

Primary Menu
  • Home
  • NEWS
    • BREAKING NEWS
    • CHINA NEWS
    • ENERGY FORCE
    • EDITOR TALK
    • MONEY MOVEMENT
    • NATIONAL
    • OPEN NEWS
    • POLITICS
    • WORLD
    • ดวงประจำวัน
  • ASEAN
    • Brunei
    • Cambodia
    • Indonesia
    • Laos
    • Malaysia
    • Myanmar
    • Philippines
    • Singapore
    • Vietnam
  • EEC
  • SPECIAL REPORT
  • BUSINESS
    • BUSINESS MOVEMENT
    • HOT MARKETS
    • PHOTO STORIES
  • HOT NEWS
  • NATIONAL

ส่องเศรษฐกิจและตลาดหุ้นเมืองชวา… หาโอกาสการลงทุน

15/07/2022 2 min read
  • LINEแชร์เลย!
ดูแล้ว: 1,090

ท่ามกลางความผันผวนจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น แรงกดดันเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยขาขึ้นแบบเร็วและแรง การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยในบางประเทศ โดย SCB CIO เชื่อว่าการกระจายการลงทุนไปสู่ประเทศที่มีศักยภาพเติบโตในระยะยาว จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนของ portfolio ได้ บทวิเคราะห์นี้ SCB CIO อยากชวนทุกคนมารู้จักเศรษฐกิจและตลาดหุ้นอินโดนีเซียมากขึ้นผ่าน 5 คำถามสำคัญ ได้แก่

โครงสร้างเศรษฐกิจอินโดนีเซียเป็นอย่างไร และ แตกต่างกับเศรษฐกิจไทยอย่างไร?

อินโดนีเซียมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 6 ในเอเชีย-แปซิฟิกและอันดับ 1 ในอาเซียน ซึ่งป็นเเศรษฐกิจที่พึ่งพาการใช้จ่ายในประเทศเป็นสำคัญ (Domestic demand-led growth) ต่างจากไทยและเวียดนามที่พึ่งพาการส่งออกสินค้าและบริการที่มากกว่าอินโดนีเซีย  โดยปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจอินโดนีเซียมาจากขนาดประชากรที่ใหญ่และกลุ่มชนชั้นกลางที่เติบโต นอกจากนั้น ยังมีทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมาก ซึ่งจูงใจให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนทางตรงต่อเนื่อง รวมถึงการลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคน เช่น อุตสาหกรรม EV

วัฏจักรราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอินโดนีเซียอย่างไร?

การส่งออกกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ถ่านหิน น้ำมันปาล์ม และแร่ธาตุนิกเกิล เป็นหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอินโดนีเซีย ที่ทำให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มเคลื่อนไหวตามวัฏจักรราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ผ่านการส่งออกและการลงทุนในประเทศต่อเนื่องมายังรายได้และการจ้างงานของครัวเรือนแต่ในระยะหลังนี้ปัจจัยนี้มีผลต่อเศรษฐกิจอินโดนีเซียน้อยลงเนื่องจากการเติบโตของกลุ่มชนชั้นกลางที่ช่วยประคับประคองการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศได้มากขึ้น รวมถึงการลงทุนของธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น จากที่เคยเน้นไปแค่อุตสาหกรรมการทำเหมือง

ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ นโยบายการเงินตึงตัว และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและการเงินอินโดนีเซียในระยะสามปีข้างหน้าอย่างไร?

เสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินของอินโดนีเซียโดยรวมในปัจจุบันยังถือว่าอยู่ในระดับที่ดี แนวโน้มในระยะ 3 ปีข้างหน้าก็ยังไม่น่ากังวล หากพิจารณาจาก 1) ดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลในปีนี้และ 3 ปีข้างหน้าการขาดดุลอยู่ในระดับต่ำไม่เกิน 2% ของ GDP 2) หนี้ของภาครัฐและเอกชนอยู่ในระดับต่ำเป็น Buffer สำคัญที่จะช่วยรับมือในช่วงที่เกิดวิกฤต 3) เงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่ค่าเงิน IDR ก็ไม่ผันผวนในทิศทางอ่อนค่ารุนแรงเหมือนในอดีต 4) แรงกดดันจากนโยบายการเงินที่ตึงตัวจากประเทศชั้นนำกดดันต่อตลาดเงินอินโดนีเซียไม่มาก ผลจากต่างชาติถือครองพันธบัตรอินโดนีเซียในสัดส่วนต่ำ 5) เงินเฟ้อสูงยังไม่กดดันให้ธนาคารกลางอินโดนีเซียต้องขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วและแรง ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการดูแลค่าครองชีพของรัฐบาล

โครงสร้างตลาดทุนของอินโดนีเซียเป็นอย่างไร? แตกต่างกับตลาดหุ้นไทยและเวียดนามอย่างไร?

ตลาดหุ้นอินโดนีเซียมีหุ้นกลุ่มการเงินเป็นกลุ่มที่มี market capitalization ใหญ่ที่สุด รองลงมามีการกระจายตัวอยู่ในกลุ่ม Consumer discretionary กลุ่มสื่อสาร กลุ่ม Material และ Consumer staples นอกจากนี้ มูลค่าตลาดยังกระจุกตัวอยู่ในหุ้น 10 บริษัทแรกซึ่งมีสัดส่วนอยู่ราว 50% ของมูลค่าตลาด คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นเวียดนาม ขณะที่ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างกระจายตัวในหลาย sectors มากกว่า

มูลค่าของตลาดหุ้นอินโดนีเซียเป็นอย่างไร? หุ้นกลุ่มไหนเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ?

