ศก.จีนซบเซา หนุนแนวโน้มดีลการค้าสหรัฐฯ
ฮ่องกง (CNN) – เศรษฐกิจจีนชะลอตัวมากขึ้น ทำให้จีนต้องเร่งปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐฯ และออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น
โดยเมื่อวันที่ 16 ก.ย. จีนเปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าผลผลิตอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจจีน เติบโตเพียง 4.4% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แย่กว่าตัวเลข 4.8% ในเดือนก.ค. นับเป็นการเติบโตต่ำสุดในรอบ 17 ปี
ผลผลิตอุตสาหกรรมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นมาตรวัดผลผลิตของธุรกิจสำคัญในภาคการผลิต เหมืองแร่ และสาธารณูปโภคของจีน โดยตัวเลขล่าสุดแย่กว่าตัวเลขการเติบโต 5.2% ที่นักวิเคราะห์ในโพลของรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
โดยข้อมูลอื่นๆ ที่ทางสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ก็ย่ำแย่เช่นกัน โดยการค้าปลีกเติบโตชะลอตัวอยู่ที่ 7.5% ในเดือนส.ค. ลดลงจาก 7.6% ในเดือนก.ค.
เศรษฐกิจของจีนต้องดิ้นรนจากผลกระทบของสงครามการค้ากับสหรัฐฯ นอกจากนี้ จีนยังเผชิญกับความท้าทายในประเทศเนื่องจากจีนพยายามจะพึ่งพาการก่อหนี้เพื่อหนุนการเติบโตให้น้อยลง
มีการเผยแพร่ข้อมูลใหม่ในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ทางการค้าที่ตึงเครียดกับสหรัฐฯมีท่าทีจะพัฒนาขึ้น อย่างน้อยก็นิดหน่อย โดยจีนประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะยกเว้นภาษีให้กับถั่วเหลืองและเนื้อหมูที่นำเข้าจากสหรัฐฯ เป็นท่าทีล่าสุดจากทั้งสองประเทศที่พยายามลดระดับความตึงเครียดลงก่อนจะมีการเจรจาการค้าเกิดขึ้นอีกครั้ง
ตัวเลขเดือนส.ค.สะท้อนถึง ‘ความเสี่ยงด้านลบกับเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น’ จากสงครามการค้า เคน เฉิงคินไต หัวหน้านักกลยุทธ์เงินตราต่างประเทศในเอเชียที่ธนาคารมิซูโฮในฮ่องกงระบุ “จีนผ่อนคลายจุดยืนในการพูดคุยการค้าลง” และมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้
เฉิงเสริมว่า ข้อมูลที่อ่อนแรงทำให้เกิดการคาดเดากันว่าธนาคารกลางของจีนจะรับมือกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมากขึ้นอีกหรือไม่
โดยธนาคารประชาชนจีนออกหลายมาตรการในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้เพื่อหนุนเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อต้นเดือนก.ย.นี้ ธนาคารลดอัตราเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน
ทั้งนี้ จีนระบุว่ามีเครื่องมือเพียงพอในการหนุนเศรษฐกิจให้เติบโต
“เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับแรงกดดันด้านลบจากการเติบโตทั่วโลกที่ชะลอตัว การกีดกันทางการค้าและการกระทำแต่ฝ่ายเดียวที่เพิ่มขึ้น” นายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงของจีนให้สัมภาษณ์กับสื่อรัสเซีย จากถ้อยแถลงที่รัฐบาลจีนเผยแพร่เมื่อวันที่ 16 ก.ย.
“ แต่เศรษฐกิจจีนมีความยืดหยุ่น มีศักยภาพและยังมีพื้นที่อีกมากให้วางแผนกลยุทธ์”.