ทำไม “ก้าวไกล” ชนะ “เพื่อไทย” แพ้ครั้งแรกในรอบ 20 ปี
วิเคราะห์ผลการเลือกตั้ง 2566 ปรากฏการณ์ก้าวไกล ชนะพรรคเพื่อไทยได้อย่างไร
เลือกตั้ง 2566 ต้องเรียกว่าเหนือความคาดหมาย โดยพรรคก้าวไกล ที่นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ชนะการเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 ส่วนพรรคเพื่อไทย ที่ครองอันดัน 1 มายาวนานนับ 20 ปี ตกไปอยู่ดับดับ 2
ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ดังนี้
พรรคก้าวไกล ส.ส.เขต 113 ที่นั่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 14,233,895 คะแนน คิดเป็น 39 ที่นั่ง รวม 152 ที่นั่ง
พรรคเพื่อไทย ส.ส.เขต 112 ที่นั่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 10,865,836 คะแนน คิดเป็น 29 ที่นั่ง รวม 141 ที่นั่ง
พรรคภูมิใจไทย ส.ส.เขต 67 ที่นั่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 1,121,595 คะแนน คิดเป็น 3 ที่นั่ง รวม 70 ที่นั่ง
พรรคพลังประชารัฐ ส.ส.เขต 39 ที่นั่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 530,017 คะแนน คิดเป็น 2 ที่นั่ง รวม 41 ที่นั่ง
พรรครวมไทยสร้างชาติ ส.ส.เขต 23 ที่นั่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 4,673,691 คะแนน คิดเป็น 13 ที่นั่ง รวม 36 ที่นั่ง
พรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.เขต 22 ที่นั่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 899,303 คะแนน คิดเป็น 2 ที่นั่ง รวม 24 ที่นั่ง
พรรคชาติไทยพัฒนา ส.ส.เขต 9 ที่นั่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 191,308 คะแนน คิดเป็น 1 ที่นั่ง รวม 10 ที่นั่ง
ทำไมก้าวไกลชนะ
สำหรับปัจจัยที่ทำให้พรรคก้าวไกล พรรคการเมืองที่เพิ่งตั้งขึ้นมาได้เพียง 5 ปี สามารถชนะการเลือกตั้งได้ มีดังนี้
1)นโยบาย เพราะหลายนโยบายของพรรคก้าวไกล โดนใจประชาชน ไม่ว่าจะเป็น การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ถือว่าถูกใจวัยรุ่นเป็นอย่างมาก เพราะในสังคมสมัยใหม่ มองว่าการเกณฑ์ทหาร เป็นเรื่องไร้ประโยชน์ มิหนำซ้ำยังเสียเวลา เสียการเสียงาน เสียโอกาส
อีกนโยบายที่ถูกใจคนไทย คือแนวคิดการรื้อทุนผู้ขาดในประเทศไทย ไม่ว่าจะกลุ่มทุนพลังงาน กลุ่มทุนร้านสะดวกซื้อ รวมถึงกลุ่มทุนในการผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
2)การเมืองแบบใหม่ ไม่เอาบ้านใหญ่ ต้องยอมรับว่าคำว่า “บ้านใหญ่” กลายเป็นคำที่คนไทยไม่ชอบแล้ว เพราะนั่นอาจหมายถึงผู้มีอิทธิผล การผูกขาดทางการเมืองจากรุ่นสู่รุ่น
ดังนั้น สิ่งที่พรรคก้าวไกล นำเสนอคือการเป็นคนธรรมดา ดังจะเห็นผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคก้าวไกล ที่มาจากหลากหลายอาชีพ รวมถึงแรงงาน พนักงานประจำ อดีตข้าราชการชั้นผู้น้อย ฯลฯ เหล่านี้ทำให้คนรู้สึกว่า พรรคก้าวไกล กำลังพูดภาษาเดียวกันกับเขา
3)หัวคะแนนธรรมชาติ ด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ พรรคก้าวไกลสามารถสร้างฐานผู้สนับสนุนให้กลายเป็นแฟนคลับ หรือ FC ได้ และ FC ก็ช่วยกันใช้สื่อโซเชียลให้พรรคก้าวไกลมีกระแสแรงขึ้น
4)Tiktok ในช่วงสัปดาห์สุดท้าย กระแสของพรรคก้าวไกลแรงมากใน Tiktok โดยหัวคะแนนธรรมชาติ ได้ช่วยกันโพสต์คลิปแสดงตัวว่าจะเลือกพรรคก้าวไกล เช่น คลิปโชว์เดินก้าวยาวๆ เพื่อแสดงออกว่า เป็นก้าวไกล