โดยรวม SCB CIO มีมุมมองเป็น Slightly positive ต่อตลาดหุ้นอินโดนีเซีย มูลค่าตลาดหุ้นอินโดนีเซียยังมีความน่าสนใจ เนื่องจาก Forward P/E ที่ 15 เท่า สำหรับ JCI และ 14 เท่า สำหรับ MSCI-Indonesia ยังเป็นระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปี (-0.9 และ -1.4 SD ตามลำดับ) ขณะที่ Earning ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี (เฉลี่ย 12-13% ในปี 2022-23) โดยเฉพาะกลุ่ม Large และ Mid Cap และหากเปรียบเทียบกับไทยและเวียดนาม อินโดนีเซียก็ยังคงน่าสนใจ ในแง่ของความผันผวนที่ต่ำกว่า ผลตอบแทนโดยรวมที่ดีกว่า และ Earning ใน 1-2 ปี ที่ยังเติบโตได้ดี ในส่วนของ Sectors ที่น่าสนใจสำหรับลงทุนในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1) กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มสุขภาพ และกลุ่ม Consumer discretionary ที่ได้รับปัจจัยบวกจากการเติบโตของกลุ่มชนชั้นกลางและการขยายตัวของธุรกิจบริการ โดยเฉพาะธุรกิจ Platfrom และ 2) กลุ่มพลังงานและกลุ่ม Material ที่ได้อานิสงส์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังอยู่ในระดับสูง แต่ในระยะสั้นผลบวกเริ่มมีข้อจำกัดจากแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่กำลังเข้าสู่ระดับสูงสุด อย่างไรก็ตาม ในระยะกลาง การลงทุนในประเทศที่คาดว่าจะขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ EV น่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนในกลุ่ม Material

บทวิเคราะห์เจาะลึก…. ส่องเศรษฐกิจและตลาดหุ้นอินโดนีเซีย         

ท่ามกลางความผันผวนจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่กระทบต่อเศรษฐกิจประเทศชั้นนำ รวมถึงเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ ยังมีเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่อย่างอินโดนีเซีย ที่ยังมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวและเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ยังมีช่องว่างให้พัฒนาและขยายการลงทุนได้ สำหรับในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกเหนือจากตลาดเวียดนามที่นักลงทุนไทยคุ้นเคยแล้ว ตลาดอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องและมีความน่าสนใจ ทั้งในแง่ขนาดตลาดที่ใหญ่และทรัพยากรที่มีมาก

บทวิเคราะห์นี้ SCB CIO อยากชวนทุกคนมารู้จักตลาดอินโดนีเซียมากขึ้นผ่าน 5 คำถามสำคัญ ได้แก่ (i) โครงสร้างเศรษฐกิจอินโดนีเซียเป็นอย่างไร แตกต่างกับเศรษฐกิจไทยและเวียดนามอย่างไร (ii) วัฏจักรราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอินโดนีเซียอย่างไร (iii) ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ นโยบายการเงินตึงตัว และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและการเงินอินโดนีเซียในระยะสามปีข้างหน้าอย่างไร  (iv) โครงสร้างตลาดทุนของอินโดนีเซียเป็นอย่างไร แตกต่างกับตลาดหุ้นไทยและเวียดนามอย่างไร และ (v) มูลค่าของตลาดหุ้นอินโดนีเซียเป็นอย่างไร หุ้นกลุ่มไหนเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ

โครงสร้างเศรษฐกิจอินโดนีเซียเป็นอย่างไร? แตกต่างกับเศรษฐกิจไทยอย่างไร?

เศรษฐกิจอินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศกำลังพัฒนาที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยเศรษฐกิจมีขนาดใหญ่ถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 6 ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และใหญ่เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มอาเซียน ขณะที่เศรษฐกิจขยายตัวค่อนข้างดีต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงฟื้นตัวได้ดีจากวิกฤตโรคระบาด COVID-19 (ในปี 2015-2019 อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยอยู่ที่ 5% ต่อปี ก่อนที่จะหดตัวในปี 2020 อยู่ที่ -2.1% และฟื้นตัวในปีถัดมาที่ 3.7% โดยล่าสุดในไตรมาสแรกของปี 2022 ขยายตัว 5% YOY)

โครงสร้างเศรษฐกิจของอินโดนีเซียเป็นเศรษฐกิจที่พึ่งพาการใช้จ่ายในประเทศเป็นสำคัญ (Domestic demand-led growth) ซึ่งแตกต่างจากโครงสร้างเศรษฐกิจไทยและเวียดนามที่พึ่งพาภาคการส่งออกสินค้าและบริการในสัดส่วนที่มากกว่าอินโดนีเซีย (รูปที่ 1) หากพิจารณาจาก 1) สัดส่วนของการบริโภคของเอกชนและการลงทุนรวมในประเทศเฉลี่ยในช่วงปี 2012-2021 ของอินโดนีเซียที่สูงถึง 91% ต่อมูลค่า GDP เทียบกับภาคส่งออกที่มีเพียง 21% ขณะที่ประเทศไทยและเวียดนามมีสัดส่วนภาคส่งออกสูงถึง 64% และ 95% ตามลำดับ และ 2) การใช้จ่ายในประเทศเป็นภาคเศรษฐกิจหลักขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจในอินโดนีเซีย (Contribution to GDP growth) กล่าวคือ GDP ในช่วงปี 2012-2019 (ไม่นับในปี 2020-2021 ที่เศรษฐกิจในประเทศเผชิญวิกฤต COVID-19) ที่ขยายตัวเฉลี่ย 5.2% ต่อปี มาจากการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนในประเทศสูงถึง 4.7%

ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้การใช้จ่ายในประเทศของอินโดนีเซียเป็นภาคเศรษฐกิจสำคัญและขยายตัวโดดเด่นเมื่อเทียบกับภาคการส่งออก ได้แก่ 1) ขนาดประชากรที่ใหญ่ อายุเฉลี่ยต่ำ และรายได้เติบโตดี 2) ทรัพยากรธรรมชาติที่มีจำนวนมาก และ 3) ต่างชาติเข้ามาลงทุนทางตรง (Foreign Direct Investment: FDI) ค่อนข้างมาก สำหรับปัจจัยด้านประชากร อินโดนีเซียเป็นตลาดการบริโภคที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม ASEANs (รูปที่ 2) ด้วยจำนวนประชากรที่มากถึงเกือบ 300 ล้านคน และอยู่ในวัยที่กำลังก่อร่างสร้างตัวและมีความต้องการในการจับจ่ายใช้สอยสูง ด้วยอายุเฉลี่ย(ค่ามัธยฐาน) ที่ 30 ปี แตกต่างจากประชากรไทยที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (อายุเฉลี่ย (ค่ามัธยฐาน) 40 ปี) ที่มักมีพฤติกรรมเริ่มเน้นการออมมากขึ้นและบริโภคน้อยลงเมื่อเทียบกับสัดส่วนของรายได้

ขณะที่คุณภาพของประชากรอินโดนีเซียก็อยู่ในแนวโน้มที่ดี (รูปที่ 2) สะท้อนจาก 1) จำนวนประชากรในเขตเมืองที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่สัดส่วนเกือบ 60% ของประชากรทั้งประเทศ และมากกว่าไทยและเวียดนามที่มีสัดส่วน 52% และ 38% และ 2) รายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงอยู่ที่ $13,099/ปี สูงกว่าเวียดนามที่ $11,534/ปี และแม้ว่าจะต่ำกว่าประเทศไทย แต่แนวโน้มการขยายตัวในอีก 5 ปีข้างหน้าอยู่ในระดับสูงกว่าประเทศไทย (คาดการณ์โดย IMF)

นอกจากนี้ การบริโภคของครัวเรือนในอินโดนีเซียยังได้ปัจจัยเร่งจากการเติบโตของเศรษฐกิจ Digital โดยเฉพาะการเข้าถึงสินเชื่อและการใช้จ่ายผ่าน e-wallet โดยในปี 2017-2019 ปริมาณธุรกรรม e-money เพิ่มขึ้นเกือบ 12 เท่าสู่ระดับ 145    tn IDR ขณะที่เงินกู้สะสมในรูปแบบ P2P เพิ่มขึ้น 37 เท่า

สำหรับปัจจัยด้านทรัพยากรธรรมชาติ อินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตทรัพยากรด้านพลังงานและโลหะภัณฑ์ที่จำเป็นต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยอินโดนีเซียสามารถผลิตถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ นิกเกิลและทองแดงสูงเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่ม ASEAN โดยโลหะภัณฑ์ นิกเกิลและทองแดง มีความสำคัญต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะแบตเตอรี่รถยนต์ EV ที่เป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตและเป็นอุตสาหกรรมอนาคตของโลก ขณะที่ไทยและเวียดนามแทบไม่มีการผลิตโลหะภัณฑ์ดังกล่าวเลย

สำหรับปัจจัยด้านการลงทุนทางตรงของต่างชาติ (FDI) ผลจากตลาดผู้บริโภคที่มีขนาดใหญ่และทรัพยากรธรรมชาติที่มากของอินโดนีเซีย ท่ามกลางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ยังมีช่องว่างในการพัฒนาอยู่มาก ทำให้อินโดนีเซียเป็นแหล่งลงทุน FDI ที่น่าสนใจสำหรับบริษัทข้ามชาติและนักลงทุนต่างชาติ เห็นได้จากเม็ดเงินลงทุน FDI สุทธิสะสมและ  อัตราการขยายตัวเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาของอินโดนีเซียที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค รวมถึงไทยและเวียดนาม

ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของ FDI ในระยะข้างหน้าของอินโดนีเซียยังมีโอกาสขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์ EV (หนึ่งในกระแสการลงทุน ESG) ซึ่งนิกเกิลเป็นส่วนสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ EV ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นแหล่งผลิตนิกเกิลรายใหญ่ของโลก ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่สูงถึงเกือบ 40% ในปี 2021  ทำให้อินโดนีเซียเป็นที่สนใจของบริษัทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์ EV ให้เข้ามาลงทุน เช่น โครงการลงทุนเพื่อผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ EV ในอินโดนีเซียของกลุ่มทุนเกาหลี Hyundai-LG และ JV: Indonesia Battery Corp (IBC)-LG group ซึ่ง JV มีเม็ดเงินลงทุนอยู่ราว US$9.8bn และโครงการลงทุนของ Contemporary Amperex Technology (CATL) จากจีนที่มีเม็ดเงิน US$5bn เพื่อผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม เป็นต้น

วัฏจักรราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอินโดนีเซียอย่างไร?

การเติบโตของเศรษฐกิจที่ผ่านมาของอินโดนีเซีย ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญมาจากกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งกลุ่มพลังงานและกลุ่มวัตถุดิบสำหรับการผลิตภาคอุตสาหกรรม ทำให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงตามวัฏจักรราคาสินค้าโภคภัณฑ์เช่นกัน หากพิจารณาจากรูปที่ 5 จะพบว่าในช่วงที่ราคาสินค้าพลังงานและโลหะภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้นจะส่งผลบวกในอีกประมาณ 1 ปีถัดมาต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจผ่านการส่งออกและการลงทุนในประเทศ ต่อเนื่องมายังรายได้และการจ้างงานของครัวเรือน นำมาสู่การบริโภคภาคเอกชนให้ดีขึ้น รวมไปถึงคุณภาพสินเชื่อก็ปรับตัวดีขึ้นตามมาในท้ายที่สุด นอกจากนี้ ตลาดหุ้นและค่าเงินก็ได้อานิสงส์ด้านบวกด้วยเช่นกัน ในทางตรงกันข้าม เมื่อราคาสินค้าพลังงานและโลหะภัณฑ์ลดลง จะส่งผลให้ภาคส่งออกของอินโดนีเซียหดตัวลงตาม และการลงทุนชะลอตัวลงมาก

ตัวอย่าง เช่นในช่วงปี 2011-1H2013 ที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ในระดับสูง การลงทุนในประเทศขยายตัวสูงถึง 8-9% เทียบกับช่วงปี 2015-1H2017 ที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ในระดับต่ำ การลงทุนขยายตัวเพียงประมาณ 4-5%

อย่างไรก็ตาม การบริโภคของเอกชนกลับขยายตัวชะลอลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับภาคส่งออกและลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์มากกว่า ส่วนหนึ่งมาจากการเติบโตของกลุ่มชนชั้นกลางและการขยายตัวของภาคธุรกิจอื่นๆ ในประเทศ โดยเฉพาะภาคบริการที่ปัจจุบันมีน้ำหนักใน GDP สูงถึงเกือบ 50% มากกว่าภาคอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วน 40% (เทียบกับเมื่อ 10 ปีก่อนที่ภาคบริการมีสัดส่วน 40% น้อยกว่าภาคอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ที่ 45%)

ดังนั้น ในระยะหลังนี้ วัฏจักรราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจผ่านการส่งออกและการลงทุน โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มพลังงาน แต่ผลกระทบรุนแรงน้อยลงจากอดีต เนื่องจากได้ปัจจัยบวกจากการเติบโตของกลุ่มชนชั้นกลางที่ช่วยประคับประคองการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ หากการลดลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ไม่รุนแรงและยาวนาน นอกจากนี้ การสนับสนุนการลงทุนที่เกาะกระแส ESG เช่น รถยนต์ EV ที่แนวโน้มอุปสงค์เติบโตต่อเนื่อง ก็อาจช่วยลดทอนผลกระทบของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะราคาพลังงานลงมาได้บ้าง

ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ นโยบายการเงินตึงตัว และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและการเงินอินโดนีเซียในระยะสามปีข้างหน้าอย่างไร? 

ในภาวะที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญความเสี่ยงเงินเฟ้อสูง แรงกดดันจากนโยบายการเงินที่ตึงตัว ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่อาจจะชะลอตัวลง แต่ดูเหมือนว่าเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินของอินโดนีเซียโดยรวมในปัจจุบันยังถือว่าอยู่ในระดับที่ดี แนวโน้มในระยะ 3 ปีข้างหน้าก็ยังไม่น่ากังวล หากพิจารณาจาก

1. ดุลบัญชีเดินสะพัดที่ในปี 2022 เกินดุล 4.5% ของ GDP  ในระยะ 3 ปีข้างหน้าการขาดดุลอยู่ในระดับต่ำไม่เกิน 2% ของ GDP  (คาดการณ์โดย IMF) ทั้งนี้ การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับต่ำๆ ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับประเทศกำลังพัฒนาที่ยังมีความต้องการลงทุนสูง เนื่องจากสะท้อนถึงสัดส่วนการลงทุนที่มีมากกว่าการออม บ่งชี้ศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ขณะที่ดุลการคลังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากในอดีต (คาดการณ์โดย IMF)

2. ภาระหนี้ของทั้งภาครัฐและเอกชนยังอยู่ในระดับต่ำ หากเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ถือว่าเป็น Buffer สำคัญที่จะช่วยรับมือในช่วงที่เกิดวิกฤต

3. เงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าการนำเข้าสินค้าและบริการ รวมถึงเทียบกับมูลค่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้น ขณะที่ค่าเงิน IDR ก็ไม่ผันผวนในทิศทางอ่อนค่ารุนแรงเหมือนในอดีต และล่าสุดที่ค่าเงินของหลายประเทศในเอเชียกำลังเผชิญแรงกดดันจากการแข็งค่าของ USD จะพบว่า IDR อ่อนค่าเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ JPY, KRW, INR และ THB (Analyst consensus by Bloomberg มีมุมมองต่อค่าเงิน IDR เทียบ USD จะทยอยกลับมาแข็งค่าหลังจาก BI ปรับขึ้นดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในครึ่งหลังของปีนี้ ส่งผลให้ IDR/USD สิ้นปี 2022 อยู่ที่ 14,650 และสิ้นปี 2023-2024 อยู่ที่ 14,617 และ 14,500 ตามลำดับ จากปัจจุบันที่ IDR/USD อยู่ที่ 14,969 ในวันที่ 12 ก.ค. 2022 และเฉลี่ย YTD อยู่ที่ 14,478)

4. แรงกดดันจากนโยบายการเงินที่ตึงตัวจากประเทศชั้นนำ กดดันต่อตลาดเงินอินโดนีเซียไม่มากเท่ากับในอดีต ส่วนหนึ่งมาจากตลาดพันธบัตรของอินโดนีเซียมีสัดส่วนของนักลงทุนต่างชาติลดลงค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับในอดีต ซึ่งมาจากการเข้าซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางอินโดนีเซียในช่วงที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตโรคระบาด COVID-19

5. ทิศทางของเงินเฟ้อสูงยังไม่กดดันให้ธนาคารกลางอินโดนีเซียต้องขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วและแรง แม้ว่าเงินเฟ้อทั่วไปเดือน มิ.ย. จะทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 ปี แต่ธนาคารกลางฯ ให้ความสำคัญกับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมากกว่า ซึ่งเดือน มิ.ย. ยังต่ำกว่าที่ตลาดคาด ผลจากการดูแลค่าครองชีพของรัฐบาลทำให้ราคาสินค้าไม่ได้เร่งตัวขึ้นมาก ขณะที่ความสามารถในการดูแลราคาสินค้าของรัฐบาลในระยะถัดไปยังคงมีอยู่ หากพิจารณาจากการขาดดุลการคลังและหนี้ภาครัฐที่ต่ำ แตกต่างจากในอดีตที่ความสามารถในการสนับสนุนของภาครัฐมีไม่มาก

