ข่าวเด่น เย็นนี้ 22 ม.ค.2567

ยื่นแล้ว สำหรับการขอเปิดอภิปรายรัฐบาลแบบไม่ลงมติของ ส.ว. ชง 98 รายชื่อ เสนอต่อประธานวุฒิสภา เพื่อเปิดอภิปรายรัฐบาลเศรษฐา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 ใน 7 ประเด็นประกอบด้วย

เรื่องที่ 3,681 1.ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องประชาชน เช่น นโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่ชอบด้วยกฎหมายไม่สร้างภาระหนี้ให้ประชาชน,การแก้หนี้นอกระบบ ที่ไม่ได้มุ่งแก้ปัญหาต้นตอในระดับครัวเรือน,การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมประมง เป็นต้น
2.ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย ในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังตามคำพิพากษาที่สะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการยุติธรรม 2 มาตรฐาน การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ ช่วยพวกพ้องหาผลประโยชน์ส่วนตัว สร้างมาตรฐานในกระบวนการที่บิดเบี้ยว เป็นต้น
3.ปัญหาด้านพลังงาน ไม่สามารถแก้ปัญหาโครงสร้างปัญหาของประเทศ และการบริหารจัดการราคาพลังงานทั้งค่าไฟ ก๊าสหุ้งต้ม และน้ำมัน นอกจากนั้นจะแก้ปัญหากลุ่มทุนพลังงาน มีอิทธิพลกับการเมือง ทำให้กลุ่มทุนกำหนดราคาพลังงานในอัตราที่สูงเกินความจำเป็น จนทำให้ประชาชนต้องแบกรับภาระราคาเชื้อเพลิงที่สูงเกินจริง
4.ปัญหาการศึกษาและสังคมม อาทิ กาปฏิรูปการศึกษา ผ่านร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ,การแก้ปัญหาหนี้สินครู การจัดหลักสูตรการศึกษาให้ประชาชนเข้าใจในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ปัญหาการดูแลผู้สูงวัย ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส
5.ปัญหาการต่างประเทศและท่องเที่ยว เช่น ปัญหาจีนเทาที่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ,การไม่เลือกข้างความขัดแย้งของรัฐบาล, มาตรการคุ้มครองความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว
6.ปัญหาแก้รัฐธรรมนูญ และ 7. ปัญหาการปฏิรูปประเทศ
เรื่องที่ 3,682 เหมือนวัวหายแล้วล้อมคอกอีกตามเคย หลังจากที่เกิดกรณีการจ่ายน้ำมันให้ประชาชนไม่เต็มลิตรของสถานีบริการน้ำมัน จนกลายเป็นข่าวดราม่าและทำให้ปั๊มแห่งหนึ่งมีผู้เข้ามาใช้บริการเติมน้ำมันบางตา

แต่จอดแวะเข้าห้องน้ำแน่นเหมือนเดิม ล่าสุดพี่ฟลุ๊ค “สราวุธ แก้วตาทิพย์” อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน หรือธพ. เดินหน้าร่วมมือกับสำนักงานพลังงานจังหวัดทั่วประเทศ และสำนักชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ปูพรมตรวจสอบปั๊มกว่า 1,000 แห่ง ภายใน 31 ม.ค. 67
เรียกว่างานด่วน งานเร่งพอสมควรกันเลยทีเดียว เพื่อไม่ให้มีการแก้ไขดัดแปลงตู้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงจากที่ได้รับอนุญาต และให้ได้ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงถูกต้องเต็มลิตร
บก.ชวนคุยอยากบอกคุณผู้อ่านทุกท่านเหมือนกันว่าพวกเราเอง ก็สามารถช่วยตรวจสอบเบื้องต้นได้เช่นเดียวกันจากเครื่องหมายคำรับรอง ซึ่งจะมีการปิดผนึกทั้งในส่วนของตู้ด้านนอกและในส่วนของอุปกรณ์ภายในตู้
หากพบว่าชุดผนึกนี้มีการแตกหักเสียหาย ก็จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับเลย ร่วมด้วยช่วยกันเพื่อคุ้มครองสิทธิ์ของผู้บริโภคอย่างพวกเรานะขอรับ

