ข่าวเด่น เย็นนี้ 27 มิ.ย.2567
ข่าวเด่น เย็นนี้ มติ ก.ตร. 12 ต่อ 0 ให้คำสั่งรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สั่งให้ บิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น ชอบด้วยกฎหมาย ถือว่าเป็นการดับฝัน บิ๊กโจ๊ก ที่จะได้กลับไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยแท้
เรื่องที่ 4,619 ดังนั้น เวลานี้ที่พึ่งของ บิ๊กโจ๊ก จึงเหลือแค่ 2 ทางคือรอคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมตำรวจ ซึ่งหากคำวินิจฉัยของคณะกรรมการดังกล่าว ไม่เป็นคุณกับบิ๊กโจ๊ก ก็จะเหลืออีกทางหนึ่งคือการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ในฐานะประธาน ก.ตร.จะยังไม่กล้านำรายชื่อของบิ๊กโจ๊ก ขึ้นทูลเกล้าฯ ให้ออกจากราชการ เพราะนั่นจะถือเป็นการเสี่ยงอย่างที่สุด จึงเชื่อว่านายกเศรษฐา จะต้องรอให้สิ้นกระบวนความ โดยรอทั้งคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมและศาลปกครอง
เพราะหากนำชื่อบิ๊กโจ๊กทูลเกล้าฯ ให้ออกจากราชการ แล้วภายหลังเกิดศาลปกครองมีคำสั่งว่าการให้บิ๊กโจ๊ก ออกราชการนั้นถือว่าขัดกฏหมาย เศรษฐาเองก็จะต้องกลับไปเผชิญความลำบากอย่างไม่ต้องสงสัย
อย่างไรก็ตามเวลานี้ บิ๊กโจ๊ก สู้อย่างถึงที่สุด โดยในสัปดาห์หน้า ก็จะเดินหน้าฟ้องร้องทั้งเศรษฐาและ ก.ตร.ทั้งคณะ
เรื่องที่ 4,620 ปัญหายาเสพติด เป็นอะไรที่ยังไม่หมดไปจากสังคมเมืองไทย แก้ปัญหาไม่จบไม่สิ้น ซึ่งล่าสุด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติด ผ่านระบบทางไกล (Zoom Meeting) กับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ก่อนลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดน่าน
นายกรัฐมนตรี กล่าย้ำอีกว่า แม้ว่าวันนี้จะมียอดจับกุมที่สูงมาก แต่ปัญหายังไม่จบสิ้น ยังมีหลายหน่วยงานตามตะเข็บชายแดนที่ยังมีจุดรั่วของยาเสพติด ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยกับแม่ทัพภาค 3 มากขึ้น จะต้องมีการทำงานกันอย่างบูรณาการของทุกภาคส่วน ซึ่งการทำงานอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนมุ่งมั่นทำงาน และแม้ว่า จะสามารถทำงานได้ตามเป้าที่วางไว้แต่อยากให้ยกเป้าสูงขึ้นอีก อย่าเพิ่งพึงพอใจกับสิ่งที่เราได้อยู่ และขอให้ทำให้ดีขึ้นทุกวัน หากขาดแคลนยุทโธปกรณ์หรือกำลังคน ขอให้บอกรัฐบาลมา รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เห็นนายกลุยเองแบบนี้ก็หวังว่ายาเสพติดจะหมดไป หรือน้อยลงจากเดิมก็ยังดีนะขอรับ
เรื่องที่ 4,621 ซีอีโอป้ายแดงของแต่ละองค์กรฝั่งพลังงานเริ่มทยอยเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดถึงคิวซีอีโอพี่ป้อม “จิราพร ศิริคำ” แห่ง บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ปบ้าง
วันนี้ (27 มิ.ย. 67) ซีอีโอพี่ป้อมยืนยันว่า ตัวเลขการลงทุนงปี 2567 ยังอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 1,000 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันได้ใช้เงินลงทุนไปแล้วประมาณ 15,000-16,000 ล้านบาท
แต่ก็มีโอกาสขยายตัวเลขได้อีก เนื่องจากยังมีอีกหลายธุรกิจที่สนใจจะลงทุนโดยเฉพาะโครงการพลังงาน โรงไฟฟ้าใหม่และพลังงานทดแทน นอกจากนี้ก็ยังมองถึงโอกาสการลงทุนนอกเหนือจากแผนงานที่วางไว้ และมั่นใจว่าบริษัทยังมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน
พร้อมกันนี้ซีอีโอพี่ป้อมยังแสดงความมั่นใจด้วยว่า รายได้ในปีนี้จะดีกว่าปีก่อนแน่นอน เพราะบริษัทมีแผนดำเนินงานที่ชัดเจน ซึ่งการดำเนินงาน 6 เดือนหลังที่เป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของบริษัท โดยเฉพาะการเพิ่มกำลังผลิตใหม่และการสร้างรายได้และกำไร จะมาจากการรับรู้รายได้จากการทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของโครงการ Yunlin โดยมั่นใจว่าจะสามารถก่อสร้างเสร็จเสากังหันครบ 80 ต้น กำลังผลิตรวม 640 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567 ตามแผนที่กำหนด และอีกมากมาย
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับซีอีโอพี่ป็อมขับเคลื่อนงานขององค์กรได้ตามที่หวังนะขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 4,622 ต้องยกนิ้วให้ข้าราชการกระทรวงการคลัง แม้จะใกล้สิ้นปีงบประมาณ 2567 อีกไม่เกิน 3 เดือนก็ก.ย.แล้ว “พี่อ้วน-จำเริญ โพธิยอด” ยังทำงานไม่หยุด ล่าสุดเช้าวันที่ 27 มิ.ย.ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เชิญ รมต.ป้ายแดง “อ๊อฟ-เผ่าภูมิ โรจนสกุล” รมช.คลัง เปิดโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ “สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน” ตั้งเป้ามอบสัญญาเช่าที่ดิน 9 จังหวัด 1,900 ราย 7,000 ไร่ ใน 6 เดือน พร้อมประกาศลั่นปีงบประมาณ 2567 กรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้ตามเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท อย่างแน่นอน เรียกว่า “เกษียณสุขใจ” สบายๆ พี่อ้วน นะครับพี่น้อง
