ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 15-16 มิ.ย.2565
ฝ่ายค้านนำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จำนวน 11 คน ประกอบด้วย
เรื่องที่ 1,179 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
ใน 11 คน บิ๊กตู่ โดนข้อหาหนักสุด โดยฝ่ายค้านอ้างว่า ตลอดระยะเวลาร่วม 8 ปีที่บริหารประเทศมาในฐานะนายกรัฐมนตรี ผิดพลาดล้มเหลว ไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับประเทศ ไม่สามารถสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและความอยู่ดีกินดีให้กับประชาชนได้เลย ในทางตรงกันข้ามกลับกลายเป็นต้นตอที่ทำให้ปัญหาที่มีอยู่มีความซับซ้อน ขยาย วงกว้างและรุนแรงยิ่งขึ้นทั้งปัญหาด้านเศรษฐกิจ การเมือง อาชญากรรม ยาเสพติด การทุจริตคอรัปชั่น ประชาชนในชาติแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายขยายวงกว้างขึ้นมากกว่าเดิม
ฝ่ายค้าน ยังอัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไร้ภูมิปัญญา ไร้องค์ความรู้ ไร้ความสามารถ ไร้ประสิทธิภาพ ไร้จิตสำนึกรับผิดชอบ ขาดภาวะความเป็นผู้นำที่จะ เป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นผู้นำที่พิการทางความคิด ยึดติดแต่อำนาจ
เรื่องที่ 1,180 มีโอกาสได้พูดคุยกับนักวิเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องค่าการกลั่นน้ำมันในประเทศไทยที่กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในสังคม เพื่อให้ได้ข้อมูลครบรอบด้านเกี่ยวกับเรื่องนี้ ต้องเอาให้รู้ว่าแพงจริงไหม การคำนวณแบบของใครที่ถูกต้อง “จักรพงศ์ เชวงศรี” ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่าค่าการกลั่นของไทยสูงจริง อยู่ที่ระดับประมาณ 5 บาท แต่เพิ่งสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 2 เท่านั้น ก่อนหน้านี้ก็อยู่ในระดับต่ำไม่ถึง 1 บาทจากสถานการณ์โควิดที่คนใช้น้ำมันน้อย ตามความต้องการซื้อ ขายในแต่ละช่วงเวลา
หากฟังข้อมูลแบบนี้ก็จะตรงกับที่ทางกระทรวงพลังงานออกมาให้ข้อมูล แต่ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามก็คือเรื่องของการแทรกแซงค่าการกลั่น ซึ่งถ้าไปไปตามที่ “จักรพงศ์” บอกให้ฟังดูแล้วรัฐบาลจะแก้ปัญหาเก่า แต่จะเพิ่มปัญหาที่ใหญ่กว่ามาให้ประเทศ เพราะถ้าไปกดราคาค่ากลั่นให้ต่ำ โรงกลั่นก็จะเลือกส่งออกน้ำมันไปขายที่สิงคโปร์ที่ได้ราคาดีกว่า และค่าขนส่งไม่แพงทั้งหมดแทนการขายในประเทศ เมื่อเป็นเช่นนั้นไทยก็จะไม่มีน้ำมันบริโภค
ส่วนถ้าจะเอาแต่ใจเพิ่มไปอีกห้ามไม่ให้ส่งออกปริมาณน้ำมันในประเทศก็จะล้นเกินความต้องการ และจะมีปัญหาที่ถังเก็บน้ำมันซึ่งจะมีไม่เพียงพออีก เห็นแบบนี้แล้วรัฐบาลคงต้องชั่งใจให้ดีในการเลือกออกมาตรการเสียแล้วล่ะขอรับเจ้านาย
โดยนพวัชร์