ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 5-6 เม.ย.2565
“มิคาอิล มิชูสติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ประกาศว่า รัสเซียจะกลับมาเปิดเส้นทางบินสำหรับ 52 ประเทศตั้งแต่วันที่ 9 เม.ยนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้สั่งปิดไปเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ”
เรื่องที่ 981 ประเด็นนี้ ถือเป็นข่าวดียิ่งสำหรับประเทศไทย เพราะ 1 ในรายชื่อ 52 ประเทศ ที่รัสเซียจะกลับมาเปิดเส้นทางบินนั้น มีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย และประเทศอื่นๆ อีก 51 ประกอบด้วย แอลจีเรีย อาร์เจนตินา อัฟกานิสถาน บาห์เรน บอสเนียและเฮอร์เซโกวินา บอตสวานา บราซิล เวเนซุเอลา เวียดนาม ฮ่องกง อียิปต์ ซิมบับเว อิสราเอล อินเดีย อินโดนีเซีย จอร์แดน อิรัก เคนยา จีน เกาหลีเหนือ คอสตาริกา คูเวต เลบานอน เลโซโท มอริเชียส มาดากัสการ์ มาเลเซีย มัลดีฟส์ โมรอกโก โมซัมบิก มอลโดวา มองโกเลีย เมียนมา นามิเบีย โอมาน ปากีสถาน เปรู ซาอุดีอาระเบีย เซเชลส์ เซอร์เบีย ซีเรีย แทนซาเนีย ตูนิเซีย ตุรกี อุรุกวัย ฟิจิ ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา เอธิโอเปีย แอฟริกาใต้ และจาเมกา
ประกอบด้วยช่วงนี้ ยังเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่ต่อเนื่องมาจากปลายปีที่แล้ว ก่อนที่จะเข้าฤดูฝนอย่างเป็นทางการ ท้องทะเลสวยๆ อากาศอบอุ่นกำลังดี และอาหารทะเลอร่อยๆ รอนักท่องเที่ยวอยู่นะจ๊ะ
เรื่องที่ 982 มีเรื่องวุ่นๆเกิดขึ้นระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 5 เม.ย. เมื่อเข้าสู่วาระพิจารณาการขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ
โดย “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” รมช.เกษตรและสหกรณ์ จากพรรคภูมิใจไทย ได้แสดงความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวว่า ร้านค้าไม่ให้ถุงพลาสติกกับประชาชนที่มาซื้อของ แต่กลับเอามาขาย ถือเป็นการเอาเปรียบประชาชน
“มนัญญา” จึงกล่าวว่า ขอฝากไปถึง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะช่วยแก้ปัญหาอย่างไร นั่นทำให้ “วราวุธ ศิลปะอาชา” รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถึงกับหวุดหวิด ลุกขึ้นสวนทันทีว่า ไม่เกี่ยวกับกระทรวง เพราะดูแค่นโยบายลดการใช้พลาสติก ส่วนการขายเป็นเรื่องของร้านค้า ขออย่าพูดพาดพิง และอย่าพูดเพื่อเอามัน
ขณะที่ “มนัญญา” ยังไม่ยอม พร้อมโต้กลับว่า การพูดแบบนี้ไม่รับผิดชอบ
ทั้งคู่เถียงกันไปมาอยู่พอสมควร ประธานที่ประชุม “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ทนไม่ไหวเตือนทั้งคู่ว่า “พอแล้ว ไปเถียงกันข้างนอก”
อย่างไรก็ตาม ในภายหลัง “วราวุธ” ได้ขอโทษ “มนัญญา” เพราะอาวุโสกว่า
