ค้าปลีกจีนโตครั้งแรกในปีนี้
ปักกิ่ง – ผู้บริโภคชาวจีนมีการใช้จ่ายมากขึ้นในเดือนส.ค. ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจของประเทศมีการฟื้นตัวขึ้นจากภาวะชะงักงันที่เกิดจากโรคระบาดโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา
โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ว่า ตัวเลขค้าปลีกในเดือนส.ค.เติบโตขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน นับเป็นครั้งแรกที่รายงานมีตัวเลขเป็นบวกสำหรับปี 2563 นี้ ที่เห็นได้ชัดเจนคือ ยอดขายอุปกรณ์สื่อสารที่เติบโตถึง 25.1% จากปีก่อน และยอดขายรถยนต์เติบโต 11.8%
ยอดค้าปลีกสำหรับช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ปรับลดลง 8.6% จากปีก่อน จากรายงานของสำนักงานสถิติ ขณะที่ยอดค้าปลีกออนไลน์ของสินค้าจับต้องได้เติบโตถึง 15.8% ในช่วงเวลาเหล่านี้ อ้างอิงจากข้อมูล
อัตราการว่างงานซึ่งจัดทำจากผลสำรวจในหลายเมืองของทางการอยู่ที่ 5.6% ต่ำกว่าเดือนก.ค.ถึง 0.1% จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติ
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ฝูหลิงฮุ่ย โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุในการแถลงข่าวว่า อย่างไรก็ตาม แรงกดดันที่มีผลต่อการจ้างงานยังคงสูงอยู่
โดยโฆษกฝูชี้ให้เห็นถึงข้อมูลว่า นักศึกษาที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีในปีนี้ถึง 8.74 ล้านคนยังคงหางานได้ยาก
ฝูระบุว่า ตัวเลขการว่างงาน ในเดือนส.ค. สำหรับคนอายุ 20 – 24 ปี ที่จบการศึกษาขั้นต่ำคือปริญญาตรี โดยเฉพาะนักศึกษาจบใหม่ สูงกว่าเดือนเดียวกันของปีที่แล้วถึง 5.4% โดยตัวเลขยังสูงกว่า 3.3% ในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ ตัวเลขการผลิตเพื่ออุตสาหกรรมยังเติบโตถึง 5.6% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อน
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ลดลง 0.3% สำหรับช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าตัวเลขในเดือนส.ค.เป็นอย่างไร
“ ข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดการณ์ในเดือนส.ค. ช่วยส่งเสริมการตัดสินใจในปัจจุบันเพื่อปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การเติบโตในไตรมาส 3 และ 4 เป็น 5.2% และ 5.7% ตามลำดับ” อ้างอิงจากรายงานของถิงลู่ หัวหนัานักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารโนมูระ “อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความท้าทายจากดีมานด์ที่อาจผันผวน การส่งออกเวชภัณฑ์อาจเติบโตถึงจุดพีค รัฐบาลจีนกำหนดให้ตลาดอสังหาฯลดความร้อนแรงลง มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในจีนมีแนวโน้มจะขยายเวลา และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนอาจส่งผลกระทบกับการส่งออกและการลงทุนด้านการผลิตของจีน”