KBANK นายบัณฑูร ล่ำซำ เชื่อมั่นคนรุ่นใหม่จะสานต่อได้อย่างมั่นคง
“ส่งต่อได้อย่างดี “ผมทำงานธนาคารมา 40 ปีจบฉากเดิมอย่างสบายใจและเชื่อมั่นเต็ม 100% ว่าคนรุ่นใหม่จะสานต่อได้อย่างมั่นคง
ตามที่นายบัณฑูร ล่ำซำ ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการและประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 นั้น ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 ได้พิจารณาแล้วมีมติเอกฉันท์ในการประกาศยกย่อง โดยมอบฉายา “ประธานกิตติคุณ (Chairman Emeritus)” ให้แก่นายบัณฑูร ล่ำซำ ซึ่งฉายานี้จะไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการของธนาคาร แต่เป็นการยกย่องให้เกียรติ นายบัณฑูร ล่ำซำ ที่ได้ร่วมงานกับธนาคารกสิกรไทยเป็นเวลา 40 ปี
คุณบัณฑูรพูดถึงพายุในสังคมทั้งพายุเศรษฐกิจพายุโรคระบาดว่าเราควรเตรียมตัวรับมือยังไง
จากวิกฤตในครั้งนี้ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้วเกิดวิกฤติเศรษฐกิจทุกคนช่วยกันแก้ปัญหาจึงผ่านพ้น แต่ในเศรษฐกิจครั้งนี้ระบบธนาคารพาณิชย์มีทุนจากระบบในกลไกสำรองจึงทำให้สามารถพยุงธนาคารให้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ได้ แต่ถ้าพายุโรคระบาดยังไม่หมดไปอาจลำบากในระบบธนาคารแต่สุดท้ายจะเชื่อว่าธนาคารจะรับมือได้แต่ที่สำคัญรัฐบาลจะต้องประคองให้วิกฤติเศรษฐกิจ รอบนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยการออกมาตรการช่วยเหลือที่จะช่วยให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้
ในด้านการแข่งขันในตลาดโลกหลังจากหมดโควิด-19 จะทำยังไงเพราะเศรษฐกิจทดถอยเรื่องนี้คุณบัณฑูร มองว่าเงินสำรองของรัฐเพียงพอหรือไม่ที่จะพลักดันนโยบายต่างๆให้สำเร็จลุล่วง ส่วนธนาคารพาณิชย์มีกลไกที่จะขับเคลื่อนเพื่อต่อสู้กับตลาดโลกได้อยู่แล้วแต่จะช้าหน่อยถ้าเศรษฐกิจในประเทศถดถอย
คุณบัณฑูรได้ตอบข้อสงสัยเรื่องการลงจากตำแหน่ง กรรมการและประธานกรรมการธนาคารกสิกรไทยว่า การลงจากตำแหน่งในครั้งนี้เป็นการลงจากตำแหน่งตอนวิกฤตเป็นเรื่องที่ดีเพราะว่าจะพิสูจน์ฝ่ายบริหารที่เข้ามาบริหารหากฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ได้ครั้งอื่นๆก็ไม่ใช่ปัญหาในการดำเนินการของธนาคารต่อไป และ เหตุผลที่เลือกคุณกอบกาญจน์และคุณขัตติยา เข้ามาบริหารเพราะเชื่อมั่นว่าเป็นคนมีคุณธรรมจริยธรรมและทำงานกันมานานโดยส่วนตัวเชื่อมั่นว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับธนาคารกสิกรไทย.