พ่อแม่ชาวจีนส่งลูกหนีมลพิษไปทางใต้
เพื่อหลบหนีจากหมอกควันพิษในฤดูหนาว มีจำนวนพ่อแม่ชาวจีนเพิ่มขึ้นมากที่ส่งลูกๆ ของพวกเขาไปอยู่ทางใต้ของประเทศ
โดยนายหยู หนึ่งในบรรดาพ่อแม่เหล่านี้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฮ่องกงว่า วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดหลังปีใหม่คือการส่งบุตรชายวัย 3 ขวบของเขาไปอาศัยอยู่กับญาติในมณฑลกว่างตงทางตอนใต้ของจีน
“ ถึงแม้เราต้องจ่ายถึง 5,000 – 6,000 หยวนต่อเดือนเป็นค่าใช้จ่าย แต่มันก็คุ้มค่ามาก ” นายหยูซึ่งเป็นพลเมืองในกรุงปักกิ่งคนหนึ่งกล่าวกับสื่อ โดยเขากล่าวว่า ลูกชายของเขาเป็นหวัดและไอบ่อยมาก ต้องไปพบแพทย์ทุกสัปดาห์ตั้งแต่เริ่มฤดูหนาวและได้รับการรักษาอาการหอบหืด
“ ไม่น่าเชื่อว่า อาการที่เขาเป็นทั้งหมดหายไปทันทีที่เขาถึงกว่างตง ” นายหยูกล่าว
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีเด็กๆ ที่ป่วย ต้องรอคิวยาวในการรักษาที่โรงพยาบาลทั้งกลางวันและกลางคืน เนื่องจากอากาศยังคงมีมลพิษปะปนอยู่อย่างต่อเนื่อง
“ เด็กๆ ไวต่อมลพิษในอากาศมาก หลายคนมีไข้และไอนานหลายวันจากอากาศแย่ๆ ที่มีแต่หมอกควันพิษ ”
โดยนายหยูเล่าว่า มีเด็กนักเรียนห้องเดียวกับลูกเขาอีก 5 คนที่ย้ายไปอาศัยอยู่ทางใต้ เพื่อหลบหนีจากสภาพอากาศที่เลวร้าย
หนังสือพิมพ์รายงานว่า สำหรับครอบครัวที่มีฐานะดี ปัญหาที่พวกเขาเผชิญอยู่คือการตัดสินใจครั้งสำคัญ ว่าพวกเขาจะอยู่ต่อไปในกรุงปักกิ่งเพราะเป็นสถานที่ตั้งของโรงเรียนที่ดีที่สุดในจีน หรือจะย้ายไปอยู่ประเทศอื่นที่มีสภาพอากาศที่ดีกว่า
Ctrip.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุด ประเมินว่ามีประชาชนชาวจีนถึง 150,000 คนที่ตัดสินใจเดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศตือ เพื่อหลบจากปัญหามลพิษ
ทั้งนี้ สำหรับผู้คนที่ไม่สามารถหลบหนีจากอากาศที่มีแต่หมอกควันพิษ พวกเขาได้แต่สวมหน้ากากอนามัยและใช้เครื่องฟอกอากาศเท่านั้น
“ ดิฉันเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ทำได้แค่ป้องกันให้ดีที่สุด ” นางตู้ ไห่ฮง ผู้ช่วยศาสตราจารย์วัย 39 ปี กล่าว
เธอมีเครื่องฟอกอากาศ 2 เครื่องและมีหน้ากากอนามัยอีกหลายโหลที่บ้าน เธอพยายามให้บุตรวัย 13 ปีอยู่กับบ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จาก 74 เมืองที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงป้องกันสิ่งแวดล้อมในปีที่แล้ว มณฑลเหอเป่ย มีตัวเลขมลพิษในอากาศที่เลวร้ายที่สุดของจีน
อาจารย์ตู้กล่าวว่า เธอและบุตรสาวอาจมีทางเลือกอยู่อย่างเดียวเวลาตัดสินใจเลือกสถานที่ท่องเที่ยวคือท้องฟ้าโปร่งอากาศดี.