ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 21-22 ก.ย.2565
จับตาบทบาทของ สุเทพ เทือกสุบรรณ หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยกฟ้องคดีฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพักทดเเทน และโครงการก่อสร้างอาคารที่พัก (แฟลตตำรวจ)
เรื่องที่ 1,417 “สุเทพ” คือผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็นพรรครวมพลัง
เขาถูกมองว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังพรรคการเมืองใหม่ อย่างพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มี พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค
โดยในอนาคตไม่แน่นอน อาจเกิดการรวมกลุ่มกันของพรรครวมพลัง และพรรครวมไทยสร้างชาติ รวมถึงพรรคเล็กๆอื่นๆที่มีแนวความคิดแบบเดียวกัน
เป้าประสงค์เพื่อสร้างขั้วการเมืองใหม่ เพิ่มอำนาจต่อรองให้กับกลุ่มการเมืองนี้ได้มีพลังมากขึ้น
ขั้วการเมืองใหม่นี้ ไม่แน่ วันข้างหน้าอาจสนับสนุน บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หาก พล.อ.ประยุทธ์ สามารถรอดพ้นจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ปม 8 ปี ไปได้
สุเทพ เองรอเวลานี้มานานแล้ว เวลาที่ศาลจะวินิจฉัยให้เขารอดพ้นจากความผิด เพื่อจะได้ออกตัว ขับเคลื่อนการเมืองได้อย่างเต็มภาคภูมิ
เรื่องที่ 1,418 วันนี้มีเรื่องให้ต้องพูดถึงอีกแล้วสำหรับคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เรียกว่าขยันสร้างประเด็น หรือภาษาวัยรุ่นยุคนี้ก็คงต้องบอกว่า “สร้างประเด็นเก่ง” เมื่อล่าสุดได้มีแนวคิดที่จะทำให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ที่มีส่วนผสมเอทานอล 20% เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐาน และจะโละ E85 ออกจากระบบ โดยที่ “พรชัย จิรกุลไพศาล” ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ในฐานะผู้ช่วยเลขา กบน. ระบุว่า ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างศึกษาและหารือกับกรมธุรกิจพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ หากถามว่าศึกษาเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ก็ต้องเรียกว่า จะต้องดำเนินการเพื่อให้ E20 ราคาถูกกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละประมาณ 3 บาท เพื่อเป็นการจูงใจให้คนหันมาใช้ E20 มากขึ้น โดยคาดว่าจะเริ่มทยอยดำเนินการได้ในช่วงเดือน ธ.ค.2565 หรือเดือนม.ค.2566 โดยปัจจุบันราคาขายปลีก E20 และแก๊สโซฮอล์ 95 ต่างกัน 1.11 บาทต่อลิตร ซึ่งการที่ต้องใช้วิธีสร้างความต่างทางด้านราคาก็เพราะเงินในกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีไม่เพียงพอนั่นเอง ยังไงก็เอาช่วยคณะทำงาน กบน. ให้แก้ปัญหาวิกฤตพลังงานผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแล้วกันนะครับผม
เรื่องที่ 1,419 รู้กันแล้วหรือยัง ช่วงปลายเดือนก.ย.นี้ จนถึงต้นเดือนต.ค. ถ้าจะแถลงข่าว หรือมีประชุมด่วนเรื่องใด ถ้าหากต้องการนักข่าวสายกระทรวงการคลังมาช่วยโปรโมท จะหายากสักหน่อย เพราะนักข่าวกลุ่มใหญ่ กลุ่มหนึ่งเดินทางไปยุโรปกับ ธอส.ปลายเดือนนี้ ระหว่างวันที่ 24-29 และอีกกลุ่มหนึ่งก็ไปต่างประเทศเหมือนกัน แต่ไปกับออมสินระหว่างวันที่ 4-9 ต.ค.ตะลุยแดนซากุระ ประเทศญี่ปุ่นครับ!! ซึ่งทั้งหมดนี้ อยู่ภายใต้การต้อนรับของ 2 บิ๊กแบงก์รัฐคือ “ฉัตร-ฉัตรชัย ศิริไล” และ “เต๋-วิทัย รัตนากร” กระทรวงการคลังอาจจะเหงาไปนิดหนึ่ง จึงเรียนมาเพื่อทราบ
