เฟดชี้อาจขึ้นดอกเบี้ยปลายปี
รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ประจำเดือนก.ย.ชี้ว่า คณะกรรมการส่วนใหญ่ คาดการณ์ว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯในปลายปีนี้
โดยในการประชุมครั้งนี้ เฟดเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ระหว่าง 0.25% – 0.5% แต่มีคณะกรรมการ3 คนที่คัดค้านการตัดสินใจครั้งนี้ ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2557
เฟดแถลงว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นที่จะหนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ตัดสินใจว่าควรจะรอดูเพื่อพิสูจน์ว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัวมากกว่านี้
นายโด ดันแคน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Fannie Mae กล่าวว่า “ มีความขัดแย้งในเฟดครั้งใหญ่ดูเหมือนจะมีการโต้เถียงครั้งใหญ่ในเรื่องทิศทางของดอกเบี้ย เห็นได้ชัดว่า พวกเขาต้องการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ถ้าไม่มีเรื่องแย่ๆเกิดขึ้น ”
เฟดรายงานว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯเริ่มฟื้นตัวขึ้นและการจ้างงานมีเสถียรภาพในช่วงเวลานี้
โดยเสริมว่า ทางเฟดเห็นถึงความเสี่ยงในระยะสั้นที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจว่า ‘ สมดุลแบบขรุขระ ’ นับเป็นครั้งแรกที่ทางธนาคารใช้คำอธิบายนี้นับตั้งแต่ปลายปี 2558 ที่เฟดเพิ่งปรับขึ้นดอกเบี้ย
ทางเฟดเปิดกว้างให้คณะกรรมการบริหารได้ตัดสินใจที่จะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย จนกว่าจะมีหลักฐานที่ชัดเจนกว่านี้ในตัวเลขการจ้างงานและเงินเฟ้อ
คณะกรรมการกล่าวว่า คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะยังคงต่ำอยู่ในเวลาอันใกล้นี้ “ บางส่วนเป็นเพราะราคาพลังงานที่ตกต่ำลงก่อนหน้านี้ ” แต่เงินเฟ้อน่าจะปรับสูงขึ้นไปถึงเป้า 2% ของเฟด
มีความเห็นที่แตกต่างกันในระหว่างคณะกรรมการที่พิจารณาว่ายังไม่ควรจะปรับขึ้นดอกเบี้ยตอนนี้ เนื่องจากมีความผันผวนในตลาด เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว และความกังวลเรื่องเบร็กซิท
ประธานเฟดแจเน็ท เยลเลนกล่าวว่า “ เราเห็นว่าเศรษฐกิจมีการฟิ้นตัวขึ้นมาก แต่ตัดสินใจที่จะรอดูต่อไปก่อนว่าจะมีความก้าวหน้าอย่างที่เราตั้งเป้าไว้ ” โดยเธอกล่าวว่า การคงดอกเบี้ยไม่ได้สะท้อนว่าขาดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ
“ สภาพตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งและเราคาดการณ์ว่าสถานการณ์จะดีอย่างนี้ไปอย่างต่อเนื่อง ” เธอกล่าว
นายลุค บาร์โธโลมิว ผู้จัดการการลงทุนที่ Aberdeen Asset Management กล่าวว่า “ เป็นเรื่องดีที่ยังไม่มีการขึ้นดอกเบี้ยตอนนี้ ” เขากล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เหมือนเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.มากกว่า
แต่เขาเสริมว่า “ การขึ้นดอกเบี้ยเดือนธ.ค.จะไม่มีความหมายที่เห็นผลชัดเจนนัก เราเคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน คือเฟดจะคว้าปืนและตัดสินใจลั่นไกในนาทีสุดท้าย ”