เรื่องที่ 3,683 กยศ. ยืนยันแล้วจ่ายเงินกู้ยืมให้นักศึกษาทุกราย ไม่ปล่อยให้ใครลอยแพในระบบ แถมย้ำอีกว่า “ผู้กู้ยืมรายเก่าที่เคยที่ได้รับอนุมัติเงินกู้ยืมจะได้กู้ยืมเรียนจนจบการศึกษาอย่างแน่นอน” ซึ่ง นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ได้ออกมา เปิดเผยว่า “จากกรณีที่เป็นข่าวนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษร้องต่อสื่อมวลชนว่ากองทุนฯ ตัดสิทธิ์เงินกู้ยืมจากกองทุนฯนั้น ในกรณีดังกล่าวกองทุนฯได้ตรวจสอบแล้วพบว่านักศึกษารายนี้เป็น 1 ใน 5 รายที่มาร่ำไห้กราบวิงวอนขอไม่ให้ตัดสิทธิ์การกู้ยืมเงิน และรายนี้เพิ่งยื่นแบบยืนยันเบิกเงินกู้ยืมในระบบเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2567 ทั้งนี้กองทุนได้อนุมัติไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อสถานศึกษาส่งแบบเบิกเงินกู้ยืมเสร็จเรียบร้อยผู้กู้ยืมจะได้รับเงินค่าครองชีพภายใน 7 วัน และกองทุนจะโอนเงินค่าเล่าเรียนให้กับสถานศึกษาต่อไป

เรื่องที่ 3,684 หอการค้าไทย-จีน ร่วมด้วย สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย และ กรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ขอเชิญช่วนร่วมงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน CIIE 2024 โดย “งานประชาสัมพันธ์มหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน ครั้งที่ 7 หรือ CIIE 2024” เป็นการเปิดโอกาสให้นักธุรกิจและผู้ประกอบการไทยได้รับฟังศักยภาพของงาน CIIE ตลอดจนแนวคิดการจัดงาน CIIE ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการส่งเสริมการนำเข้าสินค้าตามนโยบายเปิดกว้างทางเศรษฐกิจของจีน และเป็นเวทีความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับนานาประเทศ สำหรับงาน CIIE ในปีนี้ เป็นการจัดงานครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 5-10 พ.ย. ที่ นครเซี่ยงไฮ้ ผู้สนใจเข้าร่วมสามารถอ่านรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ciie.org/zbh/en/
สรุปข่าวต่างประเทศ

เรื่องที่ 3,685 นายเจนเซน หวง ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งอินวิเดีย (Nvidia) ได้เฉลิมฉลองปีใหม่กับทีมงานระหว่างการเดินทางไปจีนครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยเป็นการเยือนจีนแบบไม่เป็นทางการ ท่ามกลางกระแสกังวลเกี่ยวกับการที่จีนดูเหมือนจะหาทางรับมือกับอุปสรรคจากการที่สหรัฐกีดกันเรื่องชิปได้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า นายหวง วัย 60 ปี ได้เดินทางไปเยี่ยมสำนักงานของอินวิเดียในเมืองเซินเจิ้น เซี่ยงไฮ้ และกรุงปักกิ่งเมื่อช่วงต้นเดือนม.ค. โดยมีรูปภาพและวิดีโอขณะนายหวงสวมชุดพื้นเมืองและเต้นกับเจ้าหน้าที่ถูกเผยแพร่ทางออนไลน์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และขณะนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า นายหวงได้มีการพบปะอย่างเป็นทางการกับผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ หรือไม่