ทั้งนี้ Analyst consensus by Bloomberg คาดว่าธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในครึ่งหลังของปี 2022 ส่งผลให้ดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันที่ 3.50% จะปรับขึ้นมาอยู่ที่ 4.25-4.50% ในสิ้นปี 2022 (BI เหลือการประชุมนโยบายการเงินอีก 6 ครั้งในปีนี้) และ 4.75-5.00% ในสิ้นปี 2023 ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า GDP จะขยายตัวได้เฉลี่ยอยู่ที่ 5.1-5.2% ในช่วงปี 2022-24 (IMF คาดว่า GDP ของอินโดนีเซียจะขยายตัวอยู่ในช่วง 5.0-6.0% ในปี 2022-24)

โครงสร้างตลาดทุนของอินโดนีเซียเป็นอย่างไร? แตกต่างกับตลาดหุ้นไทยและเวียดนามอย่างไร?

โครงสร้างตลาดหุ้นอินโดนีเซียในแง่ของ market capitalization มีหุ้นในกลุ่มธุรกิจการเงินเป็นกลุ่มหลัก รองลงมาจะกระจายตัวอยู่ในกลุ่ม Consumer discretionary กลุ่มสื่อสาร กลุ่ม Material และ Consumer staples นอกจากนี้ มูลค่าตลาดยังกระจุกตัวอยู่ในหุ้น 10 บริษัทแรก ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ 50% ของมูลค่าตลาด คล้ายคลึงกับตลาดเวียดนาม โดยกลุ่มธุรกิจการเงินมีมูลค่าในตลาดหุ้นอินโดนีเซียถึง 1 ใน 3 เช่นเดียวกันกับตลาดหุ้นในเวียดนาม แม้ว่าในกลุ่มธุรกิจการเงินจะมีหุ้นอยู่ในกลุ่มกว่า 100 บริษัท แต่เกือบ 70% ของมูลค่าของกลุ่มมาจากธนาคารขนาดใหญ่ 3 แห่ง คือ Bank Rakyat Indonesia, Bank Central Asia และ Bank Mandiri

สำหรับกลุ่มธุรกิจที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดรองลงมาจะกระจายตัวอยู่ใน 5 กลุ่มธุรกิจที่มีน้ำหนักอยู่ในตลาดประมาณ 8-15% ของตลาดหุ้นอินโดนีเซีย โดย 3 ใน 5 กลุ่มเกี่ยวข้องกับการบริโภคและภาคบริการ ได้แก่ กลุ่ม Consumer discretionary (มีหุ้นอยู่ในกลุ่มกว่า 100 บริษัท แต่มูลค่าเกินครึ่งของกลุ่มมาจาก GoTo Group ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจ platform เช่น GOJEK) กลุ่มสื่อสาร (มูลค่าเกินครึ่งของกลุ่มถูกครอบงำโดย Telkom ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้น 50%) และ กลุ่ม Consumer staples (หุ้นตัวใหญ่ในกลุ่มนี้ คือ CP Indonesia, Alfamart, Indofood และ Uniliver Indonesia)

ส่วน 2 ใน 5 กลุ่มที่เหลือเกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์เป็นสำคัญ ได้แก่ กลุ่ม Material (หุ้นในกลุ่มนี้ค่อนข้างกระจายตัว โดย Top 3 คือ Merdeka Copper Gold, Chandra Asri Petrochemical และ Barito Pacific ซึ่งเป็นผู้นำในการผลิตไฟฟ้าและปิโตรเคมี) และกลุ่มพลังงาน (มูลค่ามากกว่า 60%ของกลุ่มถูกครอบงำโดย Top 3 ได้แก่ Bayan Resources ผู้ผลิต Coal, United Tractors จำหน่ายเครื่องจักรหนัก ทำเหมือง Coal และทอง และ Adaro Energy ทำเหมือง Coal)

มูลค่าของตลาดหุ้นอินโดนีเซียเป็นอย่างไร? หุ้นกลุ่มไหนเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ?

โดยรวมเรามีมุมมองเป็น Slightly positive ต่อตลาดหุ้นอินโดนีเซีย มูลค่าตลาดหุ้นอินโดนีเซียยังมีความน่าสนใจ หากพิจารณาจาก Forward P/E ที่อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปี โดยแนวโน้มของ Earning ในตลาดหุ้นอินโดนีเซียยังเติบโตได้ดี โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้น Large และ Mid cap ล่าสุด MSCI-Indonesia มี valuation ในด้าน Forward P/E อยู่ในระดับ 14x  โดยอยู่ในระดับที่ค่อนข้างถูก (-1.4 sd) เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมา ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของกำไรในปี 2022-23 มีโอกาสเร่งตัวขึ้นอยู่ที่เฉลี่ย 12% ต่อปีเมื่อเทียบกับช่วงก่อน COVID-19   ซึ่งขยายตัวเพียง 7% ต่อปี

หากเปรียบเทียบกับ Regional peer อย่างตลาดหุ้นไทยและเวียดนาม ตลาดอินโดนีเซียยังมีความน่าสนใจในแง่ของความผันผวนที่ต่ำกว่า Peer และ Earning ที่เติบโตได้ดี แม้ว่าราคาหุ้นจะแพงกว่าเมื่อเทียบกับตลาดเวียดนาม ส่วนหนึ่งมาจากราคาที่ปรับลดลงมากของหุ้นเวียดนาม

