ธนารักษ์ “จัดประมูลทรัพย์ยึด – เร่งสร้างคอนโดฯขรก.” ทั่วไทย
กรมธนารักษ์ประกาศเปิดประมูล “ทรัพย์ยึด” จาก ปปง.และ ป.ป.ช. ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 156 รายการ ช่วง มี.ค.นี้ พร้อมเดินหน้าสร้าง “คอนโดฯขรก.” ในพื้นที่กรุงเทพฯ และ11 จ.ทั่วไทย หวังสร้างความมั่นคงทางด้านที่อยู่อาศัยให้ “ขรก.14 ประเภท – ขรก.บำนาญ” เผย! ขายต่ำสุด! “1 ล.ทอน 1 บ.”
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า หลังจากกรมธนารักษ์ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาระบบประมูลขายทรัพย์สินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ กับธนาคารกรุงไทย ซึ่งกรมธนารักษ์ได้รับมอบทรัพย์สินมาจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีทั้งที่ดินเปล่า ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง สิ่งปลูกสร้างบนที่ดินอื่น ห้องชุด และอาคารชุด โดยเป็นหน่วยงานแรกที่มีการพัฒนาระบบประมูลขายทรัพย์สินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบ Real Time
ทั้งนี้ ระบบประมูลขายทรัพย์สินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์จะทำให้ประมูลขายทรัพย์สินเป็นไปตามหลักของการแข่งขันโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเพื่อให้การบริการจัดการทรัพย์สินที่ได้มาจากการยึดทรัพย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อรัฐ คาดว่าในรอบแรกจะเปิดประมูลที่ราชพัสดุในช่วงเดือนมีนาคม 2564 เป็นเวลา 7 วัน จำนวน 156 รายการ ให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง ได้ที่ https://auction.treasury.go.th
โดยลงทะเบียนสมัครสมาชิกเพื่อเข้าดูรายการทรัพย์สินและวางเงินประกันการประมูลเริ่มต้นที่ 25,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท ได้ในช่วง 10 วันก่อนเปิดประมูล โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมธนารักษ์ที่ www.treasury.go.th และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center : 0-2059-4999
ด้านการนำที่ราชพัสดุมาดำเนินการจัดสวัสดิการในลักษณะอาคารพักอาศัยรวม (คอนโด) เพื่อให้ข้าราชการได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง พร้อมขยายสิทธิการจองเข้าร่วมโครงการสวัสดิการที่พักอาศัยของข้าราชการในที่ราชพัสดุ ให้กับข้าราชการ 14 ประเภทและข้าราชการบำนาญนั้น นายยุทธนา ย้ำว่า ในปี 2564 กรมธนารักษ์เตรียมเปิดให้จองสิทธิเข้าร่วมโครงการสวัสดิการที่พักอาศัยของข้าราชการในที่ราชพัสดุ จำนวน 12 แปลง ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร 1 แปลง ลักษณะเป็นอาคารพักอาศัยรวม สูง 28 ชั้น จำนวน 650 ห้อง ขนาดพื้นที่ห้องพัก ประมาณ 34 ตารางเมตรต่อห้อง กำหนดราคา 3 ระดับราคาตามความสูงของอาคาร ดังนี้
ชั้น 4-6 (3 ชั้น) จำนวน 78 ห้อง ขายราคาห้องละ 999,999 บาท
ชั้น 7-15 (9 ชั้น) จำนวน 234 ห้อง ขายราคาห้องละ 1,250,000 บาท
ชั้น 16-28 (13 ชั้น) จำนวน 338 ห้อง ขายราคาห้องละ 1,499,999 บาท
ส่วนในต่างจังหวัด จำนวน 11 แปลง ในพื้นที่เชียงราย นครนายก อุบลราชธานี อุดรธานี สุราษฎร์ธานี ยะลา ปัตตานี ประจวบคีรีขันธ์ นนทบุรี นครราชสีมา และจันทบุรี โดยพัฒนาเป็นอาคารพักอาศัยรวม สูง 7 ชั้น จำนวน 76 ห้อง ขนาดพื้นที่ห้องพัก ประมาณ 40 ตารางเมตรต่อห้อง ราคาห้องละ 999,999 บาท
อธิบดีกรมธนารักษ์ ยังกล่าวอีกว่า ข้าราชการที่มีสิทธิ์และสนใจสามารถจองสิทธิเข้าร่วมโครงการฯได้ รวมทั้งสามารถจองข้ามเขตสถานที่ทำงานหรือภูมิลำเนาได้ อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณาคัดเลือกจะพิจารณาผู้ที่มีสถานที่ทำงานหรือมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่โครงการฯ ก่อน และลำดับถัดไปจะพิจารณาคัดเลือกผู้ที่ไม่มีสถานที่ทำงานหรือมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่โครงการฯ โดยผู้จองสามารถเลือกจองได้เพียง 1 ห้อง เท่านั้น และต้องไม่เป็นผู้ที่ได้รับสิทธิในโครงการบูรณาการสวัสดิการที่พักอาศัยกับสถานที่ทำงานและศูนย์บริการของข้าราชการพลเรือนสามัญ
“สำหรับสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับในโครงการฯ นี้ เช่น ได้รับกรรมสิทธิ์ห้องพักอาศัย ได้รับสิทธิการเช่าที่ดินราชพัสดุที่เป็นที่ตั้งโครงการฯ เป็นระยะเวลา 30 ปี กรมธนารักษ์ผ่อนปรับอัตราค่าเช่าร้อยละ 25 จากอัตราปกติที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุ และยกเว้นค่าธรรมเนียมการต่ออายุสัญญาเช่า สามารถนำสิทธิการเข้าร่วมโครงการไปเบิกตามสิทธิที่จะเบิกได้ตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการนำสิทธิการเช่าไปผูกพันในการกู้เงินกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ตามระเบียบ” อธิบดีกรมธนารักษ์ ระบุ.