หอฯไทยจีนจี้รัฐเปิดกว้างดึงต่างชาติเที่ยวไทยฟื้นเศรษฐกิจ
หอการค้าไทยจีนจ่อชงความเห็นนักธุรกิจถึงสบค. แนะรัฐบาลเปิดกว้างรับ “พาสปอร์ตวัคซีน” หนุนท่องเที่ยวไทย เชื่อ! มีนักเที่ยวต่างชาติเข้าไทยปีนี้ 8 ล้านคน ชี้! หากไม่กักตัว 14 วัน อาจพุ่งสูงได้อีก มั่นใจสัมพันธ์ไทย-จีน! ระดับดีมาก หนุนการค้าระหว่างกันพุ่ง คาดจีดีพีไทยปีนี้โต 2.5% เผย! “ธุรกิจออนไลน์ – สินค้าเกษตร – โลจิสติกส์ – บริการสุขภาพ – เกษตรแปรรูป” คือ ดาวเด่น! ส่วนที่กังวงใจ คือ “โควิดฯ – การเมือง – หนี้ประเทศ – ประสิทธิภาพวัคซีน”
หอการค้าไทยจีนร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นมั่นของนักธุรกิจไทยและชาวจีนโพ้นทะเลในไทยในไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคณะกรรมการและสมาชิกเครือข่ายสมาพันธ์หอการค้าไทย-จีน และสมาคมธุรกิจต่างๆ กว่า 60 สมาคม รวมถึงกลุ่มธุรกิจรุ่นใหม่รวม 409 คน ระหว่างวันที่ 18-26 กุมภาพันธ์ 2564 ผ่านการประมวลผลข้อมูล Google Survey From
โดยแบบสอบถามประกอบด้วย 4 ส่วน คือ 1) ความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจไทย-จีน 2) ตัวชี้วัดภาวะเศรษฐกิจไทย 3) ตัวชี้วัดปัจจัยเกื้อหนุน และ 4) ประเด็นเฉพาะกิจ หรือเหตุการณ์
นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ปธ.กก. หอการค้าไทย-จีน ระบุว่า การสำรวจฯจะยึดโยงนโยบายและเศรษฐกิจของจีน ที่สัมพันธ์กับเศรษฐกิจไทย ทั้งผลสำรวจชี้ว่า ความเห็น 60.4% มั่นใจต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของจีนในไตรมาสที่ 2 /2564 ที่จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แม้จะประสบปัญหาจากการระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563
กระนั้น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้คาดการณ์เศรษฐกิจจีนในปีนี้ว่าจะโตมากกว่า 8.1% ขณะที่รัฐบาลจีนประเมินว่าจีดีพีจีนจะโตมากกว่า 6% ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ 54.3% มองว่าการส่งออกจากไทยไปจีนจะเพิ่มขึ้น และ 51.3% การนำเข้าของไทยจากจีนเริ่มเห็นทิศทางการฟื้นตัวเช่นกัน
ขณะที่การลงทุนของจีนในไทย ผลสำรวจ 81% เชื่อว่าจะไม่ลดลง สอดรับจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งทั้งจีนและไทยต่างฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ให้กับคนของตัวเอง โดยหากรัฐบาลไทยผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มให้กับคนที่ได้รับวัคซีนฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “พาสปอร์ต วัคซีนฯ” และการเลิกกักตัวนักท่องเที่ยว 14 วัน เชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ ได้มากกว่า 8 ล้านคนที่คาดการณ์กันไว้
“สมาชิกฯประเมินร่วมกันว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน โดยจะเริ่มเข้ามาในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ และหากทางการไทยผ่อนปรนทั้งในเรื่องการกักตัวและพาสปอร์ตวัคซีน เชื่อว่าทั้งนักท่องเที่ยวจีนและจากชาติอื่นๆ จะกลับมาเที่ยวในไทยมากกว่า 8 ล้านคนอย่างแน่นอน” ปธ.กก. หอการค้าไทย-จีน ย้ำและว่า
จากนี้ หอการค้าไทยจีนจะทำหนังสือถึงรัฐบาล ผ่านทางศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิดฯ (สบค.) ในเร็วๆ นี้ เพื่อนำเสนอข้อคิดเห็นของภาคเอกชนเกี่ยวกับการเปิดกว้างรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากรายได้จากการท่องเที่ยวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่ารอบนี้ ค่าใช้จ่ายต่อคนจะสูงตามคุณภาพของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พร้อมจ่ายเงิน
สอดรับกับความเห็นของ รศ. ดร.ชโยดม สรรพศรี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะที่ปรึกษาโครงการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยจีน ที่ระบุว่า รัฐบาลต้องทำเรื่องนี้ให้เร็ว เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ระหว่างการตัดสินใจในการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศที่เปิดกว้าง และมีมาตรการความปลอดภัยจากไวรัสโควิดฯระดับสูง
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ประกอบการท่องเที่ยว จะต้องวางแผนให้รอบคอบในการจัดกิจกรรมรองรับนักท่องเที่ยว เพราะแหล่งท่องเที่ยวแต่ละแห่งจะอยู่ในความสนใจของนักท่องเที่ยวที่ไม่เหมือน เช่น นักท่องเที่ยวบางชาติชอบบรรยากาศของเชียงใหม่ บางชาติชอบธรรมชาติที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ฯลฯ
สำหรับผลสำรวจฯด้านอื่นๆ พบว่า ธุรกิจรายสาขา ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ได้แก่ ธุรกิจออนไลน์, ธุรกิจพืชผลการเกษตร, ธุรกิจโลจิสติกส์, ธุรกิจบริการสุขภาพ และธุรกิจเกษตรแปรรูป ส่วน ประเด็นความกังวลต่อเศรษฐกิจไทยได้แก่ การระบาดอย่างต่อเนื่องของโรคระบาดใหม่โควิด-19 ที่ต่อเนื่อง ไปจนถึงปี 2565, ปัญหาที่เกิดจากเสถียรภาพทางการเมืองโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะตกต่ำต่อเนื่อง, หนี้ภาครัฐและหนี้ภาคครัวเรือน และประสิทธิภาพของวัคซีน
นอกจากนี้ ผลการสำรวจดัชนีเชื่อมั่นในไตรมาส 1 และ 2 ยังเห็นแนวโน้มการขยายตัวทางการค้าไทยและจีนอย่างต่อเนื่องซึ่งสอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน โดยเดือนมกราคม 2564 การค้าไทย-จีนมีมูลค่า 7,579 ล้านเหรียญสหรัฐขยายตัว 6.11% ซึ่งไทยส่งออกไปจีนมีมูลค่า 2,314 ล้านเหรียญสหรัฐ.