เรื่องที่ 4,623 งานเข้าทันที่ หลังจาก “อ๊อฟ-เผ่าภูมิ โรจนสกุล” รมช.คลัง คนเดิม (ช่วงนี้หล่อมาก) ให้สัมภาษณ์ประเด็น “หวยเกษียณ” หรือ สลากออมทรัพย์เพื่อการเกษียณ กอช. โทรศัพท์ดังกริ๊ก!! เข้า กอช.ทุกวัน วันละหลายพันครั้ง คนยิ้มหน้าบาน หาใช่ “รมช.อ๊อฟ” แต่เป็น “จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ” เลขา กอช. ที่ทำท่าจะไม่รอดปีนี้ เหมือนปลาได้น้ำ ให้สัมภาษณ์ “นพวัชร์” ฟุ้ง 3 วัน 3 คืน ขี้ไหลไม่หยุด แบบว่า ยอดสมาชิก กอช.จะเพิ่มจาก 2.6 ล้านคน เป็น 10 ล้านคน จากจำนวนประชาชน ที่ประกอบวิชาชีพอิสระ 20 ล้านคน เรียกว่า ผลงานเป้า KPI ฉลุย น่าจะอยู่ยาวจนครบวาระรอบที่ 2
สรุปข่าวเด่นต่างประเทศ
เรื่องที่ 4,624 ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 6.50% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 ปีในการประชุมวันนี้ (27 มิ.ย.) ตามคาดการณ์ ขณะที่เงินเปโซอ่อนค่าลงและยังคงมีความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ผู้กำหนดนโยบายของ BSP ยังคงระมัดระวัง แม้ในขณะที่คาดการณ์ว่าภาวะเงินเฟ้อที่เลวร้ายที่สุดได้สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งทำให้ BSP พิจารณาการเปลี่ยนไปใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินอย่างเร็วที่สุดในเดือนส.ค. โดยอุปสงค์ภายในประเทศยังได้รับผลกระทบจากราคาที่พุ่งสูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น 4.5% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกมากที่สุดของ BSP ในรอบ 2 ทศวรรษ
เรื่องที่ 4,625 นายชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น กล่าวในวันนี้ (27 มิ.ย.) ว่า ญี่ปุ่นกำลังวิเคราะห์ปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังการอ่อนค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และพร้อมที่จะดำเนินการ “ตามความจำเป็น” หลังจากที่เงินเยนร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 37 ปี
สำนักข่าวเกียวโดรายงานถ้อยแถลงของนายซูซูกิว่า การเคลื่อนไหวของเงินเยนที่ “รวดเร็วและเป็นไปในทิศทางเดียว” เป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา พร้อมเสริมว่า เขารู้สึก “กังวลอย่างมาก” เกี่ยวกับผลกระทบของการอ่อนค่าของเงินเยนที่มีต่อเศรษฐกิจ นายซูซูกิกล่าวว่า ทางการญี่ปุ่นกำลังจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความกังวลของตลาดว่า ทางการอาจเข้าแทรกแซงค่าเงินอีกครั้ง
เรื่องที่ 4,626 จีนสร้างรถไฟโดยสารจากคาร์บอนไฟเบอร์คันแรกของโลก ซึ่งเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบากว่าและประหยัดพลังงานมากกว่ารถไฟทั่วไปอย่างมาก
สำนักข่าวเซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานว่า รถไฟดังกล่าวมีชื่อว่าเซโทรโว 1.0 (Cetrovo 1.0) ซึ่งได้เปิดตัวขึ้นที่เมืองชิงเต่าในวันพุธ (26 มิ.ย.) โดยรถไฟขบวนดังกล่าวผ่านการทดสอบจากโรงงานเรียบร้อยแล้วและพร้อมจะเริ่มดำเนินการในเมืองชิงเต่าในปีนี้ โดยรวมแล้วรถไฟขบวนนี้มีน้ำหนักเบากว่ารถไฟดั้งเดิม 11% อีกทั้งยังใช้พลังงานน้อยลง 7% ซึ่งหมายความว่าจะลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลงราว 130 ตันต่อปี หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ในพื้นที่กว่า 40 เฮกตาร์
เรื่องที่ 4,627 มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสระบุว่า ปัญหาขาดแคลนน้ำรุนแรงในประเทศอินเดียอาจจะส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ พร้อมกับเตือนว่าวิกฤตการณ์น้ำอาจจะนำไปสู่เหตุการณ์จลาจลหากภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมหยุดชะงัก
มูดี้ส์ระบุในรายงานล่าสุดเมื่อวันอังคาร (25 มิ.ย.) ว่า การผลักดันอินเดียให้เป็นประเทศอุตสาหกรรมและการขยายตัวของสังคมเมืองที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมากนั้น ได้ส่งผลให้อินเดียเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง นอกจากนี้ สภาพอากาศแบบสุดขั้ว ซึ่งรวมถึงคลื่นความร้อนและความแห้งแล้งยังส่งผลให้สถานการณ์เลวร้ายลง และทำให้อินเดียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกอยู่ในจุดที่เป็นอันตราย โดยมูดี้ส์เตือนว่า ปัญหาขาดแคลนน้ำอาจจะส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของอินเดีย
โดยนพวัชร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ข่าวเด่น เย็นนี้ 26 มิ.ย.2567