ออมสินอัดแสน ล.หนุนสินเชื่อประชารัฐ
ธนาคารออมสิน จัดแพคเกจชุดใหญ่ “สินเชื่อประชารัฐสร้างไทย” ด้วย สินเชื่อ SMEs ประชารัฐ ภายใต้เงื่อนไขพิเศษ ดอกเบี้ยต่ำ ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อ 4 ปี รวม 7% และ สินเชื่อเคหะประชารัฐสร้างไทย ดอกเบี้ย 2.9% คงที่ 3 ปี พร้อมผ่อนปรนภาระหนี้ให้กองทุนหมู่บ้าน เริ่มกันยายน 2562 นี้
ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผอ.ธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารฯได้ดำเนินการภายใต้นโยบาย “ประชารัฐสร้างไทย” เพื่อกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ ด้วยการจัดสรรวงเงินสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนพิเศษ และดอกเบี้ยต่ำรวมกว่า 1 แสนล้านบาท ประกอบด้วย สินเชื่อเคหะประชารัฐสร้างไทย สินเชื่อ SMEs ประชารัฐ และโครงการผ่อนปรนภาระหนี้กองทุนหมู่บ้าน เพื่อให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ จนถึงระดับท้องถิ่น โดยเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่เดือน ก.ย.62 เป็นต้นไป อันเป็นการสอดรับนโยบายรัฐบาลในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
สำหรับ สินเชื่อเคหะประชารัฐสร้างไทย คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3 ปีแรก 2.9% ต่อปี ปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR-0.5% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย MRR ของธนาคารฯ ปัจจุบัน = 6.87% ต่อปี) โดยผู้ที่ต้องการซื้อบ้านพร้อมที่ดิน ธนาคารฯ ให้กู้ 95% ของราคาประเมิน คอนโดมีเนียม ให้กู้ 90% ของราคาประเมิน และปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ให้กู้ได้ 100% ของราคาประเมินตัวบ้าน เพียงผู้กู้อายุ 20 ปีขึ้นไป มีอาชีพ มีรายได้แน่นอน ภายใต้เงื่อนไขพิเศษคือ สามารถผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 40 ปี โดยผู้กู้สามารถผ่อนชำระได้จนถึงอายุ 70 ปี โดยธนาคารฯ ได้เตรียมวงเงินสินเชื่อประเภทนี้ไว้ 2.5 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ สินเชื่อ SMEs ประชารัฐ มี 3 รูปแบบ วงเงินสินเชื่อ 50,000 ล้านบาท ได้แก่ สินเชื่อ GSB เพื่อ SMEs คล่องตัว, สินเชื่อ GSB เพื่อ SMEs ยั่งยืน และ สินเชื่อ GSB บัญชีเดียว โดยผู้กู้เป็นผู้ประกอบการในกลุ่ม Startup ผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรม ผู้ประกอบการ SMEs หรือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่ โดย สินเชื่อ GSB เพื่อ SMEs คล่องตัว นำไปเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ และ สินเชื่อ GSB เพื่อ SMEs ยั่งยืน เหมาะสำหรับลงทุนในทรัพย์สินถาวร ซึ่งทั้ง 2 ประเภทนี้ วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท ส่วน สินเชื่อ GSB บัญชีเดียว เหมาะสำหรับนำไปเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ และ ลงทุนในทรัพย์สินถาวร วงเงินกู้สูงสุด 100 ล้านบาท
โดยเงินกู้ทั้ง 3 ประเภทนี้ คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากันคือ เงินกู้ระยะสั้น 2 ปีแรก อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี ปีที่ 3-4 = 6% ต่อปี ปีที่ 5 เป็นต้นไป คิด MLR/MOR ถึง MLR/MOR + 1% ขณะที่ เงินกู้ระยะยาว 2 ปีแรก อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี ปีที่ 3-4 = 6% ต่อปี และ ปีที่ 5-7 เท่ากับ MLR/MOR ถึง MLR/MOR + 1% ทั้งนี้ สามารถเลือกใช้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นผู้ค้ำประกันได้ โดยที่ บสย.ยกเว้นค่าธรรมเนียมค้ำประกันปีละ 1.75% เป็นเวลา 2 ปี และธนาคารออมสินช่วยแบ่งเบาภาระค่าธรรมเนียมให้อีก 2 ปี รวมยกเว้นค่าธรรมเนียม 4 ปี รวมแล้ว 7% ซึ่งจะเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นเอสเอ็มอีแบบไหน สินเชื่อทั้ง 3 รูปแบบนี้ ครอบคลุมผู้ประกอบการ SMEs ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นทำธุรกิจจนถึงทำธุรกิจขนาดใหญ่
ขณะเดียวกัน การกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น ธนาคารฯ ได้ออกมาตรการผ่อนปรนการชำระเงินกู้กองทุนหมู่บ้าน เพื่อหวังให้กองทุนหมู่บ้านได้ลดภาระในการชำระหนี้ เป็นการเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินงานเพื่อให้มีเงินทุนหมุนเวียนให้สมาชิกกู้ยืมเพิ่มเติมได้ รวมถึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเงินกู้ยืมของสมาชิกรายอื่นๆ ที่ยังได้กู้ยืมเงินจากกองทุนหมู่บ้าน ด้วยมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นเป็นระยะเวลา 1 ปี ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ย พร้อมกับขยายระยะเวลาชำระหนี้อีก 1 ปี โดยสามารถยื่นความจำนงได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2562 และจัดทำนิติกรรมสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 มีวงเงินโครงการ 29,500 ล้านบาท มีกองทุนอยู่ในข่ายที่สามารถเข้าร่วมได้ 32,387 กองทุน
“ธนาคารออมสิน เชื่อมั่นว่ามาตรการข้างต้นจะเป็นกลไกสำคัญที่จะเร่งให้ฟันเฟืองในระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับท้องถิ่น อุตสาหกรรมเอสเอ็มอี และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนเศรษฐกิจทั้งระบบ เกิดการขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็วในทิศทางเดียวกัน สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายประชารัฐสร้างไทยได้ในที่สุด” ดร.ชาติชาย ย้ำ.