หากพิจารณาในแง่ Market cap, Return, EPS และ P/E รวมถึงปัจจัยพื้นฐานที่สนับสนุนกลุ่ม Sector ต่างๆ จะพบว่า  กลุ่ม Sectors ที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1) กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มสุขภาพ และกลุ่ม Consumer discretionary ที่ได้รับปัจจัยบวกจากการเติบโตของการบริโภคของครัวเรือน โดยเฉพาะในกลุ่มชนชั้นกลาง และการขยายตัวของธุรกิจบริการ โดยเฉพาะกลุ่มเศรษฐกิจใหม่อย่างธุรกิจ Platform และ 2) กลุ่มพลังงานและกลุ่ม Material ที่ได้อานิสงส์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังอยู่ในระดับสูง แต่ในระยะสั้นผลบวก   เริ่มมีข้อจำกัดจากแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่กำลังเข้าสู่ระดับสูงสุด อย่างไรก็ตาม ในระยะกลาง การลงทุนในประเทศที่คาดว่าจะขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ EV น่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนในกลุ่ม Material

60

SHARES
Share on Facebook
Post on X
Follow us
  • LINEแชร์เลย!
Tags: SCB CIO ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ธนาคารไทยพาณิชย์ อินโดนีเซีย เศรษฐกิจอินโดนีเซีย ไทยพาณิชย์

Continue Reading

Previous: “บิ๊กตู่” ย้ำอย่าการ์ดตกหลังยอดติดโควิดพุ่งไม่หยุด
Next: มาตามสัญญา ชัชชาติ มอบอุปกรณ์กีฬาให้เด็กคลองเตย

ข่าวอื่นๆ ที่น่าอ่าน

IMG_0788 ดวงประจำวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2568 1 min read
  • ดวงประจำวัน
  • HOT NEWS

ดวงประจำวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2568

04/10/2025
ปตท.-บางจาก ลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 50 สตางค์ต่อลิตร ปตท.-บางจาก ลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 50 สตางค์ต่อลิตร 1 min read
  • ENERGY FORCE
  • HOT NEWS

ปตท.-บางจาก ลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 50 สตางค์ต่อลิตร

03/10/2025
ราคาทอง ราคาทองคำวันนี้ (3 ต.ค. 68) เปลี่ยนแปลงทั้งหมด 12 ครั้ง ราคาทองลง 200 1 min read
  • NEWS FOCUS
  • HOT NEWS

ราคาทองคำวันนี้ (3 ต.ค. 68) เปลี่ยนแปลงทั้งหมด 12 ครั้ง ราคาทองลง 200

03/10/2025
IMG_20250930211906000000 รู้ “โต้ง สิริพงศ์” จากยาม ในไทบ้านเดอะซีรี่ส์ สู่ โฆษกรัฐบาล 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • SPECIAL REPORT

รู้ “โต้ง สิริพงศ์” จากยาม ในไทบ้านเดอะซีรี่ส์ สู่ โฆษกรัฐบาล

03/10/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์ 1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

03/10/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 3 ต.ค. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 3 ต.ค. 68

03/10/2025
IMG_0788 ดวงประจำวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2568 1 min read
  • ดวงประจำวัน
  • HOT NEWS

ดวงประจำวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2568

03/10/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 3 ตุลาคม 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 3 ตุลาคม 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 3 ตุลาคม 2568

03/10/2025
ราคาทอง ราคาทองคำวันนี้ (2 ต.ค. 68) เปลี่ยนแปลงทั้งหมด 9 ครั้ง ราคาทองลง 150 1 min read
  • NEWS FOCUS
  • HOT NEWS

ราคาทองคำวันนี้ (2 ต.ค. 68) เปลี่ยนแปลงทั้งหมด 9 ครั้ง ราคาทองลง 150

02/10/2025
557122180_1110868124559530_689594484644641701_n อำลาแม่ทัพกุ้ง จัดพิธีรับ-ส่งหน้าที่ แม่ทัพภาคที่ 2 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

อำลาแม่ทัพกุ้ง จัดพิธีรับ-ส่งหน้าที่ แม่ทัพภาคที่ 2

02/10/2025
กรมศุลฯ แจ้งปรับเปลี่ยน FB ใหม่ กรมศุลฯ แจ้งปรับเปลี่ยน FB ใหม่ 1 min read
  • NATIONAL

กรมศุลฯ แจ้งปรับเปลี่ยน FB ใหม่

02/10/2025
รัฐบาลเร่งเป้า Net Zero เร็วขึ้น 15 ปี สะเทือนอุตสาหกรรมไทย รัฐบาลเร่งเป้า Net Zero เร็วขึ้น 15 ปี สะเทือนอุตสาหกรรมไทย 1 min read
  • SPECIAL REPORT
  • HOT NEWS

รัฐบาลเร่งเป้า Net Zero เร็วขึ้น 15 ปี สะเทือนอุตสาหกรรมไทย

02/10/2025

China News

แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน 1 min read
  • CHINA NEWS
  • HOT NEWS

แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน

14/05/2025
LINEแชร์เลย! สถาบันการเงินรายใหญ่ได้พากันปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของจีนในปีนี้ หลังจากจีนและสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 พ.ค.)... อ่านต่อ

Start Up

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต 457C5A49-7DCB-4EA0-ACF5-B856D1843534 1 min read
  • HOT NEWS
  • START UP

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต

01/09/2022
LINEแชร์เลย! “ขอบคุณ ธพว. ที่สนับสนุน “เสียงเกษมโซล่าเซลล์” พาเข้าถึงแหล่งเงินทุน เสริมสภาพคล่องกิจการ ควบคู่กับการให้คำปรึกษา แนะนำธุรกิจ... อ่านต่อ

Money Movement

กสิกรไทยแจ้งปิดบริการชั่วคราวคืนวันที่ 15 ต.ค.นี้ กสิกรไทยแจ้งปิดบริการชั่วคราวคืนวันที่ 15 ต.ค.นี้
1 min read
  • MONEY MOVEMENT

