มาเลย์จะเป็นประเทศรายได้สูงใน 2 ปี
กัวลาลัมเปอร์ – เมื่อวันที่ 11 ก.ค.นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดคาดการณ์ว่ามาเลเซียจะขยับสถานะขึ้นเป็นประเทศรายได้สูงได้ในปี 2564 หลังจากระบุว่าประเทศมาเลเซียในตอนนี้มีการจ้างงานเต็มอัตรา
โดยผู้นำมาเลเซียระบุในสภาว่า อัตราการว่างงานในมาเลเซียอยู่ที่ 3.3% ในปีที่แล้ว และนี่เป็นประสิทธิภาพของการจ้างงานเต็มอัตรา
“ จากการให้คำนิยามขององค์การความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ในปี 2542 ประเทศที่มีอัตราการว่างงานต่ำกว่า 4% จะถูกจัดว่าเป็นประเทศที่มีการจ้างงานเต็มอัตรา”
เพื่อช่วยเหลือประชาชน รัฐบาลได้มีการริเริ่มโครงการที่หลากหลาย ทั้งการสร้างช่องทางการรับสมัครงาน JobsMalaysia ซึ่งช่วยให้คนมีงานทำถึง 3,890 คนในระหว่างเดือนม.ค. – มี.ค.ปีนี้
“ รัฐบาลจะปรับปรุงพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องและช่วยให้คนมีงานทำ ลดอัตราการว่างงานในประเทศ ” ผู้นำมาเลเซียกล่าว
ในการพูดในงานแถลงนโยบายใหม่เพื่อผู้ประกอบการในประเทศ นายกฯมหาเธร์อ้างถึงรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ระบุว่ามาเลเซียสามารถเลื่อนสถานะขึ้นเป็นประเทศรายได้สูงได้ภายใน 2 ปี
“ จากการประเมินในปัจจุบัน มาเลเซียจะเป็นประเทศรายได้สูงในปี 2564 – 2565 ” นายกฯมหาเธร์อ้างถึงรายงานล่าสุด
โดยเขาชี้ว่า รายงาน World Economic Outlook ประจำปี 2562 ของ IMF เปิดเผยว่ามาเลเซียมีแนวโน้มเชิงบวก และคาดการณ์ว่ารายได้ประชากรต่อหัวจะเพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ 10 ก.ค. นายกฯมหาเธร์ชี้แจงว่า มาเลเซียไม่มีแรงกดดันด้านปัญหาการเงินอีกต่อไป เนื่องจากประเด็นหนี้ประเทศได้มีการดำเนินการแก้ไขแล้ว โดยเขาระบุว่าจะใช้เวลาประมาณ 10 – 15 ปีสำหรับมาเลเซีย “ ในการฟื้นตัวขึ้นมาเป็นเสือของเอเชียอีกครั้ง”
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. นายกฯมหาเธร์ยังระบุว่า จากรายงานสำรวจกำลังแรงงานโดยสำนักงานสถิติ อัตราการว่างงานของคนหนุ่มสาวอยู่ที่ 10.9% ในปี 2561
โดยเขากระตุ้นว่า คนรุ่นใหม่ต้องพัฒนาคุณภาพและแนวคิดส่วนบุคคลเพื่อช่วยให้ตรงกับความต้องการของนายจ้าง
นายกฯมหาเธร์ยังชี้ว่า ตัวเลขการว่างงานของคนหนุ่มสาวในวัย 15 – 24 ปี เป็นปรากฎการณ์ปกติที่ประเทศกำลังพัฒนาและประเทศพัฒนาแล้วในโลกต้องเจอ รวมทั้งมาเลเซีย
เขากล่าวว่านี่เป็นเพราะคนในวัยนี้อยู่ในกระบวนการปรับเปลี่ยนจากบรรยากาศการศึกษาเข้าสู่ความจริงในตลาดงาน.