มาเลย์จับผู้ต้องสงสัยเป็นผู้นำอาบูไซยาฟ
ตำรวจมาเลเซียจับกุมผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้นำกลุ่มติดอาวุธอาบู ไซยาฟและสมาชิกอีก 7 รายซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายจากรัฐอิสลามในกรุงกัวลาลัมเปอร์ อ้างอิงจากการเปิดเผยของแหล่งข่าวของตำรวจเมื่อวันที่ 3 ก.ย.
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายฮาจาร์ อับดุล มูบิน หรือที่รู้จักกันในชื่ออาบู อไรส์ จากการจู่โจมเมื่อวันที่ 30 ส.ค. อ้างอิงจากแหล่งข่าวซึ่งมีหน้าที่ในการแถลงกับสื่อเกี่ยวกับกรณีนี้
นายฮาจาร์ ซึ่งเป็นชาวฟิลิปปินส์ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมพร้อมกับสมาชิกกลุ่มซึ่งเป็นชาวฟิลิปปินส์อีกหนึ่งคนและชาวมาเลเซีย 6 คนจากเกาะบอร์เนียว รัฐซาบะห์ ซึ่งมีพรมแดนทางทะเลร่วมกับฟิลิปปินส์
ข่าวการจับกุมตัวได้รับการรายงานครั้งแรกจากหนังสือพิมพ์เดอะ สตาร์ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันภาคภาษาอังกฤษ
เชื่อว่านายอาบู อไรส์ วัย 25 ปีเป็นสมาชิกกลุ่มลัคกี้ 9 ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธจับตัวประกันเรียกค่าไถ่ที่มีฐานที่มั่นอยู่ที่โจโล กลุ่มก่อการร้ายนี้มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาบู ไซยาฟทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ส่วนชาวมาเลเซียเชื่อว่ามาจากเมืองซันดากัน และทำงานอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ อ้างอิงจากรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะสตาร์
โดยทางแหล่งข่าวของเดอะสตาร์ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยบางคนเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและสมาชิกกลุ่มจิตอาสาพลเมือง หรือ RELA
อาบู อไรส์ที่มาจากเกาะบาสิลันเริ่มเคลื่อนไหวเข้ามาที่มาเลเซียในปี 2558 หลังจากมีการประชุมกับกลุ่มก่อการร้ายอิสลามในมาเลเซีย แหล่งข่าวระบุ
ทั้งนี้ กลุ่มติดอาวุธอาบู ไซยาฟเป็นที่รู้จักจากการก่อเหตุร้ายที่มีความรุนแรงสะเทือนขวัญมานานหลายปีจากการวางระเบิด ตัดศีรษะ ข่มขู่รีดไถ และจับตัวประกันเรียกค่าไถ่ทางใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมัน แคธอลิก
การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งล่าสุดของปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธของมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง มีผู้ถูกจับกุมแล้วมากกว่า 250 รายในช่วงระหว่างปี 2556-2559 โดยเป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายจากรัฐอิสลามหรือไอเอส
รัฐบาลในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างกังวลเกี่ยวกับการแผ่ขยายอิทธิพลของกลุ่มก่อการร้ายไอเอสเข้ามาในภูมิภาคนี้ หลังจากมรายงานว่าทางกลุ่มพ่ายแพ้และล่มสลายในตะวันออกกลางและมีสมาชิกบางส่วนทยอยกลับประเทศบ้านเกิด
ทั้งนี้ กลุ่มติดอาวุธซึ่งสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มก่อการร้ายไอเอสได้เข้ายึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองมาราวี ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์เมื่อเดือนพ.ค. มีรายงานว่ากลุ่มติดอาวุธ 620 คน ทหารและตำรวจ 136 นายและพลเมือง 45 คนเสียชีวิตในการต่อสู้ที่ยาวนานกว่า 100 วัน.