ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 21-22 พ.ค 2566
เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
เรื่องที่ 2,138 หลังเลือกตั้ง เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่สนใจอะไรแล้ว วันๆเอาแต่โพสต์เฟซบุ๊ก โชว์รูปเดินทางท่องเที่ยวไม่กี่วันหลังเลือกตั้ว อนุทิน โชว์ภาพกำลังขับเครื่องบิน เติมแคปชั่นว่า “คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง” เหมือนว่าพ้อ แต่ยังมีอารมณ์ขัน
เพราะอย่างที่รู้กันว่า แม้พรรคภูมิใจไทย จะไม่ชนะการเลือกตั้งมาเป็นที่ 1 แต่อยู่ในลำดับที่ 3 และวันดีคืนดี มีส้มหล่น ไม่แน่อาจได้ร่วมขบวนจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้งก็ได้ล่าสุด อนุทิน โชว์ภาพขนครอบครัวไปเที่ยวฮ่องกง แน่นอนงานนี้รัฐมนตรีนักรักอย่างอนุทิน ไม่พลาดที่จะควงขวัญใจคนเดิม “จ๊ะจ๋า สุภานัน” ร่วมทริปด้วย
หากเข้าไปดูในเฟซบุ๊ก อนุทิน ก็จะเห็นหลายภาพสวีทหวาน ไม่แคร์สื่อเลยพ่อคุณงานนี้สงสัยแม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล อนุทิน คงไม่เสียใจและเศร้าใจ เพราะมีคนข้างกายค่อยให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้เป็นรัฐบาลแต่มี จ๊ะจ๋า คอยเติมเต็ม
เรื่องที่ 2,139 มีข่าวดีมาให้ไพเราะเสนาะหูกันอีกแล้วสำหรับเรื่องค่าไฟ เมื่อล่าสุดนายพงษ์พันธุ์ อมรวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บอกว่า ค่าไฟงวดปลายปีมีแนวฌน้มที่ราคาจะถูกลงได้ โดยให้เหตุผลประกอบว่า สถานการณ์ราคาพลังงานเริ่มคลี่คลายลง โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติเหลวตลาดจร (สปอตแอลเอ็นจี) ราคาซื้อขายเดือนมิถุนายนลดลงเหลือระดับ 9 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู
ขณะที่ช่วงปลายปีคาดว่าราคาจะอยู่ระดับใกล้เคียง เนื่องจากสต็อกแอลเอ็นจีทั่วโลกขึ้นไประดับ 60% ไม่เกิดภาวะขาดแคลนเหมือนช่วงภาวะสงครามในช่วงที่ผ่านมา จนทำให้ราคาเคยทำสถิติพุ่งสูงถึง 80 เหรียญฯ ส่วนประเทศไทยซื้อได้ในราคา 40 เหรียญฯซึ่งถือเป็นระดับสูงเช่นกัน ดังนั้นน่าจะเป็นข่าวดีสำหรับค่าไฟของไทยงวดปลายปีให้ราคาถูกลง เพราะใช้เชื้อเพลิงแอลเอ็นจีผลิตไฟฟ้าค่อนข้างมาก
ขณะที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ กนอ. ก็ออกมาอวดผลงานได้อย่างน่าดูชมกับทริปที่ไปโรดโชว์ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) โดยสามารถโน้มน้าวจนทำให้นักลงทุนเกาหลี 4 ราย หอบเงินเข้ามาสู่ประเทศไทยได้กว่า 2 พันล้านบาทแล้วในเบื้องต้นในพื้นที่อีอีซี (EEC) และใกล้เคียง
นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่ดี เมื่อนักลงทุนเองก็ต้องการให้กนอ. และ บีโอไอ จัดกิจกรรมพานักลงทุนเกาหลีศึกษาดูงานโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV ในประเทศไทย เพื่อพิจารณาและศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในประเทศไทยต่อไป โอกาสมาแล้วก็ต้องจับให้มั่นเลยนะขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 2,140 “กวาง-ไตรศุลี ไตรสรณกุล” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยิ้มแกล้มปริ หลังพบท่องเที่ยวของไทยขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 15 พ.ค. มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยทุกช่องทางรวมแล้ว 9.47 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวแล้ว 391,000 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักยังคงมาจากประเทศในเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และอาเซียน
โดยเฉพาะในตลาดหลักอย่างนักท่องเที่ยวจีน ททท. ประเมินว่าปี 2566 น่าจะเดินทางมาไทยได้ 5.3 ล้านคน หรือหากมีปัจจัยเสริมอื่นๆ ก็อาจจะถึง 7 ล้านคน
ขณะที่ ข้อมูลของวิทยุการบินแห่งประเทศไทย หรือ บวท. ระบุว่า 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ2566 (ต.ค.65-เม.ย.66) มีเที่ยวบินจากจีนเข้ามาไทยแล้ว 12,805 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 98% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งมาจากที่จีนมีนโยบายให้บริษัททัวร์นำนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ออกนอกประทศได้ตั้งแต่ 6 ก.พ.2566 เป็นต้นมาในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ บวท. คาดว่าเที่ยวบินจากประเทศจีนจะยังเพิ่มขึ้นอีก โดยคาดว่าเดือนพ.ค. จะมีเที่ยวบินจีน 5,330 เที่ยวบิน, มิ.ย. 6,090 เที่ยวบิน, ก.ค. 7,150 เที่ยวบิน, ส.ค. 7,460 เที่ยวบิน และก.ย. 7,340 เที่ยวบิน ส่งผลให้ตลอดปีงบประมาณ 66 (ต.ค.65-ก.ย. 66) มีเที่ยวบินจากจีนมายังประเทศไทย 46,175 เที่ยวบิน
