3 รัฐในสหรัฐฯติดเชื้อโควิด-19 ทุบสถิติ
วอชิงตัน : เป็นสัปดาห์ที่สองต่อเนื่องที่รัฐเท็กซัส แอริโซนา และเนวาดาในสหรัฐฯ มีการระบาดของไวรัสโคโรนาพุ่งสูงทำลายสถิติ และอีก 10 รัฐอื่นๆ ตั้งแต่รัฐฟลอริดาไปจนถึงรัฐแคลิฟอร์เนียก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น
โดยโรงพยาบาลเด็กเท็กซัสต้องรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่เป็นผู้ใหญ่เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสที่มีอาการหนักเพิ่มมากขึ้นในเมืองฮุสตันของรัฐเท็กซัส
“ เราทราบว่าโควิด-19 จะไม่หายไป เราขอวอนให้คุณมีความรับผิดชอบ โดยการรักษาระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย หรือสิ่งปกคลุมใบหน้าไว้ตลอดเวลาที่คุณออกจากบ้าน” โรงพยาบาลเด็กเท็กซัสระบุในแถลงการณ์ โดยไม่ได้ระบุตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งนี้
ขณะที่สหรัฐฯ มีท่าทีว่าจะสามารถชะลอการระบาดของไวรัสได้หลายสัปดาห์ในเดือนพ.ค. แต่จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมกลับเพิ่มขึ้น 25% ในสัปดาห์ก่อน โดย 10 รัฐรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มมากกว่า 50% จากการวิเคราะห์ของสื่อรอยเตอร์
สื่อนิวยอร์กไทม์รายงานเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ว่า สหภาพยุโรปเตรียมที่จะห้ามไม่ให้ชาวอเมริกันเดินทางเข้ามา เพราะสหรัฐฯ ล้มเหลวในการควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา
จากรายงานระบุว่า สหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาประมาณ 1 ใน 4 ของโลก และยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น จะถูกจัดให้อยู่กลุ่มเดียวกันกับประเทศบราซิลและรัสเซีย
โดยในเดือนมี.ค. เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในยุโรป ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯประกาศแบนไม่ให้พลเมืองของอียูเดินทางเข้าสหรัฐฯ เพื่อควบคุมการระบาด ทำให้บรรดาผู้นำประเทศในอียูไม่พอใจเป็นอย่างมาก
รัฐแอริโซนาและเนวาดารายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในวันที่ 23 มิ.ย. หลังจากมีผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ในสัปดาห์ที่แล้ว จากการประเมินของรอยเตอร์ ขณะที่รัฐหลุยเซียนา ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการระบาดในสหรัฐฯ ในช่วงแรก มีผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 1,300 รายในวันที่ 23 มิ.ย. นับว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ 7 เม.ย.เป็นต้นมา รัฐเพื่อนบ้านอย่างรัฐมิสซิสซิปปีก็รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พุ่งสูงในวันที่ 23 มิ.ย. ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์
ขณะที่รัฐส่วนใหญ่มีการตรวจทดสอบไวรัสมากขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน มีอย่างน้อย 4 รัฐ ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก โดยรัฐแอริโซนาอยู่ที่ 20% ฟลอริดาและยูทาห์เพิ่มขึ้น 11% และเท็กซัสอยู่ที่ 10% ในทางตรงกันข้าม รัฐนิวยอร์ก ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นศูนย์กลางการระบาดใหญ่ในสหรัฐฯ กลับมีอัตราผู้ติดเชื้ออยู่ที่ประมาณ 1%
โดยองค์การอนามัยโลกระบุว่าอัตราการติดเชื้อโควิด -19 ที่สูงเกินกว่า 5% นั้นน่ากังวลมาก
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ประธานาธิบดีทรัมป์รีบกล่าวโทษว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในหลายรัฐเกิดจากการตรวจทดสอบไวรัสมากขึ้น ไม่ใช่เพราะไวรัสมีการระบาดมากขึ้น
ขณะที่ดร.แอนโธนี เฟาซี ผอ.ฝ่ายโรคติดเชื้อของสหรัฐฯ ระบุว่า เขาเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายรัฐ เป็นสัญญาณชี้ว่ามีการติดเชื้อในชุมชนมากขึ้น
โดยหลายรัฐมีอัตราผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากขึ้น ซึ่งเป็นมาตรวัดที่ไม่ได้มีผลกระทบมาจากการตรวจหาผู้ติดเชื้อ
ในรัฐแอริโซนา จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลพุ่งขึ้นกว่า 2,100 รายในวันที่ 23 มิ.ย. เพิ่มขึ้นถึง 70% จากสองสัปดาห์ก่อน ตอนนี้เตียงในห้องไอซียูมีเหลือเพียง 16% เท่านั้น จากแถลงการณ์บนเว็บไซต์ของรัฐ
หลายวันหลังจากการเดินทางไปหาเสียงครั้งแรกตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นมาที่รัฐโอคลาโฮมา (ซึ่งมีตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน) ทรัมป์เดินทางไปรัฐแอริโซนาในวันที่ 23 มิ.ย.และยังพูดถึงการก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนอีกครั้ง
อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครต ซึ่งคาดว่าจะเป็นคู่แข่งคนสำคัญของทรัมป์ในการเลือกตั้งวันที่ 3 พ.ย.นี้ ให้ความเห็นกับแผนของทรัมห์ที่จะไปปราศรัยหาเสียงกับผู้สนับสนุนหลายพันคนที่เมืองฟีนิกซ์ว่า “ประมาทและไร้ความรับผิดชอบ”