เรื่องที่ 1,420 ประเด็นนี้ ไม่อยากคุยโม้ เดี๋ยวจะหาว่า โอ้…อวด แต่ไม่กล่าวถึงเลย ก็กลายเป็นว่าจะตกประเด็นคุยกับคนอื่นไม่สนุก-ไม่มันส์!! ล่าสุด “นายรัก-รักษ์ วรกิจโภคาทร” เอ็มดีเอ็กซิมแบงก์ ขายพันธบัตรเพื่อสิ่งแวดล้อม หรือ Green Bond มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท เพื่อระดมทุนไปใช้สนับสนุนสินเชื่อให้แก่โครงการพลังงานสะอาด หมดเรียบร้อยแล้วครับ
ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นคือ พันธบัตรดังกล่าวจะเป็นวงเงินกู้เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ผลิตสินค้า พลังงานและอื่นๆ โดยไม่มีกระทบกับสิ่งแวดล้อม เป็นเรื่องที่ 1 เรื่องที่ 2 คือ เอ็กซิมแบงก์ เป็นแบงก์รัฐที่พร้อมจะทำงานร่วมกับแบงก์รัฐอีก 6 แห่ง เพื่อออก Green Bond และ 3.ยังเป็นการเตรียมตัวให้ผู้ประกอบการไทยสามารถส่งผลิตภัณฑ์ไปขายได้ทั่วโลกโดยไม่ติดขัดเรื่องสิ่งแวดล้อม
“รักษ์” บอกว่า อีก 3 ปี ครับพี่!! สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อมเอ็กเซ็มแบงก์ จะมียอดสินเชื่อถึง 50% หรือครึ่งหนึ่งของสินเชื่อทั้งหมด 200,000 ล้านบาท ส่วนปีนี้ Green Bond ที่เราระดมทุนมานั้น ปล่อยกู้เฉพาะพลังงานสะอาดก็หมดเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้เกิด 5 ปาฏิหาริย์คือ 1.ครั้งแรกของนวัตกรรมการเงินไทย “ Green Bond” อ้างอิง THOR (อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงใหม่ของ ธปท.) 2.ครั้งแรก ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ออกพันธบัตรระยะยาวอ้างอิง THOR 3.ครั้งแรกของการจัดทำกรอบความยั่งยืนทางการเงิน (Sustainable Finance Framework) 4.ยอดจองทะลุ 2 เท่าของเป้าหมาย มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท และ 5.Rating สูงสุด AAA จาก Fitch Ratings ท่ามกลางดอกเบี้ยขาขึ้นและเศรษฐกิจผันผวน
โชว์ให้เห็นถึง 5 ปาฏิหาริย์ อย่างนี้แล้ว รอบหน้า รมว.คลัง น่าจะให้โจทย์ยากๆ “นายรักษ์” ไปขับเคลื่อนอีก 100-200 เรื่องน่าจะดีที่สุดนะเจ้านาย!!
เรื่องที่ 1,421 ก่อนจากกันล่าสุด ธนาคารกสิกรไทย ควงโฮมโปร ชวนคนไทยรักษ์โลก จัดทำโครงการ GO GREEN Together สนับสนุนให้เกิด Green Ecosystem สู่การเป็น Net Zero ตามเป้าหมายประเทศ เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาโลกร้อน โดยต้องการช่วยให้คนไทยเปลี่ยนเข้าสู่ Green Lifestyle ง่ายขึ้น ด้วยการจับมือกับโฮมโปร พันธมิตรชั้นนำที่มีนโยบายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และรับผิดชอบต่อสังคม สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ธนาคารออกแคมเปญสินเชื่อบ้าน Green Zero ให้ลูกค้าที่ติดตั้งแผงโซลาร์กับโฮมโปร เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังช่วยเจ้าของบ้านประหยัดค่าไฟ โดยให้วงเงินกู้สูงสุด 90% ของราคาประเมินหลักประกัน ผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 3 เดือน และรับเพิ่มคะแนนสะสม K Point 10,000 คะแนน สำหรับลูกค้า 100 ท่านแรกที่จดจำนองหลักประกันภายในระยะเวลาแคมเปญ
โดยนพวัชร์