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 2,141 ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเดินทางถึงญี่ปุ่นแล้วในช่วงบ่ายวันนี้ (20 พ.ค.) โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพูดคุยกับบรรดาผู้นำจากประเทศต่างๆ เช่น บราซิลและอินเดีย ซึ่งมีท่าทีเป็นกลางต่อการที่รัสเซียรุกรานยูเครน
“เซเลนสกี” เดินทางเป็นระยะทางเกือบ 9,000 กม. ไปยังเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่นด้วยเครื่องบินทหารของฝรั่งเศส โดยเขาได้เดินทางออกจากประเทศซาอุดีอาระเบียซึ่งเขาได้เข้าร่วมการประชุมสันนิบาตชาติอาหรับ และแม้ว่าเขาจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่ม G7 แต่จุดสนใจหลักของเขาอยู่ที่การพบปะกับผู้นำที่ได้รับเชิญคนอื่นๆ ซึ่งมาจากประเทศที่เรียกกันว่าเป็นโลกใต้ (Global South)
ปธน.เซเลนสกีต้องการที่จะพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย และประธานาธิบดีลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำบราซิล โดยผู้นำยูเครนมีกำหนดจะพบปะกับนายโมดีในวันนี้
ทั้งนี้ อินเดียได้เพิ่มการซื้อพลังงานจากรัสเซีย และยังต้องการซื้ออาวุธจากรัสเซียด้วย
เรื่องที่ 2,142 ผู้เจรจาของทำเนียบขาว และพรรครีพับลิกันประชุมกันรอบสองในคืนวันศุกร์ที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามเวลาสหรัฐ เพื่อเริ่มการเจรจาหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ และคาดว่าการเจรจาจะดำเนินต่อไปในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ การประชุมรอบสองเป็นเวลา 90 นาทีที่รัฐสภาสหรัฐมีขึ้น หลังจากการที่พรรครีพับลิกันประท้วงด้วยการเดินออกจากที่ประชุมรอบแรกในวันศุกร์นั้น ได้ทำลายความเชื่อมั่นที่ว่า ทั้งสองฝ่ายใกล้จะบรรลุข้อตกลงเรื่องเพดานหนี้ และกดดันราคาหุ้นร่วงลง
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งระบุว่า ผู้เจรจาวางแผนจะประชุมกันอีกครั้งในวันเสาร์นี้ (20 พ.ค.)สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ไม่มีทีมเจรจาใด ๆ ที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับความคืบหน้าของการเจรจา เมื่อการประชุมรอบสองสิ้นสุดลง ขณะที่พวกเขาเดินออกจากที่ประชุม
นายแมคคาร์ธีเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์บิสเนสว่า “เราหยุดการเจรจา เพราะผิดหวังที่ทางทำเนียบขาวไม่ยอมรับว่า พวกเขากำลังใช้จ่ายมากเกินไป”
เรื่องที่ 2,143 ธนาคารกลางอินเดียประกาศว่า ธนาคารจะนำธนบัตรประเภท 2,000 รูปีออกจากระบบการเงิน
ธนาคารกลางระบุว่า มีหลักฐานบ่งชี้ว่า ธนบัตรประเภท 2,000 รูปี ซึ่งเป็นธนบัตรที่มีมูลค่าสูงสุดของอินเดีย ไม่ได้มีการใช้ที่แพร่หลายมากนักในการทำธุรกรรมต่างๆอย่างไรก็ดี ธนาคารกลางยืนยันว่า ธนบัตรประเภท 2,000 รูปีจะยังคงมีสถานะชำระหนี้ได้ตามกฎหมายจนถึงวันที่ 30 ก.ย.
เรื่องที่ 2,144 นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ในการกล่าวสุนทรพจน์ล่าสุด
“ผมเข้าใจดีถึงผลกระทบจากเงินเฟ้อในระดับสูง และขอให้คำมั่นว่าเฟดจะไม่ย่อท้อในการทำให้เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม”
“ความล้มเหลวในการทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลง ไม่เพียงแต่ทำให้ความเจ็บปวดถูกลากยาวออกไป แต่ในท้ายที่สุดยังเป็นการเพิ่มต้นทุนทางสังคม เราจะหลีกเลี่ยงสิ่งนี้โดยจะยังคงยึดมั่นต่อเป้าหมายของเราอย่างแน่วแน่” นายพาวเวลกล่าวในงานเสวนา Thomas Laubach Research Conference ว่าด้วยนโยบายการเงิน ซึ่งเฟดจะจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลกล่าวเสริมว่า ภาวะตึงตัวในภาคธนาคารเป็นปัจจัยทำ ให้เฟดไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่สูงมากนักเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยปัญหาจากธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) อาจกลับมาส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอีก
“ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเราอาจจะไม่จำเป็นต้องสูงมากนักเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเรา” นายพาวเวลกล่าว
นอกจากนี้ นายพาวเวลย้ำว่า การตัดสินใจนโยบายการเงินของเฟดในอนาคตจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้รับ โดยจะไม่มีการกำหนดทิศทางไว้ล่วงหน้า
โดยนพวัชร์