SCB 10XจับมือTraveloka ตั้งบริษัท”TREX Ventures”
SCB 10X ร่วมทุนกับ Traveloka แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ รายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อให้บริการทางการเงินในรูปแบบดิจิทัลในประเทศไทย
นางปิติพร พนาภัทร์ Chief Business Development and Financial Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด เปิดเผยว่า “SCB 10X เข้าใจและเชื่อมั่นว่า ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการเป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ว่าก่อนหรือหลังจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 SCB 10X จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมทุนกับทราเวลโลก้า ซึ่งเป็น Unicorn ระดับสากล และเป็นผู้นำในการให้บริการแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ ซึ่งมีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มประมาณ 40 ล้านคนในภูมิภาค SCB 10X หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบ ecosystem เพื่อรองรับนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในรูปแบบดิจิทัลเพื่อพัฒนาการทำงานและไลฟ์สไลต์ในอนาคต”
“SCB 10X และทราเวลโลก้า ได้ผนึกกำลังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจและร่วมกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ภายใต้ชื่อเทร็กซ์ เวนเจอร์ส “TREX Ventures” เพื่อนำเอาความสามารถอันแข็งแกร่งของทั้งสองบริษัทมาร่วมกันพัฒนานวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ ของกลุ่มนักท่องเที่ยวยุคใหม่และกลุ่มลูกค้าผลิตภัณฑ์และบริการด้านไลฟ์สไตล์ในประเทศไทย
โดยการร่วมทุนครั้งนี้ ทราเวลโลก้าจะใช้ความสามารถในการประมวลผลและวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งานที่ได้รับจาก multi-touchpoint engagement platform และ robust data analytics platform ในขณะที่ SCB 10X มีเป้าประสงค์ในการเพิ่มขีดความสามารถและพัฒนาเทคโนโลยีโดยอาศัยฐานลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 16 ล้านคนในประเทศ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการทางการเงินแก่ผู้บริโภคในตลาดประเทศไทย” นางปิติพร กล่าวเสริม
มร.ซีซาร์ อินทรา ประธาน ทราเวลโลก้า กรุ๊ปกล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ SCB 10X เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งแรก พร้อมไปกับการเติบโตของธุรกิจฟินเทค (Fintech) โดย SCB 10X และธนาคารไทยพาณิชย์เป็นสถาบันการเงินชั้นนำที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการให้บริการทางการเงิน มีชื่อเสียงทั่วประเทศและมีฐานลูกค้าจำนวนมาก รวมทั้งยังมีเป้าหมายในการพัฒนาขีดความสามารถในการพัฒนาและสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทย ทราเวลโลก้า มีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในครั้งนี้จะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบริการทางการเงินตามความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทย”
ทราเวลโลก้า เชื่อมั่นว่า เราจะมีโอกาสพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อผู้บริโภคในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน แม้ว่าตามสถิติแล้ว ในประเทศไทยจะมีผู้ถือบัตรเครดิตเพียงร้อยละ 30 แต่เราเห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทยเช่นเดียวกับที่เรามองเห็นความต้องการและโอกาสต่างๆ เหล่านี้ในประเทศอินโดนีเซีย ทราเวลโลก้าจะนำความสามารถอันแข็งแกร่งของเราในการวิเคราะห์และประมวลผลการติดตามพฤติกรรมของผู้บริโภคมาใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านการเงินสำหรับลูกค้าแต่ละรายเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการให้บริการทางการเงิน เพื่อจะได้มีโอกาสสัมผัสกับประการณ์และการท่องเที่ยว
ทราเวลโลก้า เริ่มเข้ามามีบทบาทในการให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้าหลังจากที่เราได้วิเคราะห์และเห็นความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพักผ่อน เราจึงได้พัฒนาบริการเพื่อตอบโจทย์ของผู้บริโภคในเวลาต่อมา ในปี 2018 ทราเวลโลก้า เริ่มให้บริการ “Buy Now Pay Later (BNPL)” ในประเทศอินโดนีเซีย และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพิ่มเติมอีกในภายหลัง รวมทั้ง Paylater Credit Card เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานเพื่อให้ผู้ใช้งานมีโอกาสท่องเที่ยวและเข้าถึงบริการด้านไลฟ์สไตล์อื่นๆ ทราเวลโลก้า หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ได้ง่ายยิ่งขึ้นผ่านการให้บริการทางการเงินของเรา” มร.ซีซาร์ กล่าวสรุป