บริษัทยักษ์ใหญ่ไทยบุก ซี แอล เอ็ม วี
สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังชะลอตัวและยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวให้เห็นชัดจึงทำให้บริษัทขนาดใหญ่และเล็กต่างพากันให้ความสนใจที่รุกขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง ซึ่งได้รับความสนใจอย่างคึก
ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลพบว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยทั้งขนาดใหญ่และเล็กพร้อมใจกันประกาศแผนบุกตลาดและเดินหน้าเข้าไปลงทุนในประเทศลุ่มน้ำโขง โดยพบว่าช่วง 3 เดือนแรกของปี 2559 มีบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศเดินหน้าอย่างคึกคัก และมีธุรกิจที่หลากหลายประเภท
สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มตลาดอาเซียนและซีแอลเอ็มวี กำลังเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจล้นหลาม ดังนั้นบริษัทจดทะเบียนจึงมุ่งหน้าหาช่องทางเข้าไปทำธุรกิจ เพื่อหวังว่าจะช่วยหนุนการเติบโต
บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) SCC ระบุว่าในปีนี้บริษัทจะเดินหน้าบุกตลาดกลุ่มซีแอลเอ็มวีเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยแนวโน้มธุรกิจในประเทศที่ภาวะเศรษฐกิจยังไม่มีความแน่นอน
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ มีความเห็นว่า แนวโน้มปี 2559 ว่า ตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 5-10% จากปี 2558 ที่มีรายได้จำนวน 4.39 แสนล้านบาท เนื่องจากความต้องการใช้ปูนซิเมนต์ในอาเซียนยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ความต้องการในประเทศลดลง
บริษัทตั้งงบลงทุน 5 ปีข้างหน้าจากนี้ไว้ที่ 2-2.25 แสนล้านบาท โดยปีนี้จะใช้งบลงทุนที่ 50,000 ล้านบาทจะนำไปซื้อกิจการเพิ่มเติม และขยายกำลังการผลิตในอาเซียนเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากธุรกิจที่มีฐานการผลิตในภูมิภาคอาเซียนและจากการส่งออกไปยังอาเซียน 100,150 ล้านบาท คิดเป็น 23% ของรายได้รวม ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อน ทั้งนี้เป็นรายได้จากธุรกิจที่มีฐานการผลิตในภูมิภาคอาเซียน 47,172 ล้านบาท คิดเป็น 11% ของรายได้รวม ซึ่งเพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่รายได้จากการส่งออกไปยังอาเซียน 52,978 ล้านบาท คิดเป็น 12% ของรายได้รวม ลดลง 6% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ปรับตัวลดลง
ส่วนแผนการลงทุนในอาเซียน บริษัทยังคงเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ ขณะที่โรงงานปูนซีเมนต์ในเมียนมา และสปป.ลาว คาดว่าจะเริ่มเดินสายการผลิตได้ในช่วงกลางปี 2559 และ 2560
บริษัทมีความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของอาเซียน โดยในปี 2559 คาดว่าประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) จะขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าในกลุ่มประเทศCLMV
กระเบื้องตราเพชรส่งขายซีแอลเอ็มวี
นายสาธิต สุดบรรทัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ บอกว่า ปีนี้บริษัทวางแผนรุกขยายธุรกิจมุ่งขยายตลาดส่งออกสินค้าวัสดุก่อสร้างในกลุ่มซีแอลเอ็มวี ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม รวมถึงจะรุกตลาดในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่กำลังมีความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น เพื่อการพัฒนาประเทศ ประกอบกับการเปิด เออีซีอย่างเป็นทางการ จะส่งผลดีต่อการเชื่อมโยงการค้าการลงทุนและการทำตลาดส่งออกในภูมิภาคอาเซียนได้ดีขึ้น
“บริษัทวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนจากตลาดส่งออกรวมจาก 16% เป็น 20% ของยอดขายรวมในปีนี้”
ทั้งนี้ ตลาดส่งออกที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโดดเด่นในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี ได้แก่ ประเทศเมียนมา เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีปัจจัยเกื้อหนุนมาจากสถานการณ์การเมืองในเมียนมาที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนระยะยาว
แมคยีนส์ครองจุดขาย 25 จุด
นางสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC ดำเนินธุรกิจค้าปลีกเครื่องแต่งกาย อธิบายแผนการทำธุรกิจประเทศกลุ่มซีแอลเอ็มวี ว่า บริษัทยังคงเน้นในตลาดประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกลุ่มซีแอลเอ็มวีที่ปัจจุบันมีจุดจำหน่ายในเมียนมา 20 จุด ลาว 1 จุด กัมพูชา 1 จุด เวียดนาม 2 จุด ซึ่งจะมีความชัดเจนในการเข้าไปขยายที่เวียดนามอีก 1 ราย โดยหวังเพิ่มจุดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอีก 6 จุด
ยูเอซีเจรจาพันธมิตรเพิ่มช่องทาง
นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC ดำเนินธุรกิจเคมีภัณฑ์และพลังงานทดแทน ตั้งเป้าหมายธุรกิจปีนี้ โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2559 ที่ระดับ 1,800 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน 1,544 ล้านบาท โดยมีรายได้มาจากธุรกิจเทรดดิ้ง และธุรกิจการผลิต ซึ่งในส่วนธุรกิจการผลิตนี้ คือ ธุรกิจจำหน่ายเคมีภัณฑ์ (UAPC) และธุรกิจพลังงานทดแทน บริษัทคาดจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 20-30% ในอีก 2ปี
ทั้งนี้ บริษัทได้เจรจากับทางพันธมิตรต่างประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตามแผนงานที่จะมุ่งเน้นตลาดอินโดจีน
ธุรกิจสปาประเดิมรายได้ซีแอลเอ็มวี
นายวิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA ดำเนินธุรกิจด้านสปาเพื่อสุขภาพ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสปา โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มธุรกิจ คือ 1.ธุรกิจสปา ภายใต้แบรนด์ “Let’s Relax” และ แบรนด์ “RarinJinda Wellness Spa” 2.ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร ในนาม “โรงแรม ระรินจินดา เวลเนส สปา รีสอร์ท” บอกว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 35% จาก 543 ล้านบาทในปีก่อน และรักษาอัตรากำไรสุทธิที่ราว 18-20% พร้อมกับมีแผนรุกตลาดซีแอลเอ็มวี หนุนรายได้ต่างประเทศเพิ่มเป็น 10-15% ในปี2561
กลยุทธ์หลักๆ จะเน้นไปในประเทศกลุ่มซีแอลเอ็มวี
สมาร์ทคอนกรีตเล็งลาว-พม่า
นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMART ดำเนินธุรกิจอิฐมวลเบา กล่าวว่า บริษัทได้ขยายช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี เริ่มจากกัมพูชาตั้งแต่ไตรมาส 4ปีก่อน และอยู่ระหว่างการศึกษาตลาดที่ประเทศพม่า ลาว ถือเป็นตลาดเพิ่มเติม โดยปีนี้เตรียม งบลงทุน 200 ล้านบาท
โลจิสติกส์จับมือพันธมิตรท้องถิ่น
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ภาคพื้นดิน ครบวงจร กล่าวว่า บริษัทร่วมลงทุนกับ RMA Group ซึ่งเป็นผู้ถือสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านอาหารบริการด่วน เพื่อขยายธุรกิจให้บริการคลังสินค้าทั่วไปและสินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็นและแช่แข็งรวมถึงให้บริการกระจายสินค้าไปยังร้านแฟรนไชส์ดังกล่าวในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี