จีนส่งออกโตสูงสุดในรอบ 19 เดือน
ตัวเลขการส่งออกของจีนในเดือนต.ค.เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนพุ่งขึ้นไปสูงสุดในรอบ 19 เดือน ขณะที่การนำเข้าชี้ให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งเช่นกัน จากข้อมูลของทางการจีนเมื่อวันที่ 7 พ.ย. โดยประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19
การส่งออกในเดือนต.ค.เติบโตเพิ่มขึ้น 11.4% จากปีที่แล้ว สูงเกินกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่าจะเติบโต 9.3% และ นับว่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากที่เคยเติบโต 9.9% ในเดือนก.ย.
การส่งออกที่พุ่งทะยานขึ้นทำให้จีนเกินดุลการค้าในเดือนต.ค.ถึง 58,440 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.78 ล้านล้านบาท สูงกว่าการคาดการณ์ของโพลที่ชี้ว่า จีนจะเกินดุลการค้า 46,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และสูงกว่าเดือนก.ย.ที่เกินดุลการค้าอยู่ที่ 37,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
จีนได้ดุลการค้าสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 31,370 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 960,141 ล้านบาทในเดือนต.ค. จากเดิม 30,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนก.ย.
ช่วงที่ผ่านมา การส่งออกของจีนฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากมีดีมานด์ที่แข็งแกร่งในด้านเวชภัณฑ์ แต่ลดศักยภาพการผลิตในประเทศอื่นๆที่มีจีนเป็นลูกค้า
“ ตัวเลขส่งออกยิ่งเติบโตเร็วขึ้น และสูงเกินคาดการณ์ ชี้ให้เห็นถึงโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง” หลิวซูจี นักวิเคราะห์จากธนาคารเพื่อการสื่อสารในเซี่ยงไฮ้ระบุ
ยอดส่งออกของจีนอาจแข็งแกร่งไปจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากบริษัทในประเทศกลับมาผลิตได้เร็วกว่าคู่แข่งทั่วโลก และขายสินค้าที่เิกี่ยวกับโควิด-19 ได้มากขึ้น เช่น หน้ากากอนามัย
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ระบุว่า การค้าของจีนอาจจะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากประเทศมหาอำนาจในยุโรป ทั้งฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร ได้กลับเข้าสู่ภาวะล็อกดาวน์อีกครั้งจากการแพร่ระบาดระลอกสองของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก
กิจกรรมทางโรงงานเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในรอบเกือบทศวรรษในเดือนต.ค. จากผลสำรวจของภาคเอกชน แม้ผลสำรวจของทางการชี้ว่า มีการชะลอตัวลงบางส่วนในการขยายตัว ขณะที่คำสั่งซื้อของการส่งออกขยายตัวเติบโต
เศรษฐกิจจีนเติบโต 4.9% ในไตรมาส 3 จากปีก่อน แต่การเติบโตอาจชะลอตัวลงมาอยู่ที่สูงกว่า 2% ในปีนี้ อ่อนแรงลงที่สุดในรอบกว่า 3 ทศวรรษ แต่ยังแข็งแกร่งกว่าประเทศมหาอำนาจอื่นๆ
“จีนมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นจากการระบาด และมีความได้เปรียบเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น” โจ หาว นักเศรษฐศาสตร์ที่ Commerzbank ในสิงคโปร์ให้ความเห็น “ แน่นอนว่าความได้เปรียบนี้เป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว และอาจอยู่จนถึงสิ้นปีนี้เท่านั้น”