น้ำมันดิบ ดิ่ง ต่อเนื่องกว่า 3 ดอลลาร์
น้ำมันดิบ WTI ปิดตลาด ลดลง 3.06 ดอลลาร์ ต่ำสุดในรอบ 17 เดือน เช่นเดียวกับ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 3.35 ดอลลาร์ เหตุนักลงทุนกังวลน้ำมันดิบล้นตลาด
รายงานจาก บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 43 – 48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 51 – 56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบคาดว่าจะปรับตัวลดลง จากความกังวลของนักลงทุนต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดและอัตราการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันดิบโลกที่มีแนวโน้มลดลง
จากการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก ประกอบกับ ปริมาณน้ำมันดิบโลกมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังกำลังการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตรายใหญ่ในเดือน ธ.ค. อยู่ในระดับสูง และแหล่งผลิตน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดของลิเบียคาดจะกลับมาดำเนินการเร็วๆ นี้
ขณะที่ สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมา ( 24 ธ.ค.61 ) ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 3.06 ดอลลาร์ หรือ 6.7% ปิดที่ 42.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. 2560 เช่นเดียวกับ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 3.35 ดอลลาร์ หรือ 6.2% ปิดที่ 50.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด โดยเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 10 แท่น สู่ระดับ 883 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันมากที่สุด นับตั้งแต่สัปดาห์ต้นเดือนพ.ย.
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า สหรัฐมีการผลิตน้ำมัน 11.7 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้สหรัฐเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยแซงหน้ารัสเซีย ซึ่งมีการผลิตน้ำมัน 11.42 ล้านบาร์เรล/วัน และเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของรัสเซีย
ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.61 สมาชิก 15 ชาติของกลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 800,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกจะปรับลดกำลังการผลิต 400,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งจะทำให้มีการปรับลดกำลังการผลิตรวม 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค.ปีหน้า