ยอดขายโค้กลดลงอย่างต่อเนื่อง
ยอดขายโคคา-โคล่าทั่วโลกลดลง 7% ในไตรมาสสิ้นสุดเดือนก.ย. เนื่องจากผู้บริโภคลดความนิยมในน้ำอัดลมลงเรื่อยๆ
รายได้ที่ลดลงเหลือ 10,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นรายได้ที่ลดลงต่อเนื่องกันเป็นไตรมาสที่ 6 ของบริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โดยบริษัทมียอดขายลดลง 4% ในภูมิภาคละตินอเมริกาและยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ในขณะที่ยอดขายในอเมริกาเหนือมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 3% และในเอเชียมีการเติบโต 4%
ยอดขายน้ำดื่มธรรมดาและเครื่องดื่มเพิ่มพลังงานช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทด้วยการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 3%
ทั้งนี้ รายได้สุทธิลดดิ่งลงถึง 28% มาอยู่ที่ 1,050 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสนี้
อย่างไรก็ตาม ทั้งรายได้และผลกำไรยังคงสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ช่วยผลักดันให้หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบ 1% ในนิวยอร์กไปอยู่ที่ 42.88 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น
ปริมาณการขายน้ำอัดลม เช่น สไปรท์ แฟนต้า และโค้ก ซีโร่ ช่วยหนุนให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 3% เป็น 2,660 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในอเมริกาเหนือ ขณะที่ยอดขายไดเอ็ทโค้กปรับลดลง
โดยยอดขายเครื่องดื่มไม่อัดลม เช่น ชาเย็น น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มเพิ่มพลังงานปรับเพิ่มขึ้น 2% ในตลาดอเมริกาเหนือ
ทั้งนี้ การเปิดตัวโค้ก ซีโร่ ชูการ์ ซึ่งมาแทนโค้กซีโร่ในสหราชอาณาจักร ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นตัว เลข 2 หลัก
ยุทธศาสตร์ใหม่ของบริษัทคือการใช้ ‘แบรนด์เดียว’ ทำให้โค้ก โค้กซีโร่ ไดเอ็ทโค้ก และ โค้กไลฟ์มีอัตลักษณ์ที่เหมือนกัน และได้แนะนำสู่ 12 ตลาดชั้นนำแล้ว
นายเจมส์ ควินซีย์ ประธานและซีอีโอบริษัทโคคา-โคล่า กล่าวในการประชุมเดือนก.ย.ว่า จะเริ่มเปิดตัวแคมเปญการตลาดทั่วโลกใหม่ ในชื่อ Taste the Feeling ในเร็วๆ นี้ เพื่อกระตุ้นยอดขาย
“ เรายังตระหนักได้ถึงยอดค้าปลีกโค้กที่มีการเติบโตและการขยายตัวในภาพรวม เราเชื่อว่าแผนการตลาดใหม่จะช่วยผลักดันให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้ นี่เป็นธุรกิจที่ยิ่งใหญ่มาก และธุรกิจของโค้กจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงชั่วข้ามคืนอย่างแน่นอน ” เขากล่าว
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 34.84 บาท / 26 ต.ค. 2559