อินโดฯ ซื้อข้าวสาลีสหรัฐฯ เพิ่ม ก่อนเส้นตายภาษีทรัมป์

อินโดนิเซียประเทศผู้ซื้อข้าวสาลีรายใหญ่อันดับสองของโลก วางแผนซื้อข้าวสาลีจากสหรัฐอเมริกาเพิ่มมากขึ้น โดยหวังใช้เป็นข้อต่อรองในการบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ขณะที่เส้นตายในการเรียกเก็บภาษีศุลกากรกำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เปิดเผยกับสื่อมวลชนในวันอาทิตย์ (6 ก.ค.) ว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศในเดือนเม.ย.นั้น จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. สำหรับประเทศที่ยังไม่บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ
ฟรานซิสซัส เวลิรัง ประธานสมาคมโรงโม่แป้งแห่งอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า อินโดนีเซียจะลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการซื้อข้าวสาลีระหว่างปี 2568-2573 กับสหรัฐฯ ณ กรุงจาการ์ตา ในวันนี้ (7 ก.ค.) โดยอินโดนีเซียจะซื้อข้าวสาลีจากสหรัฐฯ อย่างน้อย 800,000 ตันในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 740,000 ตันในปี 2567 จากนั้นจะซื้ออย่างน้อย 1 ล้านตันต่อปีตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป
ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ระบุว่า ครั้งหลังสุดที่สหรัฐฯ ขายข้าวสาลีให้อินโดนีเซียเกิน 1 ล้านตันคือเมื่อปี 2563 โดยในปีนั้นสหรัฐฯ ขายข้าวสาลีให้อินโดนีเซียได้ราว 1.2 ล้านตัน
แม้ว่าอินโดนีเซียเตรียมซื้อข้าวสาลีจากสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น แต่ก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวของยอดซื้อข้าวสาลีทั้งหมด โดย USDA ประมาณการว่าอินโดนีเซียนำเข้าข้าวสาลีราว 12 ล้านตันในฤดูกาล 2568-2569
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ครม. ไฟเขียว “ไทย-อินโดฯ-มาเลย์” ดันราคาน้ำมันปาล์ม