คลินตันชนะใจประชาชนมากกว่าทรัมป์ 2 ล้านคน
นางฮิลลารี คลินตัน ชนะป๊อบปูลาร์โหวต หรือการที่ประชาชนลงคะแนนเสียงให้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ผ่านมาโดยนำนายโดนัลด์ ทรัมป์ถึง 2 ล้านเสียง
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่จากพรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้งด้วยการได้เสียงส่วนใหญ่จากคณะเลือกตั้ง หรือ electoral college votes และจะเข้ารับตำแหน่งในเดือน ม.ค.ปี 2560
แต่ยังมีการนับคะแนนเสียงอยู่ แม้จะผ่านการเลือกตั้งมานาน 2 สัปดาห์แล้วก็ตาม อ้างอิงจากข้อมูลของ Cook Political Report คะแนนที่ได้จากเสียงของประชาชนของนายทรัมป์อยู่ที่ 62.2 ล้านเสียง ในขณะที่นางคลินตันได้ไปถึง 64.2 ล้านเสียง
นับเป็นครั้งที่ 5 แล้วที่ผู้ชนะคะแนนป๊อบปูลาร์โหวตต้องพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
โดยเมื่อปี 2543 นายอัล กอร์ ซึ่งเป็นตัวแทนลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรเดโมแครตต้องพ่ายแพ้ให้กับนายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ทั้งที่เขาชนะป๊อบปูลาร์โหวตเกือบ 544,000 คะแนนเสียง ทางพรรคเดโมแครตประท้วงขอให้มีการนับคะแนนใหม่ จนในที่สุด ศาลสูงสูดของสหรัฐฯ ก็พิพากษาตัดสินให้นายบุชชนะการเลือกตั้งด้วยผลคะแนนในรัฐฟลอริดา
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ นางคลินตันสามารถกวาดชัยชนะในรัฐใหญ่ๆ ได้ เช่น รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่นายทรัมป์กลับสามารถเอาชนะได้ในรัฐ ‘สวิงสเตท’ หรือรัฐที่คะแนนแกว่งไปมา คือประชาชนในรัฐยังไม่ตัดสินใจที่จะเลือกใครจนกระทั่งวันเลือกตั้ง ซึ่งกลายเป็นรัฐที่ตัดสินผลแพ้ชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
ทั้งนี้ ระบบคณะเลือกตั้งของสหรัฐฯ จะส่งผลดีกับผู้สมัครที่ชนะแบบเฉียดฉิวในหลายรัฐ มากกว่าผู้สมัครที่ชนะอย่างถล่มทลายในไม่กี่รัฐ
กลุ่มนักวิชาการ นักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลพยายามโน้มน้าวให้ทีมทำงานของคลินตันสืบสวนผลคะแนนใน 3 รัฐที่ก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยว่า ระบบคอมพิวเตอร์ประมวลผลคะแนนอาจมีการขัดข้องหรือถูกแฮ็ก แต่ดูเหมือนว่าทีมคลินตันจะไม่มีท่าทีที่จะต่อสู้เพื่อให้มีการนับคะแนนใหม่แต่อย่างใด
จิล สไตน์ ตัวแทนจากพรรคกรีนกำลังระดมทุนเพื่อเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ในรัฐที่มีปัญหาอย่างรัฐมิชิแกน วิสคอนซิน และเพนซิลวาเนีย ซึ่งนายทรัมป์ชนะไปทั้งหมด
ขณะเดียวกัน นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้เผยแพร่ข้อความสำหรับวันขอบคุณพระเจ้า โดยเขากล่าวว่า จะเร่งให้ประเทศเดินหน้าเพื่อสร้างสรรค์ประเทศขึ้นมาใหม่และเยียวยาความบอบช้ำและขื่นขมของการเลือกตั้ง
“ อารมณ์เป็นเรื่องยาก และความตึงเครียดคงไม่อาจหายได้ชั่วข้ามคืน ” นายทรัมป์กล่าว
“ โชคไม่ดีที่ผลการเลือกตั้งยังไม่ผ่านไปเร็วนัก แต่ต่อหน้าเราคือโอกาสที่จะทำให้ประวัติศาสตร์ของประเทศนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างแท้จริง ความปลอดภัยที่แท้จริงต่อเมืองของเรา และความมั่งคั่งที่แท้จริงสู่ประชาคมของเรา ”
เมื่อวันที่ 23 พ.ย. นายทรัมป์ได้แต่งตั้ง นิคกี้ เฮลีย์ เป็นทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ และ เบทซีย์ เดอวอส เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่.