เรื่องที่ 3,686 กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่า พบบอลลูนจีนเพิ่มอีก 6 ลูกที่ลอยข้ามช่องแคบไต้หวันเมื่อวานนี้ (21 ม.ค.) โดยมีลูกหนึ่งที่ลอยข้ามเกาะไต้หวัน นับเป็นการตรวจพบครั้งล่าสุดจากบอลลูนจำนวนมากที่กระทรวงฯพบตลอดระยะเวลา 1 เดือนครึ่ง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ กระทรวงฯ กล่าวในถ้อยแถลงที่รุนแรงโดยกล่าวหาว่า จีนคุกคามความปลอดภัยด้านการบินและทำสงครามจิตวิทยากับประชาชนบนเกาะด้วยบอลลูนจำนวนมากในช่วงหลายวันก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 13 ม.ค.ของไต้หวัน อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมจีน ซึ่งปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเรื่องบอลลูนเมื่อเดือนที่แล้ว ก็ไม่ได้ออกมาระบุถึงประเด็นดังกล่าวในตอนนี้ด้วยเช่นเดียวกัน อนึ่ง จีนยังคงอ้างอธิปไตยเหนือดินแดนไต้หวัน แม้จะมีการปฏิเสธอย่างแข็งขันจากรัฐบาลไต้หวันก็ตาม

เรื่องที่ 3,687 สหภาพยุโรป (EU) เตรียมประกาศข้อเสนอใหม่ในสัปดาห์นี้ โดยอาศัยจุดแข็งของสหภาพยุโรปจากการที่เป็นตลาดเดียว (single market) เพื่อเสริมแกร่งตนเองให้เป็นมหาอำนาจระดับโลกอีกครั้ง ในยามที่หลาย ๆ ประเทศ เช่น จีน รัสเซีย และสหรัฐ เริ่มเข้ามามีอำนาจครอบงำเรื่อย ๆ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า EU เตรียมเปิดตัวข้อเสนอใหม่ที่ว่านี้ในวันพุธ (24 ม.ค.) ซึ่งมีกฎระเบียบต่าง ๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มอำนาจในการคัดกรองและสกัดกั้นการลงทุนจากต่างชาติในอุตสาหกรรมที่ละเอียดอ่อน ซึ่งครอบคลุมถึงบริษัทที่ควบคุมดูแลโดยต่างชาติภายในประเทศสมาชิกของกลุ่ม EU กลยุทธ์ใหม่นี้มีขึ้นเพื่อแสวงหาแนวทางจัดการกับความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของ EU ขณะเดียวกันก็ทำให้มั่นใจว่า EU ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจที่สุดสำหรับธุรกิจและการลงทุนด้วย

เรื่องที่ 3,688 มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส มีมุมมองเชิงลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศในเอเชียแปซิฟิกในปีนี้ เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน, ภาวะตึงตัวด้านการเงิน และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยมูดี้ส์คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แท้จริงของจีนจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 4% ในปี 2567 และ 2568 จากระดับเฉลี่ย 6% ในช่วงปี 2557-2566 ซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิกอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนมีผลต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
คริสเตียน เด กัซแมน รองประธานอาวุโสของมูดี้ส์เปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า “นอกเหนือจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนแล้ว ภาวะตึงตัวด้านการเงินยังมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของประเทศในเอเชียแปซิฟิกด้วย โดยเราคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทั่วโลกรวมถึงเอเชียแปซิฟิก”

เรื่องที่ 3,689 บรรดานักเทรดพร้อมรับมือ หากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยในศึกเลือกตั้งปธน.สหรัฐอีกครั้ง หลังจากที่ชัยชนะของเขาเมื่อปี 2559 สร้างความตกตะลึงไปทั่วตลาดการเงิน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าหากทรัมป์ชนะ สิ่งที่เป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้น ได้แก่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และสกุลเงินของคู่ค้าอ่อนค่าลง โดยอิงจากนโยบายที่ทรัมป์เคยใช้คราวก่อน เช่น การกำหนดภาษีนำเข้า 10% และทำให้การลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2560 มีผลถาวร
โดยนพวัชร์