ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 19-20 ก.ย.2565
จับตาการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พรุ่งนี้ (20 ก.ย.) เพราะจะเป็นการเผชิญหน้ากันครั้งแรก หลังจากที่พรรคภูมิใจไทย ที่นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ถูกหักหน้าจากพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน เมื่อพรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์ จับมือกันโหวตถอนกฎหมายกัญชาออกจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้คณะกรรมาธิการ นำกลับไปทบทวนใหม่
เรื่องที่ 1,411 สัปดาห์ที่ผ่านมาเรื่องนี้มีการโต้เถียงกันอย่างดุเดือด ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย โดยพรรคประชาธิปัตย์ ให้เหตุผล ว่ากฎหมายกัญชานั้น ยังไม่ครอบคลุมประโยชน์ทางการแพทย์ แต่มุ่งหมายใช้เพื่อสันทนาการเป็นส่วนใหญ่
ด้านพรรคภูมิใจไทย ตอบโต้ทันควันว่า พรรคประชาธิปัตย์มุ่งหวังเพียงประโยชน์ทางการเมือง เพราะเป็นที่รู้กันว่า ภูมิใจไทยเองก็หมายมั่น จะชิง ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ให้ได้ ดังนั้น จึงมีการสกัดดาวรุ่ง โดยใช้กฎหมายกัญชาเป็นเครื่องมือ
แน่นอนการประชุม ครม.พรุ่งนี้ บรรยากาศต้องเป็นไปแบบตึงๆ เคร่งเครียด ไม่แน่อาจมีการโต้เถียงกันในที่ประชุม หรือไม่อาจจะมีแสดงออกให้เห็นถึงรอยร้าวของพรรคร่วมรัฐบาล
เพราะไม่กี่วันมานี้ “เสี่ยหนู” ประกาศเองว่า ก็ดีแล้วที่พรรคร่วมรัฐบาลแสดงออกเช่นนี้ เพราะหลังจากนี้ จะได้ไม่ต้องเกรงใจใคร …งานนี้เดือดแน่นอน
เรื่องที่ 1,412 เคยเห็นแต่ภาพปาฐกถาบนเวทีแบบมีพลัง ล่าสุดมาเวอร์ชั่นใหม่สำหรับ “เฮียกวง” อ.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ที่ลงพื้นที่อันดามัน ที่ภูเก็ตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ลงไปถึงย่านเมืองเก่าภูเก็ตพบปะพี่น้อง นักธุรกิจไทยเชื้อสายจีน อดไม่ได้ที่จะโชว์ฝีมือเข้าครัวผัดหมี่ฮกเกี้ยนให้คณะผู้ติดตามได้ชิมฝีมือ ..บอกว่าเมนูนี้ผมถนัด เสร็จแล้วก็โชว์ฝีมือจับกระทะ เขย่าตะหลิว ทะมัดทะแมง จนมีคนให้ฉายา “เฮียกวงควงตะหลิว” ภาพนี้ทางการเมืองได้ซีน สื่อหลายฉบับแคปภาพลงสื่อกันอย่างคึกคัก
เรื่องที่ 1,413 วันนี้ไม่เบี้ยวนัดสำหรับคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ กบน. ซึ่งตามปกติจะมีการประชุมเพื่อทบทวนราคาดีเซลประจำสัปดาห์ และที่ผ่านมาก็มีการเลื่อนจนสื่อมวลชนชินชา และหันไปสนใจข่าวอื่นแทนเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา แต่มาหนนี้ไม่รู้ว่าได้ยินที่ บก.ชวนคุยแซวอยู่บ่อยๆหรือไม่ ผลการประชุมออกมาตามนัดไม่เหมือนทุกครั้ง โดยมติยังคงเป็นไปในรูปแบบเดิมนั่นก็คือการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศไว้ที่ 34.94 บาทต่อลิตร หรือประมาณ 35 บาทต่อลิตร
“พรชัย จิรกุลไพศาล” ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ผู้ช่วยเลขา กบน. ระบุว่า การตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในครั้งนี้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเก็บเงินเข้าในกลุ่มน้ำมันดีเซลลิตรละ 2 บาท เพื่อนำเงินมาเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจะทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีรายรับสุทธิประมาณวันละ 99.37 ล้านบาท แบ่งเป็นรายรับประเภทน้ำมันประมาณวันละ 125.03 ล้านบาท และมีรายจ่ายประเภทก๊าซ LPG ประมาณวันละ 25.66 ล้านบาท
นอกจากนี้ท่านยังบอกอีกด้วยว่า แม้สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะลดลงแต่ยังคงมีความผันผวนจึงต้องมีการพิจารณาเป็นรายสัปดาห์ต่อไป และจะไม่มีการลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลอย่างแน่นอน หากถามถึงสถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็ต้องบอกว่ายังน่าเป็นห่วง เพราะ ณ วันที่ 18 ก.ย. 2565 ยังติดลบ 124,348 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญขีน้ำมันติดลบ 83,002 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 42,346 และเงินเรี่ยไร 1,000 ล้านบาท ชาวดีเซลก็คงต้องชะเง้อคอรอกันต่อไปว่าจะได้ลดราคาบ้างเมื่อไหร่
โดยนพวัชร์