กสิกรไทยแจ้งปิดบริการชั่วคราวคืนวันที่ 15 ต.ค.นี้

03/10/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

03/10/2025
SCB จับมือ มจธ. เปิดตัว “Skill Shift Program” พัฒนากำลังคนดิจิทัลยุคใหม่ SCB จับมือ มจธ. เปิดตัว “Skill Shift Program” พัฒนากำลังคนดิจิทัลยุคใหม่
1 min read
  • MONEY MOVEMENT

SCB จับมือ มจธ. เปิดตัว “Skill Shift Program” พัฒนากำลังคนดิจิทัลยุคใหม่

02/10/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

02/10/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

01/10/2025
กสิกรไทยแจ้งปิดบริการชั่วคราวคืนวันที่ 15 ต.ค.นี้

กสิกรไทยแจ้งปิดบริการชั่วคราวคืนวันที่ 15 ต.ค.นี้

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

SCB จับมือ มจธ. เปิดตัว “Skill Shift Program” พัฒนากำลังคนดิจิทัลยุคใหม่

SCB จับมือ มจธ. เปิดตัว “Skill Shift Program” พัฒนากำลังคนดิจิทัลยุคใหม่

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

Energy Force

ปตท.-บางจาก ลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 50 สตางค์ต่อลิตร ปตท.-บางจาก ลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 50 สตางค์ต่อลิตร 1 min read
  • ENERGY FORCE
  • HOT NEWS

ปตท.-บางจาก ลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 50 สตางค์ต่อลิตร

03/10/2025
LINEแชร์เลย! ปตท.-บางจาก ลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด PTT Station ปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ทุกชนิด และพรีเมี่ยม GSH95... อ่านต่อ

Politics

IMG_20250930211906000000 รู้ “โต้ง สิริพงศ์” จากยาม ในไทบ้านเดอะซีรี่ส์ สู่ โฆษกรัฐบาล 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • SPECIAL REPORT

รู้ “โต้ง สิริพงศ์” จากยาม ในไทบ้านเดอะซีรี่ส์ สู่ โฆษกรัฐบาล

03/10/2025
557122180_1110868124559530_689594484644641701_n อำลาแม่ทัพกุ้ง จัดพิธีรับ-ส่งหน้าที่ แม่ทัพภาคที่ 2 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

อำลาแม่ทัพกุ้ง จัดพิธีรับ-ส่งหน้าที่ แม่ทัพภาคที่ 2

02/10/2025
552620823_1136346295263726_1479691675097993300_n จีนส่งอาวุธให้กัมพูชาเป็นข่าวเก่าตั้งแต่ต้นปี 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

จีนส่งอาวุธให้กัมพูชาเป็นข่าวเก่าตั้งแต่ต้นปี

02/10/2025

ประเด็นข่าว

EXIM BANK KBANK scb SME D Bank กรมชลประทาน กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กรุงไทย กสิกรไทย กอนช. ข่าวเด่น ข่าวดัง คปภ. ครม. ค่าเงินบาท ดวงประจำวัน ตลาดหุ้น ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ธอส. นายฉัตรชัย ศิริไล นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ บก.ชวนคุย บางจาก ปตท. ประเมินค่าเงินบาท พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาล ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน สถานการณ์น้ำ สรุปข่าวประจำวัน สรุปสถานการณ์น้ำ สิงคโปร์ อาจารย์มงคล รอดเที่ยงธรรม เศรษฐกิจไทย เศรษฐา ทวีสิน แพทองธาร ชินวัตร โควิด-19 ไทยพาณิชย์

Business Movement

ออมสิน เตรียมจัด “GSB SAVINGS FORUM 2025” ในวันออมแห่งชาติ ออมสิน เตรียมจัด “GSB SAVINGS FORUM 2025” ในวันออมแห่งชาติ 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

ออมสิน เตรียมจัด “GSB SAVINGS FORUM 2025” ในวันออมแห่งชาติ

02/10/2025
มาศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ มั่นใจหายใจได้อย่างปลอดภัย มาศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ มั่นใจหายใจได้อย่างปลอดภัย 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

มาศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ มั่นใจหายใจได้อย่างปลอดภัย

26/09/2025
ศุลกากรยึดบุหรี่เถื่อนละเมิดเครื่องหมายการค้า มูลค่า 215 ล้านบาท ศุลกากรยึดบุหรี่เถื่อนละเมิดเครื่องหมายการค้า มูลค่า 215 ล้านบาท 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

ศุลกากรยึดบุหรี่เถื่อนละเมิดเครื่องหมายการค้า มูลค่า 215 ล้านบาท

26/09/2025
สรรพากร–กรมการขนส่งทางบก ลงนาม MOU บูรณาการข้อมูลยกระดับภาษีและบริการ สรรพากร–กรมการขนส่งทางบก ลงนาม MOU บูรณาการข้อมูลยกระดับภาษีและบริการ 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

สรรพากร–กรมการขนส่งทางบก ลงนาม MOU บูรณาการข้อมูลยกระดับภาษีและบริการ

23/09/2025

Recommend

ลุ้นทองไทยแตะ 6 หมื่นบาท ลุ้นทองไทยแตะ 6 หมื่นบาท 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

ลุ้นทองไทยแตะ 6 หมื่นบาท

24/09/2025
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ

16/08/2025
"จุลพันธ์" มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง  “จุลพันธ์” มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง  1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

“จุลพันธ์” มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง 

13/08/2025
ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง

11/08/2025

Photo Stories

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK มอบนโยบายแก่พนักงาน กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK มอบนโยบายแก่พนักงาน 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK มอบนโยบายแก่พนักงาน

03/10/2025
ธ.ก.ส. คว้ารางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2568 ธ.ก.ส. คว้ารางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

ธ.ก.ส. คว้ารางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2568

02/10/2025
SME D Bank ร่วมแสดงความยินดีลูกค้ารับรางวัลสุดยอดผู้ประกอบการแห่งปี  SME D Bank ร่วมแสดงความยินดีลูกค้ารับรางวัลสุดยอดผู้ประกอบการแห่งปี  1 min read
  • PHOTO STORIES

