เด็มโก้ เล็งขยายธุรกิจโรงไฟฟ้า CLMV
DEMCO ยอมรับปี 62 รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายพิเศษโครงการห้วยบง คาดซ่อมฐานกังหันเสร็จใน Q2-Q3/62 หนุนธุรกิจกลับสู่โหมดปกติ
นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เด็มโก้ (DEMCO) ยอมรับว่าแนวโน้มธุรกิจในปี 2562 จะยังคงได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายพิเศษในส่วนของค่าเสียโอกาสการขายไฟฟ้าจากการหยุดปรับปรุงฐานกังหัน (Loss of production) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมห้วยบง
สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯยังคงเดินหน้าซ่อมฐานกังหันลม โครงการห้วยบง 2 และห้วยบง 3 ในส่วนที่เหลือ 26 ต้น ตามแผน หลังจากเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาสามารถเข้าไปดำเนินการปรับปรุงฐานกังหันลม ซึ่งมั่นใจว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 หรือในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ส่งผลให้ธุรกิจของบริษัทฯ เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
“การที่เราสามารถเข้าไปปรับปรุงฐานกังหันลม ในส่วนที่เหลือ ถือเป็นการปลดล็อกปัญหาที่กินเวลามานาน ทำให้ธุรกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยปัจจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 2,646 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้มากกว่า 90 % และอยู่ระหว่างเข้าประมูลงานใหม่อีก 10,000 ล้านบาท เป็นงานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้า และสถานีไฟฟ้าย่อยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)”
นอกจากนี้ ยังมีงานย้ายสายไฟฟ้าลงใต้ดินในกลุ่มหัวเมืองใหญ่ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รวมถึงงานวางสายโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติคในโครงการวางท่อก๊าซ
ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังมีแผนขยายธุรกิจไปยังประเทศ CLMV มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันหลายประเทศมีการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก ถือเป็นโอกาสในการเข้าไปบุกตลาด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้รับงานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้า และสถานีไฟฟ้าย่อยมาแล้ว
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2561 มีรายได้รวม 4,151.37 ล้านมีกำไรสุทธิ 148.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.01 ล้านบาท หรือ 126.58 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 65.59 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากงานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)