5)ดาวฤกษ์เต็มพรรค โดยในช่วงของการหาเสียงเราจะเห็นว่า 1 วัน พรรคก้าวไกลไม่ได้มีการปราศรัยที่เดียว แต่คนของพรรคก้าวไกล ได้กระจายกันปราศรัยแบบดาวกระจาย เช่น พิธา ปราศรัยอยู่ที่ กทม. เวลาเดียวกัน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปราศรัยอยู่ที่เชียงใหม่ และรังสิมันต์ โรม ปราศรัยอยู่ที่ชุมพร เป็นต้น
ซึ่งต่างจากพรรคอื่น เช่น รวมไทยสร้างชาติ จะได้ปราศรัยใหญ่ก็ต่อเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ มาขึ้นเวที
ทำไมเพื่อไทยแพ้ครั้งแรกในรอบ 20 ปี
ส่วนสาเหตุความพ่ายแพ้ของพรรคเพื่อไทย พรรคการเมืองที่ครองใจประชาชนคนไทยมายาวนานกว่า 20 ปี สามารถวิเคราะห์ ได้ดังนี้
1)ฐานผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ได้หันไปเลือกพรรคก้าวไกลมากขึ้น ซึ่งถือว่ามากกว่าการเลือกตั้งในปี 2562 กว่าเท่าตัว
2)เพื่อไทยไม่ชัดเจน กล่าวคือ พรรคเพื่อไทย ไม่มีความชัดเจนว่าจะไม่จับมือกับ 2 ป ภายหลังการเลือกตั้ง โดยระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง มีกระแสข่าวและการคาดการณ์ตลอดว่าพรรคเพื่อไทย อาจจับมือกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ ประเด็นนี้ ทำให้คนที่ต้องการความชัดเจนหันไปเลือกพรรคก้าวไกล
3)อุ๊งอิ๊งค์ ลาคลอด จะเห็นว่าในช่วงแรกนั้น กระแสของพรรคเพื่อไทย นำมาเป็นอันดับที่ 1 แต่เมื่ออุ๊งอิ๊งค์ ลาคลอด ปรากฎว่ากระแสของพรรคก้าวไกล ค่อยๆตีตื้น จนกระแสของพิธา พลิกกลับมานำอุ๊งอิ๊งค์ได้
4)เศรษฐา พูดแต่การเมือง การปราศรัยของนายเศรษฐา ทวีสิน เน้นแต่การเมือง เช่น 8 ปี ประยุทธ์ , ประยุทธ์ พอแล้ว และหลายครั้งที่โจมตีพรรคภูมิใจไทย จนอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ต้องออกมาโต้
ทั้งนี้ เศรษฐา เป็นนักบริหาร เป็นนักธุรกิจ ควรจะพูดในสิ่งที่ตัวเองถนัด และมีประสบการณ์ แต่เมื่อเศรษฐาเลือกที่จะพูดแต่การเมือง จึงทำให้คนไม่สามารถเชื่อได้ว่า เศรษฐา จะเข้ามาแก้ไขปัญหาปากป้องของเขาได้
5)ทักษิณ กลับบ้าน การทวิตของทักษิณว่าจะกลับบ้านในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง นอกจากจะไม่ช่วยอะไรเลย ยังทำให้พรรคเพื่อไทยเสียคะแนนด้วย มิหนำซ้ำในปราศรัยเวทีสุดท้าย อุ๊งอิ๊งค์ ยังย้ำถึงเรื่องทักษัณกลับบ้านอีก จึงทำให้คนอดคิดไม่ได้ว่าพรรคเพื่อไทย หวังแต่เพียงให้ทักษิณกลับบ้านหรือ ยังก้าวไม่ข้ามทักษิณ
6)เพื่อไทยเลียนแบบก้าวไกล หลายปีมานี้เราจะเห็นว่าแคมเปญหลายอย่างของพรรคเพื่อไทยนั้น ตามพรรคก้าวไกล เช่น กิจกรรมเปิดตัวหนังสือในงานสัปดาห์หนังสือ , กิจกรรมเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ , ส.ส.เพื่อไทยบางคนโชว์ว่ามี FC มาให้กำลังใจถึงพรรค เป็นต้น ซึ่งตามอย่างไรก็ไม่ทัน เพราะไม่ใช่เกมที่พรรคเพื่อไทยถนัด
การที่พรรคก้าวไกล ชนะการเลือกตั้ง นับว่าสร้างความตกใจให้แก่หลายฝ่ายเลยทีเดียว เพราะหลายนโยบายของพรรคก้าวไกล เกี่ยวกับการรื้อโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็น ปฏิรูปกองทัพ รื้อทุนผูกขาด ปฏิรูประบบราชการ รวมไปถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด
สิ่งที่ต้องจับตาคือ หากก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจริง แรงกระเพื่อมในสังคมไทย จะเป็นอย่างไร