SME D Bank ร่วมแสดงความยินดีลูกค้ารับรางวัลสุดยอดผู้ประกอบการแห่งปี 

01/10/2025
SME D Bank รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ‘THAI SME-GP AWARDS 2025’ SME D Bank รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ‘THAI SME-GP AWARDS 2025’ 1 min read
  • PHOTO STORIES

SME D Bank รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ‘THAI SME-GP AWARDS 2025’

30/09/2025
ไทยพาณิชย์ คว้ารางวัลธนาคารยอดเยี่ยมเพื่อการลงทุนต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน ไทยพาณิชย์ คว้ารางวัลธนาคารยอดเยี่ยมเพื่อการลงทุนต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไทยพาณิชย์ คว้ารางวัลธนาคารยอดเยี่ยมเพื่อการลงทุนต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน

30/09/2025
เมืองไทยประกันชีวิต ขึ้นทะเบียน CFO กับ อบก. ปีที่ 3 ต่อเนื่อง เมืองไทยประกันชีวิต ขึ้นทะเบียน CFO กับ อบก. ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 1 min read
  • PHOTO STORIES

เมืองไทยประกันชีวิต ขึ้นทะเบียน CFO กับ อบก. ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

29/09/2025
กลุ่มเอสซีบีเอกซ์ร่วมกับกองทัพอากาศส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาด กลุ่มเอสซีบีเอกซ์ร่วมกับกองทัพอากาศส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาด 1 min read
  • PHOTO STORIES

กลุ่มเอสซีบีเอกซ์ร่วมกับกองทัพอากาศส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาด

25/09/2025
BAM มอบทุนการศึกษาปีที่ 18 BAM มอบทุนการศึกษาปีที่ 18 1 min read
  • PHOTO STORIES

BAM มอบทุนการศึกษาปีที่ 18

24/09/2025
ซีทีทีโลจิสติกส์ บริจาครองเท้าแตะ 8,500 คู่และเสื้อผ้าใหม่ให้ชมรมสายสัมพันธ์ศุลกากร ซีทีทีโลจิสติกส์ บริจาครองเท้าแตะ 8,500 คู่และเสื้อผ้าใหม่ให้ชมรมสายสัมพันธ์ศุลกากร 1 min read
  • PHOTO STORIES

ซีทีทีโลจิสติกส์ บริจาครองเท้าแตะ 8,500 คู่และเสื้อผ้าใหม่ให้ชมรมสายสัมพันธ์ศุลกากร

24/09/2025
SCB WEALTH คว้า 2 รางวัลระดับสากลจาก Euromoney   SCB WEALTH คว้า 2 รางวัลระดับสากลจาก Euromoney   1 min read
  • PHOTO STORIES

SCB WEALTH คว้า 2 รางวัลระดับสากลจาก Euromoney  

24/09/2025
BAM ร่วมสมทบทุน 1 ล้านบาท ในงาน “Harmony of Rattanakosin” BAM ร่วมสมทบทุน 1 ล้านบาท ในงาน “Harmony of Rattanakosin” 1 min read
  • PHOTO STORIES

BAM ร่วมสมทบทุน 1 ล้านบาท ในงาน “Harmony of Rattanakosin”

23/09/2025
ธ.ก.ส. มอบข้าวพร้อมทานตรา “อุ่นอิ่ม” จำนวน 12,000 ถ้วย ให้แก่กองทัพบก ธ.ก.ส. มอบข้าวพร้อมทานตรา “อุ่นอิ่ม” จำนวน 12,000 ถ้วย ให้แก่กองทัพบก 1 min read
  • PHOTO STORIES

ธ.ก.ส. มอบข้าวพร้อมทานตรา “อุ่นอิ่ม” จำนวน 12,000 ถ้วย ให้แก่กองทัพบก

23/09/2025
ออมสิน มอบเงิน 4.87 ล้านบาทช่วยเหลือเยียวยาทหารหาญ ออมสิน มอบเงิน 4.87 ล้านบาท ช่วยเหลือเยียวยาทหารหาญ 1 min read
  • PHOTO STORIES

ออมสิน มอบเงิน 4.87 ล้านบาท ช่วยเหลือเยียวยาทหารหาญ

23/09/2025
ศุลกากร จับมือ รฟท. พัฒนาระบบโลจิสติกส์สู่มาตรฐานสากล ศุลกากร จับมือ รฟท. พัฒนาระบบโลจิสติกส์สู่มาตรฐานสากล 1 min read
  • PHOTO STORIES

ศุลกากร จับมือ รฟท. พัฒนาระบบโลจิสติกส์สู่มาตรฐานสากล

22/09/2025
EXIM BANK คว้ารางวัล “องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนระดับดีเด่นประจำปี 2568”  EXIM BANK คว้ารางวัล “องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนระดับดีเด่นประจำปี 2568”  1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK คว้ารางวัล “องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนระดับดีเด่นประจำปี 2568” 

22/09/2025

บก.ชวนคุย

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 1 min read
  • HOT NEWS
  • EDITOR TALK

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568

25/02/2025
LINEแชร์เลย! บก.ชวนคุย เรื่องที่ 4,391 แอพเงินกู้แหล่งทุนยุคเศรษฐกิจดิจิทัล  ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และความท้าทายทางการงาน การเงิน คนไทยมากกว่า... อ่านต่อ

ติดต่อเรา

สนใจร่วมงานกับเรา Aec10news.com คลิ๊กติดต่อเรา รับซื้อ..รายงาน สกู๊ป บทความ รายได้สูง !!!

  • Facebook
  • Twitter
สงวนลิขสิทธิ์ © 2560 เว็บไซต์ AEC10NEWS.COM