มลพิษกระทบทางเหนือของจีนอย่างรุนแรง
มลพิษทางอากาศในตอนเหนือของจีน รวมถึงเมืองหลวงอย่างกรุงปักกิ่งอยู่ในระดับอันตรายสูงสุดต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 4 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. โดยสาเหตุสำคัญคืออุตสาหกรรมการผลิตถ่านหิน
เนื่องจากจีนเป็นผู้บริโภคถ่านหินมากที่สุดในโลก กรุงปักกิ่งได้ประกาศสงครามกับมลพิษตั้งแต่ปี 2557 แต่ยังคงเป็นเรื่องยากในการพยายามปรับปรุงคุณภาพของอากาศให้ดีขึ้น หลังจากจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดดมาตลอดหลายทศวรรษ
“ จีนมีกระบวนการที่จะปรับปรุงคุณภาพอากาศในปี 2557 และ 2558 หลังจากมีการเสนอแผนมลพิษทางอากาศแห่งชาติที่จะลดการบริโภคถ่านหินลง แต่โชคไม่ดีที่ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาในปีนี้ นโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลมีการปรับเปลี่ยนมากระตุ้นอุตสาหกรรมหนักที่ส่งผลกระทบต่ออากาศของกรุงปักกิ่ง ” ลอรี มิลลิเวอร์ตา นักเคลื่อนไหวอาวุโสแคมเปญถ่านหินทั่วโลกจากกลุ่มกรีนพีซกล่าว
โดยมิลลิเวอร์ตากล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา เนื่องจากประชากร 460 ล้านคนของจีนต้องประสบกับอากาศพิษอย่างรุนแรงจากหมอกควันของโรงไฟฟ้าถ่านหิน
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ของกระทรวงสิ่งแวดล้อมของจีนประกาศเตือนภัยมลพิษทางอากาศในระดับสีแดง ใน 24 เมืองทางเหนือของจีน และยังไม่มีการอัพเดทข้อมูลล่าสุดแต่อย่างใดในวันที่ 20 ธ.ค.
ทั้งนี้ มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาสำคัญทั้งทางสังคมและการเมืองของรัฐบาลจีน เนื่องจากการขยายตัวทางอุตสาหกรรมใน 30 ปีที่ผ่านมาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของปัญหานี้
แต่จีนกำลังพยายามเปลี่ยนไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่เน้นการบริโภค และทางภาครัฐมุ่งลดปริมาณการผลิตของอุตสาหกรรมหนักที่มากเกินต้องการ โดยการปิดโรงงานขนาดเล็ก แต่จำนวนงานและโอกาสทางธุรกิจที่หายไปก่อให้เกิดสถานการณ์ความไม่สงบทางสังคม
การผลิตถ่านหินของจีนลดลง 10.7% จากปี 2558 ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ อ้างอิงจากรายงานของ Goldman Sachs เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น และราคาที่เพิ่มขึ้นทำให้รัฐบาลต้องกลับมาเพิ่ม
ปริมาณการผลิตอีกเป็นการชั่วคราว เพื่อช่วยโรงงานผลิตเหล็กที่ต้องประสบปัญหาถ่านหินราคาแพงขึ้น และยังเป็นการเพิ่มอุปทานให้กับโรงงานและระบบทำความร้อนในช่วงฤดูหนาว ซึ่งทำให้การผลิตถ่านหินเพิ่มขึ้น 9% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบกับเดือนต.ค. อ้างอิงจากสถิติของภาครัฐ
ทั้งนี้ กระทรวงสิ่งแวดล้อมของจีนได้ยกระดับการปฏิบัติงานเป็นภาวะฉุกเฉินเพื่อรับมือกับสถานการณ์มลพิษที่พุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วครั้งนี้ แต่โรงไฟฟ้าและผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ในพื้นที่ยังไม่ได้ลดปริมาณการผลิตลงตามที่กำหนดไว้ อ้างอิงจากเว็บไซต์ของกระทรวง
โดยสถานการณ์คุณภาพอากาศที่ร้ายแรงในขณะนี้ในบางเมือง ทำให้ต้องมีการประกาศยกเลิกเที่ยวบิน และปิดโรงเรียน อ้างอิงจากการรายงานของสื่อท้องถิ่น.