เรื่องที่ 983 วันนี้ (5 เม.ย.) มีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ,สมาคมธนาคารไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งมี “สุพันธุ์ มงคลสุธี” นั่งเป็นประ ธานการประชุมครั้งสุดท้าย เพราะกำลังจะหมดวาระในการเป็นประธาน ส.อ.ท. โดยประเด็นสำคัญหลังการประชุมก็คือการปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจ หรือจีดีพีไทยปีนี้ลงอีกครั้งเหลือ 2.5% ถึง 4% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.5-4.5% ขณะที่กรอบเงินเฟ้อถูกปรับขึ้นไปอีกถึง 3.5% ถึง 5.5% จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2.0-3.0% ซึ่งผลกระทบก็มาจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อและยังมีความรุนแรง ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกมีแนวโน้มทะยานสูงขึ้น และทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มลดลง ประเด็นปัญหาเหล่านี้กระทบชิ่งมาถึงประเทศไทยนี่แหละครับผม
แต่ต้องบอกว่าสิ่งที่เป็นไฮไลท์ที่ บก.ชวนคุย แอบจับสังเกตุอยู่ลับๆคนเดียวก็คือ ข้อเสนอต่อภาครัฐที่ กกร. จะนำเสนอ โดยประเด็นรอบนี้ก็คือข้อเสนอที่จะนำส่งขึ้นไปยังรัฐบาลนั้นน้อยข้อมากๆ และเป็นข้อเสนอที่เบาแสนเบา แตกต่างจากทุกครั้งที่ข้อเสนอถึงขั้นทำให้ร้องเสียงสูงได้ตลอด เพราะแต่ละโครงการต้องใช้เงินจำนวนมาก และเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ผิดกับครั้งนี้ริบรับ ที่โดยเด่นๆ ก็แค่ให้ต่ออายุโครงการคนละครึ่ง และเราเที่ยวด้วยกันเท่านั้น ก็ไม่อยากจะคิดไปถึงขั้นที่ว่าคุณพี่สุพันธุ์ แอบน้อยใจรัฐบาลหรือเปล่าที่ไม่เคยเหลียวแลข้อเสนอของแกเลย หรือแค่จะหมดวาระแล้ว เลยเอาแค่เบาะๆ ก็พอแล้ว
เรื่องที่ 984 ทิ้งท้าย เพื่อนต่างวัย และคนรักสมุย แนะบก.ชวนคุย ส่งข้อความถึง “เต๋-วิทัย รัตนากร” ผู้อำนวยการธนาคารออมสินว่า อย่าลืมลูกค้าที่สมุยนะ เพราะปีที่แล้ว ธนาคารออมสินทำไว้ดีมากในโครงการช่วยเหลือสังคม มีประชาชนหาบเร่แผงลอยไปจนถึงผู้ประกอบรายใหญ่ที่ทำธุรกิจด้านท่องเที่ยวได้รับความช่วยจากธนาคารออมสินแบบจริงใจ 100%
มาถึงปีนี้ คนรักสมุย บอกตรงๆ ขอให้ “ท่านเต๋” ทำโครงการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจบนเกาะสมุยอีกรอบ เพราะขณะนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เคยหดหายไป แถบจะเป็น 0% ปีที่แล้ว ปีนี้ ตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคัก ยอดจองโรงแรมที่เปิดให้บริการมีนักท่องเที่ยวเข้ามาพัก 40-50% แล้วครับ
ถ้าธนาคารออมสินยอมขยับอีกนิด ไม่สนเสียงนก เสียงกา ยอมปล่อยสินเชื่อเพื่อดำเนินธุรกิจใหม่หรือ Restart ไฟเขียวนำเงินกู้ไปปรับปรุงอาคาร หรือซื้ออุปกรณ์เครื่องมือเครื่องไม้ โรงแรมที่หยุดพักหรือปิดกิจการไปก่อนหน้านี้ก็พร้อมเปิดให้บริการอีกครั้ง รวมไปถึงรายเล็ก รายย่อย ร้านค้าและร้านอาหาร จะได้มองเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ อีกครั้ง เมื่อถึงเวลานั้น รับรองว่า ธนาคารออมสินจะไปนั่งอยู่กลางใจคนสมุยทุกคนครับ!!
โดยนพวัชร์